ค้นหาหนัง

7 Days in Entebbe : เที่ยวบินนรกเอนเทบเบ้

7 Days in Entebbe : เที่ยวบินนรกเอนเทบเบ้
เรื่องย่อ : 7 Days in Entebbe : เที่ยวบินนรกเอนเทบเบ้

หนัง 7 Days in Entebbe เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี 1976 เมื่อเหล่าผู้ก่อการร้ายบุกจี้เครื่องบินโดยสาร Air France และถูกบังคับให้ลงจอดที่เมือง Entebbe ประเทศยูกันดา ทางรัฐบาลจึงต้องหาวิธีการเพื่อทำภารกิจชิงตัวประกันกลางแดนเดือด

IMDB : tt5466186

คะแนน : 5



7 Day In Entebbe เป็นหนังกดดันช้าๆ ที่เดินเรื่องด้วยบทสนทนายุบยับ และเต็มไปด้วยบริบททางการเมืองระหว่างทหาร ฝ่ายปกครอง และฝ่ายต่อต้าน แต่ก็เป็นหนังที่ครบเครื่องความเป็นหนังประวัติศาสตร์ชนชาติยิว โดยเฉพาะการพาไปสำรวจทุกพื้นที่ของมนุษย์ในเหตุการณ์นี้ได้อย่างน่าสนใจ มีความลุ่มลึก ความอึดอัด และการเข้าถึงอย่างน่าประหลาด มันทำให้เราสนุกมากๆ อย่างไรก็ตามมันเป็นหนังที่มีความเฉพาะกลุ่มสูง และการพูดคุยกัน รวมไปถึงการดำเนินเรื่องทั้งหลาย ก็เหมือนจะตั้งอยู่บนสุมมติฐานที่ว่าคนดูมีความรู้ด้านยิวมาก่อน ซึ่งก็นั่นแหละถ้าไม่ทำการบ้านมา ก็อาจดูหนังไม่รู้เรื่องเลย ทำให้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน

7 Day in Entebbe เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง จากการจี้เครื่องบินของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนปาเลสไสตน์ในปี 1976 บนสายการบิน Air France จากกรีกไปปารีส โดยเป็นการจี้เครื่องบินที่ได้รับการร่วมมือจากเยอรมันหัวขบถที่ต่อต้านเผด็จการ 2 คนและปาเลสไตน์อีก 2 คน ก่อนจะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเอนเทบเบ้ในอูกันด้า ที่ตอนนั้นสงครามเย็นกำลังลุกเป็นไฟ อูกานด้าเองก็เลือกจะเอาใจรัสเซียด้วยการช่วยเหลือการจี้เครื่องบินนี้ โดยแนวร่วมก่อการร้ายปาเลสไสตน์พยายามเจรจากับอิสราเอลเพื่อปล่อยนักโทษทางการเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับอำนาจทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยปกครองกลาโหม และรัฐบาลว่าตกลงเราจะเจรจา หรือไม่เจรจาและจัดการอย่างเฉียบขาด ที่จะนำไปสู่การช่วยเหลือสายฟ้าแล่บอันโด่งดังไปทั่วโลกในยุคนั้น และทำให้หน่วยมอสสาร์ดที่เป็นหน่วยลับคล้าย CIA ของอเมริกาได้เชิดชูในวงการหน่วยข่าวกรองมาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งหนังจะพาเราเข้าไปสำรวจทุกๆ พื้นที่ของเหตุการณ์เหล่านั้น ผ่านตัวละครที่เป็นหมากจากฟากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวประกัน วิศวกรกัปตันชาวฝรั่งเศษ ปาเลสไตน์หัวรุนแรง กลุ่มเยอรมันแบบนักปฏิวัติ หน่วยรากทหารของมอสสาร์ด ประชาชนชาวยิวที่ต้องเผชิญกับนโยบายเหล่านั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ยืนยันว่าจะจัดการทุกอย่างด้วยความเฉียบขาด ไม่เจรจา กับนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะฝ่ายปกครองที่ต้องเผชิญกับความรับผิดชอบจากหลายๆ ช่องทาง ทั้งในการรับมือกับความสูญเสีย การหยั่งเสียงนโยบาย การเจรจา หรือรับมือกับการปฏิบัติการที่ผิดพลาด โดยเขามองว่าถ้าหากไม่เจรจา เราก็จะต้องสู้ไปต่อเรื่อยๆ