IMDB : tt0482930
คะแนน : 7
ชื่อไทยของหนังเรื่องนี้ติดหูผมมานานครับ ฟังทีแรกก็สะดุดหูเลย แต่เพิ่งมามีโอกาสได้ดูก็หลังจากดู Ip Man ไปหลายภาคแล้ว ซึ่งผมก็มารู้ตอนดูนี่แหละว่า Wilson Yip แห่ง Ip Man เป็๋นคนกำกับ และพี่ Donnie Yen นอกจากเล่นนำแล้ว ยังเป็นคนกำกับคิวบู๊ด้วย
และยอมรับว่าตอนเห็นลุคพี่ Donnie Yen เป็นไอ้หนุ่มผมยาวแบบในเรื่องนี้ก็อดฮาไม่ได้ครับ เพราะติดภาพลักษณ์พี่ Donnie ในมาดยิปมันไปแล้วน่ะ (นึกไปถึงอาจารย์ยิปผมยาวเลยครับ 555)
หนังสร้างจากการ์ตูน (ที่ผมไม่เคยได้อ่าน) เรื่องของสองพี่น้องหวังเสี่ยวหลง (Yen) และหวังเสี่ยวหู่ (เซียะถิงฟง) ที่มีอันต้องพลัดพรากกันตั้งแต่ยังเด็ก ครั้นพอโตขึ้นพวกเขาก็มาพบกัน (แบบจำกันไม่ได้ในตอนแรก) แล้วก็มีอันต้องปะทะกันตามสูตรครับ ซึ่งฝีมือของทั้งคู่ก็นับว่าไม่ธรรมดา แล้วพวกเขายังได้เจอกับ สือเฮยหลง (Shawn Yue) ยอดฝีมือกระบองสองท่อน ก่อนที่พวกเขาจะมาร่วมมือกันรับมือกับจอมมารร้ายในภายหลัง
ผมชอบช่วงต้นๆ ครับ คิวบู๊ทำออกมาได้มันส์ดี ไม่ว่าจะฉากที่เสี่ยวหู่บู๊ในภัตตาคารก่อนจะเจอกับเสี่ยวหลง แล้วอีกช่วงก็ตอนไปบู๊กันในร้านอาหารญี่ปุ่น ช่วงแรกๆ นี่หนังเสิร์ฟฉากบู๊ได้มันส์แบบพอเหมาะดี มีกิมมิคระหว่างบู๊ที่ค่อนข้างน่าจดจำด้วย
ครั้นพอเรื่องมาถึงตอนกลางๆ อันเป็นช่วงเล่าเรื่องตัวละครและถ่ายทอดเรื่องราวเชิงดราม่า ช่วงที่ว่านี้ออกแนวเรื่อยๆ ครับ ความน่าสนใจไม่ถือว่าเยอะ พูดตรงๆ เลยคือปมต่างๆ ในเชิงดราม่ายังไม่ดึงดูดเท่าท่ี่ควร ส่วนที่ทำให้หนังน่าสนใจจริงๆ นั้นต้องยกให้ฉากบู๊นี่แหละครับ ซึ่งก็จะมีเยอะตอนต้นๆ กับตอนท้ายในช่วงไคลแม็กซ์ที่ 3 ตัวละครหลักต้องไปปะฉะดะกับจอมมาร
แต่ให้ว่ากันตรงๆ แล้ว ช่วงไคลแม็กซ์ที่สู้กับจอมมารนั้น แม้มันจะอลังการและฉากดูยิ่งใหญ่ แต่ในแง่ความพลิ้วไหวสะบัดลายแล้วยังถือว่าน้อยกว่าตอนต้นๆ ส่วนหนึ่งคงเพราะฉากบู๊ตอนท้ายนี่มันออกแนวแฟนตาซีน่ะครับ ตัวละครมาอัดพลังใส่กันมากกว่าจะอัดหมัดประเคนเท้าแบบช่วงแรกๆ
โดยรวมแล้วหนังก็จัดว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ โอเคตรงฉากบู๊ (ซึ่งก็ยังไม่ถือว่าเด็ดเท่า Ip Man) ในขณะที่ด้านเนื้อเรื่องก็จัดว่าเรื่อยๆ (แบบยังเข้มได้อีก)… ผมว่าถ้าผมดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนมันออกฉาย ผมอาจจะชอบกว่านี้น่ะครับ เพราะสำหรับเมื่อปี 2006 (พ.ศ. 2549) หนังน่าจะถือว่าสดพอตัว แต่พอเรามาดูไล่หลังไปเป็นสิบปี และมีหนังยัง Ip Man ถือกำเนิดมาอีกด้วย เลยไม่แปลกหากความชอบจะไม่ถึงกับมากนัก