ค้นหาหนัง

A Chinese Odyssey Part Two: Cinderella | ไซอิ๋วกี่ เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 2

A Chinese Odyssey Part Two: Cinderella | ไซอิ๋วกี่ เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 2
เรื่องย่อ : A Chinese Odyssey Part Two: Cinderella | ไซอิ๋วกี่ เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 2

จากภาคที่แล้วยังซนไม่เลิก เห้งเจีย (โจวซิงฉือ) พลัดหลงไปเมื่อ 500 ปีก่อน แล้วได้พบกับสาวน้อย จื่อเสีย ผู้เสี่ยงรักด้วยการดึงดาบออกจากฝัก ใครทำได้คนนั้นคือคู่ครองของเธอได้ขโมยกล่องแพนโดร่าเพื่อต่อรองให้เห้งเจียทดลองดึงดาบก็สำเร็จ เธอจึงตัดสินใจเลือกเห้งเจียเป็นคู่ครอง โดยได้ติดตามไปไหนต่อไหนจนได้พบกับ ตือโป้ยก่าย , ซัวเจ๋ง ทั้งคู่ติดตามมาเพื่อเอาของให้เห้งเจียไปช่วยอาจารย์ พระถังซำจั๋ง แต่ก็ยังไม่ถูกลดละจากการตามล่าของปีศาจวัวกระทิง มันประกาศเอาจื่อเสียเป็นเมียน้อยและรับเห้งเจีย เป็นลูกเขยหลังจากที่ได้ช่วยให้พ้นเงื้อมมือปีศาจแมงมุม เรื่องราววุ่นวายไล่ล่าไม่รู้จักจบสิ้น สร้างเสียงฮือฮาที่ไม่หยุดยั้ง จนเห้งเจียปลงเสียแล้วว่า โลกใบนี้ไม่มีสิ่งแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของความรัก ยิ่งรักมากยิ่งทุกข์มาก จึงตกลงที่จะเดินทางตามอาจารย์ไปสร้างตำนานพระไตรปิฎกที่ชมพูทวีป โดยยอมรับอาวุธและกระบองทองกลับมาเป็น พญาลิงเห้งเจีย อีกครั้งให้เหล่าปีศาจได้หวาดกลัว

IMDB : tt0114996

คะแนน : 8



ในตอนจบของภาคแรกจุนเป่าได้ถูกพาย้อนมา 500 ปี และได้เห็นหน้าค่าตาของแม่นาง จื่อเสีย ที่นำแสดงโดย จูอิน ทิ้งท้ายเอาไว้ มาในภาคนี้จื่อเสียก็คือจอมเทพสายใยคนรักที่แท้จริงของจุนเป่า และคือคนที่ทำให้จุนเป่ากลายเป็นเห้งเจียอีกครั้ง จื่อเสีย เป็นไส้ตะเกียงของพระยูไลที่แปลงร่างหนีลงมาหาคู่บนโลกมนุษย์ นางมีวรยุทธและอิทธิฤทธิ์ มีฝีมือการต่อสู้ที่ร้ายกาจถึงขั้นรับมือกับเหล่าเทพที่มาตามจับตามตัวนางได้สบายมือ การรับบทเป็นจื่อ เสียของจูอินทำให้ตัวละครตัวนี้ออกมาดูฉลาดมีไหวพริบ จื่อเสียเป็นหญิงสาวจอมขี้เล่นยียวน นางมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนให้หลงใหล แถมยังน่ารักสวยสดใสทรมานใจชาย แม้ใครเจอก็อดใจไม่ไหวที่จะหลงรักนางในทันที เป็นลักษณะของหญิงที่ทำให้ชายชาตรียินดีสร้างสงครามเพื่อแย่งชิงนางมาครอบครอง ที่สำคัญคือดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง ความหวังที่จะได้พบรักกับเนื้อคู่ที่ตนเองเฝ้าฝัน และเมื่อเธอได้รู้ว่าจุนเป่าคือเนื้อคู่ของเธอ เธอก็เลือกที่จะตกหลุมรักเค้าตามที่โชคชะตาฟ้าลิขิตเอาไว้ ในจังหวะนี้การแสดงของจูอินทำให้เราได้เห็นว่าเวลาที่ผู้หญิงมีความรัก เวลานั้นเธอจะมีพลังเพื่อต่อกรกับทุกสรรพสิ่ง และไม่กลัวซึ่งความตาย ดังที่เธอได้พูดเอาไว้ว่า

"คนเรามีความรัก ถึงรู้ว่าเป็นกองไฟก็ยังเดินเข้าไป"
จื่อเสียคือตัวละครนางเอกที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบเอามากๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จุนเป่าจะพูดว่า 'คนแบบเธอหาได้ยาก' เมื่อครั้นที่เค้าต้องหนักใจกับคำถามที่ว่าตนเองรักใครกันแน่ระหว่างจิงจิงกับจื่อเสีย

ย้ายมาดูมุมมองในภาคนี้ของจุนเป่ากันบ้าง... 
จุนเป่ายังคงโง่เง่าเรื่องความรัก แม้ว่าการย้อนเวลาจะเลยเถิดมาเป็น 500 ปีก่อนหน้า แต่เค้ายังคงฝังใจกับภารกิจเดิมของตนเองอยู่ นั่นคือการช่วยเหลือแม่นางจิงจิงกลับไปและทำให้นางมีความสุข โดยเค้าเชื่อว่าสิ่งที่เค้ามีต่อแม่นางจิงจิงนั้นคงเรียกได้ว่ามันคือ ความรัก ทั้งๆที่จริงแล้วเค้าแทบไม่รู้จักมันเลยด้วยซ้ำ ในระหว่างนั้นเนื้อเรื่องก็เกิดความวุ่นวายอลหม่านขึ้น เพราะปีศาจกระทิงต้องการได้ตัวจื่อเสียไปเป็นศรีภรรยาน้อยของมัน เรื่องราวการแย่งชิงยังคงดำเนินต่อไป กว่าที่จุนเป่าจะรู้ตัวว่าตนเองรักใครเนื้อเรื่องก็เดินทางมาเกินครึ่งนึงซะแล้ว จุนเป่าพาตัวเองมานั่งครุ่นคิดอยู่ในถ้ำสายใยว่าเค้าควรจะเลือกใครดี ระหว่างจิงจิงกับจื่อเสีย ในเวลานี้มี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันนั่นคือ จุนเป่าได้เจอจิงจิงและขอจิงจิงแต่งงาน (เพราะเชื่อว่าการแต่งงานคือการจบสิ้นภารกิจที่จะทำให้จิงจิงมีความสุข ช่างเป็นความคิดของคนที่บ้องตื้นเสียจริงๆ) จื่อเสียกำลังถูกปีศาจกระทิงจับเข้าพิธีแต่งงาน (โดยที่นางไม่มีแววตาที่กังวลแม้แต่น้อย เพราะนางเชื่อว่ายังไงคนรักของนางต้องขี่เมฆเจ็ดสีกลับมาช่วยนางอย่างแน่นอน นี่ก็มั่นสุดๆ)

"ความรักเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่ต้องคิด"
สหายยาจกคนนึงได้กล่าวขึ้นหลังจากเขาเล่าให้จุนเป่าฟังว่าเมื่อคืนจุนเป่านั้นนอนละเมอเพ้อพบเป็นชื่อของผู้หญิงที่ชื่อจื่อเสียตลอดคืน ทั้งๆที่ตนเองก็กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับจิงจิง แต่งานแต่งนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะจิงจิงรู้ดีว่าผู้หญิงที่จุนเป่ารักที่แท้จริงนั้นคือใครเธอจึงหนีหายไป (จิงจิงเข้าไปใน 'หัวใจ' และเห็นชื่อของจื่อเสียสลักไว้) จุนเป่าเริ่มสิ้นหวังและไร้ทิศทางในการไปต่อ แถมกลุ่มสหายยาจกที่เพิ่งสนิทกันก็โดนปีศาจแมงมุมฆ่าโดยไม่มีการลังเลใจ ซึ่งจุดนี้จุนเป่าเริ่มปลงตกและคิดได้ถึงเหตุผลของการเดินทางย้อนเวลาครั้งนี้ของเค้า มาถึงจุดนี้เนื้อเรื่องเริ่มไต่ระดับขึ้นอีกครั้งโดยการที่จินเป่าเริ่มเข้าใจในสัจธรรม  การกลับชาติมาเกิดในครั้งนี้ทำให้เค้าได้เรียนรู้ถึง 'ความรัก' 'ความแค้น' 'ความตาย' ชีวิตเค้าได้ทำเรื่องผิดต่อผู้อื่นไว้มากมายรวมถึงคนที่เค้ารักมากที่สุด

"เมื่อก่อนข้าเคยมีความรัก แต่ไม่รู้จักทะนุถนอม เมื่อเสียไปแล้วกลับเสียดาย โลกมนุษย์ช่างเจ็บปวดยิ่งนัก"
นี่คือส่วนหนึ่งในประโยคอธิษฐานของจุนเป่าก่อนหน้าที่เค้าจะกลับเป็นเห้งเจีย ซึ่งคิดว่าเหตุผลหลักที่ทำเค้าตัดสินใจกลับเป็นเห้งเจียอีกครั้งคือ การปลงตกเรื่องสัจธรรมความรัก ตอนแรกผมคิดว่าเป็น 'ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์' ซึ่งมันไม่น่าจะตรงพอ เพราะอันที่จริงแล้วความรักก็เป็นสิ่งสวยงามแต่ 'ยิ่งรักมาก ยิ่งเจ็บปวดมาก' น่าจะเป็นสัจธรรมที่ตรงกับเนื้อเรื่องมากที่สุด แม้จะยังไม่ตรงกับไดอะล็อกของจุนเป่าเท่าไหร่ จุนเป่าไม่อยากมีความรักอีกต่อไป เพราะความรักทำให้เค้าพบกับความเจ็บปวดเสียใจ โดยที่ได้มงคลสวมหัวจากเจ้าแม่กวนอิมไว้เป็นเครื่องเตือนสติ ว่าหากยามใดที่เค้ามีความรัก ให้ระลึกไว้เสมอว่ามันจะทำให้เค้าเจ็บปวด การกลับมาเป็นเห้งเจียผู้ทรงอิทธิฤทธิ์นั่นแปลว่าจุนเป่าได้หยุดความรักของตนไว้ที่แม่นางจื่อเสีย ทำให้เธอกลายเป็นความรักครั้งสุดท้ายของตน เค้าพร้อมที่จะละเรื่องทางโลก และไม่สามารถมีความรักได้อีกต่อไป ลืมอดีต ลบทุกอย่าง จะไม่มีผู้ชายที่ชื่อจุนเป่าอีกต่อไป เมื่อเห้งเจียคืนชีพก็มาก็รีบไปช่วยเหลือพระถังซัมจั๋งที่โดนปีศาจกระทิงจับไว้ในทันใด แต่ไม่มีโศกนาฏกรรมไหนที่ไม่มีการสูญเสียเพราะจื่อเสียได้ถูกปีศาจระทิงแทงตายอย่างต่อหน้าต่อตา เห้งเจียผู้ที่ไม่สามารถรักใครได้ถึงกับกรีดร้องและเริ่มมีอาการคลุ้มคลั่งที่ต้องสูญเสียคนรักของตัวเองไป จื่อเสีย ลมหายใจอ่อนลงเธอกล่าวถึงคนรักของเธออย่างภาคภูมิใจว่า

"ผู้ชายที่ข้ารัก ต้องเป็นคนองอาจ เค้าจะนั่งเมฆเจ็ดสีมารับข้าในงานวิวาห์ ข้าทายถูกตั้งแต่ตอนต้น แต่ข้าไม่คาดฝันว่าจะจบแบบนี้ "
ความรักของจื่อเสียช่างน่าเทิดทูน ลมหายใจของเธอสิ้นลง เห้งเจียร้องไห้เสียใจอย่างหนัก มงคลบีบรัดศีรษะจนดิ้นทุรนทุรายทำให้กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เค้าลงมือฆ่าปีศาจกระทิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ในฉากนี้การแสดงของทั้งจูอินและโจวซิงฉือทำออกมาได้อย่างซาบซึ้งกินใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการจากไปของจื่อเสียเป็นอะไรที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย บางทีเราอาจคิดว่าเราพร้อมที่จะบอกลาใครซักคน แต่มันต้องไม่ใช่เป็นแบบนี้ มันไม่ควรเป็นการจากลาที่ไม่มีวันได้หวนกลับมาแบบนี้ คนที่ตายไปแล้วต่อให้ตะโกนคำว่า 'คิดถึง' อีกกี่หมื่นกี่แสนครั้งก็ไม่อาจทำให้เราหายคิดถึงเค้าได้ ที่สำคัญคือเห้งเจียไม่สามารถแสดงความรักหรือเสียใจออกมาได้ อยากร้องไห้ให้อกแตกตายก็ยังไม่สามารถทำได้ มันคงเป็นการจากลาที่ ทรมาทรกรรมที่สุดในชีวิตของเค้าแล้ว ในขณะที่กำลังซึมซาบบรรยากาศของการสูญเสียอย่างช้าๆ ก็เหมือนถูกตบหน้าให้หันมอง เมื่อกล่องแสงจันทร์ได้เปิดออกอีกครั้งแล้วนำพาคณะเดินทางสู่ชมพูทวีปท่องอนาคตไปอีก 500 ปีข้างหน้า เห้งเจี้ยและชาวคณะกลับมาอยู่ในถ้ำสายใยอีกครั้งนึง เรียกเอาคนดูปรับอารมณ์ตามกันแทบไม่ทัน ถึงอย่างไรการกลับมาครั้งนี้ก็คุ้มค่าเพราะทำให้เห้งเจียได้พบกับ จื่อเสีย และ จุนเป่า ยืนทะเลาะกันอยู่กลางเมือง นี่คือโอกาสครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เห้งเจียจะได้บอกลาแม่นางจื่อเสีย เค้าเลือกที่จะเข้ายึดร่างของจุนเป่าชั่วขณะเพียงเพื่อจะบอกความรู้สึกที่เค้าไม่สามารถแสดงออกมาได้ด้วยตัวเอง

"ข้าอยากบอกเจ้ามานานแล้ว ว่าข้ารักเจ้า"
เห้งเจียเก็บจุมพิตและกอดสุดท้ายของจื่อเสียเอาไว้ ก่อนเดินจากไปตลอดกาล