IMDB : tt12877640
คะแนน : 7
หนังเรื่องนี้สมชื่อ A Classic Horror Story เพราะความสยองขวัญและเนื้อเรื่อง มีการอ้างอิงมาจากหนังสยองขวัญชื่อดังหลาย ๆ เรื่อง เช่น The Texas Chainsaw Massacre และ Friday the 13th หนังเรื่องนี้รวมเอาความคลาสสิคของการเป็นหนังสยองขวัญไว้ครบ อย่างฉากที่แสนเรียบง่าย ทั้งฉากในบ้าน โต๊ะกินอาหาร ฉากในรถบ้าน ฉากการตายแบบทรมานและน่าสยดสยอง ปริศนาของการติดกับกลางป่าและการเอาตัวรอด ถึงจะเป็นหนังสยองขวัญแต่ไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีโมเมนต์ตลกขำ ๆ เสียดสีอะไรแบบ Scream หรือ Scary Movie เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เป็นหนังสยองขวัญจริง ๆ ถึงจะมีโมเมนต์เสียดสีอยู่บ้างแต่ไม่ขำนะ เนื้อเรื่องโดยรวมทำได้ดี การผูกปม การดำเนินเรื่องเพื่อหาทางเอาตัวรอด การไขปมทำได้ดี ถึงแม้จะอ้างอิงหนังสยองขวัญหลายเรื่อง แต่ตอนจบ ประมาณ 20 นาทีท้ายของเรื่องถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองค่อนข้างสูง ให้คะแนนตอบจบของเรื่อง 8.5/10 เลย
นักแสดงนำมาทิลดา ลุตซ์ ทำได้ดีในบท เอลีซ่า สาวสวยเรียนเก่ง แต่กำลังจะทำสิ่งผิดศีลธรรม เพราะปัญหาการเงินของครอบครัว เมื่อต้องมาเผชิญหน้าเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ยังคงมีสติ ฮึดสู้ ยืนหยัดเพื่อเอาชีวิตรอด ทั้งฉากร้องไห้ รันทด ต่อสู้ มาทิลดาเอาอยู่ เธอจัดเสิร์ฟมาให้แบบจัดเต็ม ดูแล้วได้ความรู้สึกอึดอัด สะใจ และก็โล่งใจ ส่วนตัวละครตัวอื่น ๆ นั้นบทบาทไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก ฉากที่ผู้เขียนประทับใจการแสดงของมาทิลดา มีด้วยกันหลายฉากแต่ชอบที่สุดเป็นซีนหัวเราะตอนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ รู้สึกว่าเธอหัวเราะได้สะใจมาก จนสงสัยว่าถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้น มันคงอยากจะหัวเราะออกมาอย่างนั้นจริง ๆ ให้คะแนนนักแสดงนำมาทิลดา 10/10
ในการดำเนินเรื่องช่วงแรก ส่วนตัวคิดว่าใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะถึงจุดระทึก สักประมาณ 30 นาทีแรกเป็นช่วงเวลาทำความรู้จักตัวละครแต่ละตัว สร้างปมให้คนดูสงสัย ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มีใครในกลุ่มน่าสงสัยไหม ซึ่งระยะเวลาช่วงแรกนี้อาจจะค่อนข้างนานไปสักนิด หากคาดหวังความสยองขวัญสุด ๆ แบบที่ต้องปิดตา ปิดเสียง ทนดูไม่ได้ มีการทรมานอันน่าสยดสยอง อวัยวะจะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ จะตายไม่ตาย จะรอดไม่รอด ในเรื่อง A Classic Horror Story ก็มีนะแต่ไม่ได้เยอะมากจนต้องปิดตาตลอด แต่ความหลอนความน่ากลัว ของเรื่องมีอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย แค่ตัวบ้านไม้ร้างกลางป่าก็ดูหลอนจนบอกตัวเองว่า ถ้าเจอบ้านแบบนี้กลางป่า อยู่ให้ห่าง ๆ ดีกว่า เพราะมองด้านนอก ตัวบ้านก็ดูหลอนคล้ายสัญลักษณ์ปีศาจหน่อย ๆ แล้ว แต่ถ้าคาดหวังฉากหลอนสะดุ้ง อะไรทำนองนั้น เรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีให้เยอะ เพราะดูเหมือนจะเน้นที่ตัวเนื้อเรื่อง ให้คะแนนความน่ากลัว 7.5/10
ภาพฉากที่เป็นกลางวันก็ดูสดใส มีชีวิตชีวา ให้ความหวังท่ามกลางความหดหู่ ยกตัวอย่าง ตอนที่ทุกคนเจอกับบริเวณทิ้งซากรถ ดูมีความหวัง แสงสี ดูสวย ดูเป็นบริเวณที่จะใช้เป็นที่ทิ้งซากรถกลางป่าจริง ๆ ตอนดูยังแอบคิดว่า เวลาเห็นป่ายาวต่อกันแบบไม่สิ้นสุด เราแทบจะไม่รู้เลยว่าตรงกลางป่า อาจจะมีคนเอาซากรถไปทิ้งรวมกันไว้ก็ได้ ภาพกลางคืนก็ดูสยองขวัญ ไม่อยากให้ถึงตอนกลางคืน ยิ่งฉากรวมตัวกันของทุกคน ท่ามกลางเวที มีแสงสีแดง พร้อมหมอกควันต่าง ๆ ทั้งสีแดงสีขาว เพิ่มความหลอน ความเหมือนจริงให้กับหนังได้อย่างดี แต่ไม่ใช่ทุกฉากจะดูเหมือนจริง มีบ้างบางฉากที่คิดว่า เรื่องจริงมันไม่ใช่อย่างนี้หรอก ใครจะทำกันอย่างนี้ แต่ไม่ได้มีเยอะมาก เลือกมองข้ามเพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไป เพราะเนื้อเรื่องก็น่าสนใจพอ ๆ กับความสยองขวัญ ให้คะแนนภาพและความเหมือนจริง 8/10
เนื้อเรื่องน่าติดตาม ให้ 8/10 เนื้อเรื่องที่ต้องคลายปม ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป แล้วมีตัวละครให้สงสัยว่า คนนี้แหละ มีอะไรแปลก ๆ แต่ไม่รู้ว่าแปลกยังไง แต่รู้ว่าแปลก ทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามต่อไปว่า ใช่อย่างที่คิดไว้ไหมแล้วเรื่องทั้งหมดมันคืออะไร ซึ่งหนังไม่ทำให้ผิดหวัง ผูกปม แก้ปมได้ไม่คาใจเท่าไร่นัก ยอมรับว่าเป็นผลงานสยองขวัญของอิตาลีเรื่องแรกที่เคยดู ก็ถือว่าสอบผ่าน ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้
ตอนท้ายหนังแอบมี Gimmick การล้อเลียนตัวเอง ยกตัวอย่าง เสื้อที่นักแสดงนำชายใส่ มีคำว่า Spoiler ตอนท้ายมีการตั้งชื่อแพลตฟอร์ม สตรีมมิ่ง ว่า bloodflix สะท้อนความนิยมของระบบสตรีมมิ่ง ให้คะแนนในการรับชมโดยรวม 8/10 หนังเรื่องนี้น่าจะถูกใจคอหนังสยองขวัญอยู่บ้างทั้งการดำเนินเรื่อง เนื้อเรื่อง ภาพ นักแสดงนำ และตอนจบที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างคาดไม่ถึง แถมเดาแถบไม่ออกเลย สุดท้ายก็ขอแสดงความยินดีกับผู้กำกับ โรแบร์โต เด เฟโอ และ เปาโล สตริปโปลี ที่ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในงาน Taormina Film Fest 67 ในประเทศอิตาลี สามารถรับความสยองขวัญเขย่าประสาทจากหนังเรื่อง A Classic Horror Story สร้างหนังสั่งตาย ได้ทาง Netflix