IMDB : tt0384793
คะแนน : 6
Accepted (2006) หากดูจากปีที่ฉายแล้วนับว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเก่าที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องราวของผู้กำกับอย่าง สตีฟ พิงค์ ที่ตั้งใจนำเสนอเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นหลังเรียนจบไฮล์สคูล
หนัง Accepted (2006) หรือชื่อภาษาไทยว่า จิ๊จ๊ะ มหาลัยคนรักแห้ว เป็นเรื่องราวของเหล่านักเรียนไฮล์สคูลจบใหม่ที่กำลังหาสถาบันดี ๆ เรื่องต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่แล้วชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่หวังเสมอเพราะพวกเข้าเหล่านั้นล้วนถูกนานามหาวิทยาลัยปฏิเสธอย่างสิ้นหวังอยู่เสมอ เมื่อการเข้ามหาวิทยาลัยมันไม่ง่ายอย่างที่คิด บวกแรงกดดันและความคาดหวังของครอบครัวที่อยากให้เรียนในสถาบันที่ดีมีอนาคตที่สดใส ความพยายามของเหล่านักเรียนสุดแห้วที่พร้อมล่าปริญญาถูกทุกมหาวิทยาลัยปฏิเสธทุกครั้ง ด้วยเหตุผลนานาประการ ทั้ง I.Q.ต่ำ ติดยาเสพติด ผิดปกติทางด้านร่างกาย หรือผลการเรียนแย่ นั่นผลักดันให้พวกเขาก่อกำเนิดสร้างมหาวิทยาลัยใหม่กันเองเลยสะเลย
เข้ามหาลัยไม่ได้ก็สร้างมหาลัยเองไปเลย! เป็นวลีเด็ดของกลุ่มเพื่อนของ จัสติน ลอง พระเอกของเรื่องนี้ที่เขาก้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักเรียนที่ถูกมหาวิทยาลัยปฏิเสธในการเข้าเรียน แต่กลับโกหกพ่อแม่แล้วทำเงินค่าเทอมของเพื่อน ๆ มาร่วมกันเพื่อเนรมิตรตึกเก่าเป็นรั้วมหาวิทยาลัยที่ชื่อว่า South Harmon Institute of Technology หรือตัวย่อว่า S.H.I.T เพื่อความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัยพระเอกอย่าง จัสติน ลอง และพ้องเพื่อนจึงจัดทำเว็บไซต์มหาวิทยาลัยขึ้นเพื่อตบตาครอบครัว แต่ดันเกิดข้อผิดพลาดที่ว่าเหล่ากลุ่มคนทีี่ถูกปฏิเสธ จำพวกหัวอกเดียวกันมาเข้าเว็บไซต์แล้วรู้ว่ามหาวิทยาลัยนี้รับเลย พร้อมใจกันเดินทางมาชำระค่าเทอมทันที จากเรื่องเล็ก ๆ กลายเป็นบานปลายเพราะเหล่านักศึกษาสุดแห้วต่างมารวมตัวกันที่ S.H.I.T จึงเป็นเรื่องที่พระเอกต้องคิดแก้ปัญหา ทำให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ จัดสรรวิชาการด้วยตัวเองตามความถนัดของตนเองขึ้น
หนังเรื่องนี้ดูแล้วสนุกมาก ๆ เลยนะครับ มีมุมตลก มุมดราม่า และจริงจัง แต่สุดท้ายเรื่องกลับปานปลายไปกันใหญ่เพราะเหล่านักศึกษาที่อยู่มหาวิทยาลัยดังพร้อมด้วยคณาจารย์ได้ฟ้องร้องถึงเรื่องที่เกิดขึ้นถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ผลสรุปอย่างไรเพื่อน ๆ ลองไปติดตามกันดูนะครับ
หลังจากลูก ๆ ดูด้วยตนเองสักหนึ่งรอบ ผมว่าเราควรตามให้พ่อแม่มารับชมด้วยนะครับ เพราะนอกจากหนังจะสนุก ภาพสวยแล้ว ยังสะท้อนความคิดที่ให้เราได้ย้อนมองตัวเราเองด้วย ที่บ้านเราประเทศไทยเองก็มีปัญหาไม่ต่างกันกับในหนังเรื่องนี้ คือพ่อแม่คาดหวัง กดดันอยากให้ลูกเข้ามหาลัยดี ๆ ดัง ๆ แต่พอเข้าไม่ได้พ่อแม่ก็จะผิดหวัง เสียใจ ถ้ายิ่งไม่มีมหาลัยไหนรับเลยจนเสียเวลาไปหลาย ๆ ปีเข้า ก็จะเป็นความอับอายของครอบครัวและวงศ์ตระกูล กลายเป็นความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าใครจบมหาลัยดี ๆ ดัง ๆ ผู้นั้นจะเป็นผู้พัฒนาประเทศในอนาคต แต่ความเป็นจริงแล้วส่วนมากไม่ได้คิดที่จะพัฒนาประเทศเลย แค่เข้ามหาลัยดัง ๆ เพื่อที่จะได้ดูหล่อดูเท่หรือได้โอกาสหางานดี ๆ เงินเดือนสูง ๆ แค่นั้นเอง สิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับหนังคือการได้มองว่าเราค้นพบความเป็นตัวเองของเราแล้วหรือยังเราชอบในสิ่งไหนเราควรลงมือทำกับสิ่งนั้นให้เต็มที เพราะสุดท้ายแล้วมันจะเกิดผลประกอบอาชีพได้หรือไม่ได้ อย่างน้อยเราก็ได้ทำสิ่งที่เรารักและทุกวันในการใช้ชีวิตเราก็มีความสุขภาพ
ภาพสวย ดำเนินเรื่องดี ให้ข้อคิดแกผู้ชมมากเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย หากทุกคนคิดว่าการเรียนในสถาบันการศึกษาที่ดัง ๆ ดี ๆ แล้วจะตอบโจทย์ในการเรียน ผมแนะนำหนังเรื่องนี้นะครับแล้วคุณจะเปลี่ยนทัศนคติใหม่ได้เลย