ค้นหาหนัง

Along Came a Spider ฝ่าแผนนรก ซ้อนนรก

Along Came a Spider
เรื่องย่อ : Along Came a Spider ฝ่าแผนนรก ซ้อนนรก

อเล็กซ์ ครอสส์(Morgan Freeman) ตำรวจนักสืบยอดฝีมือต้องเล่นเกมเดิมพันกับแกรี่(Michael Wincott) คนร้ายที่ก่อเหตุลักพาตัวลูกสาววุฒิสมาชิก เพื่อหลอกล่อให้อเล็กซ์เข้ามารับทำคดีนี้ จุดประสงค์ยังไม่แน่ชัด แต่ด้วยแผนการที่วางมาอย่างละเอียดแยบยล อเล็กซ์จึงจำเป็นจะต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ลับเจสซี่(Monica Potter) ในการหยุดยั้งแกรี่ให้ได้ แต่ทว่าเมื่อยิ่งสืบลึกลงไปถึงใจกลางของแผนการนี้ อเล็กซ์กลับพบว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวแอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง

IMDB : tt0164334

คะแนน : 6



นี่คือหนังภาคต่อของ Kiss the Girls ครับ แต่ถ้าว่ากันตามลำดับนิยายแล้ว Along Came a Spider คือนิยายเรื่องแรกสุดในชุดของนักสืบอเล็กซ์ ครอสครับ (ประพันธ์โดย James Patterson)

ภาคนี้ Morgan Freeman กลับมารับบทนักสืบครอสอีกครั้ง ส่วนคดีที่ต้องเผชิญก็คือหนูน้อยเมแกน โรส (Mika Boorem) ถูกลักพาตัวไปจากโรงเรียน ครอสก็เลยต้องใช้ความสามารถในการสืบสวนและการวิเคราะห์ด้วยจิตวิทยาเพื่อตามหาร่องรอยของคนร้าย และช่วยชีวิตหนูน้อยเมแกนกลับมาให้ได้

โปรเจคท์ภาคต่อนี้ไฟเขียวตั้งแต่ตอนที่ Kiss the Girls ยังไม่ออกจากโรงน่ะครับ แล้วก็มีการทาบทามให้ผู้กำกับ Gary Fleder กลับมาทำภาคต่อด้วย แต่เขาบอกปัดไปทำเรื่อง Impostor แทน แล้วหนังก็ได้ Lee Tamahori ผู้กำกับ Mulholland Falls และ The Edge มารับไม้แทน (ซึ่งถัดจากเรื่องนี้เขาก็ไปทำเจมส์ บอนด์ภาค Die Another Day ต่อครับ)

จัดเป็นหนังสืบสวนที่ดูได้แบบเรื่อยๆ ครับ จังหวะการเดินเรื่องอาจยังไม่ลงตัวเต็มที่ มีความอืดบ้าง และปมปริศนาในเรื่องก็อาจเดาง่ายไปบ้าง ถ้าเทียบเคียงกับภาคก่อนก็คงต้องบอกว่าภาคก่อนเข้มข้นกว่า น่าติดตามกว่า และกดดันกว่าครับ ในขณะที่ภาคนี้การสืบสวนดูจะไปเรื่อยๆ มีให้ครอสใช้สมองบ้างแต่ก็ยังไม่เยอะเท่าที่ควร แต่ก็ยังดีน่ะครับที่ Freeman แสดงได้มืออาชีพตามเคย สมทบด้วย Monica Potter ในบทเจสซี่ เจ้าหน้าที่สาวที่มาเป็นคู่หูกับครอสในภาคนี้ รายนี้สีหน้าแววตาก็สื่ออารมณ์ได้ดีในหลายวาระครับ ในขณะที่ Michael Wincott ในบท แกรี่ ซอนจี วายร้ายของเรื่องจริงๆ เขาก็แสดงได้ดีตามมาตรฐานน่ะครับ แต่ก็รู้สึกว่าบทของเขายังไม่สุดๆ แบบที่ควรจะเป็น (ใครเคยอ่านนิยายจะทราบดีครับว่าแกรี่ ซอนจีเนี่ยร้ายขนาดไหน)

แต่รายที่ถือว่าขโมยซีนได้ไม่เลวคือ Boorem ครับ เธอทำให้บทของเมแกนดูเป็นสาวน้อยที่ฉลาดและน่าเอาใจช่วย เรียกว่าบทของเธอนั้นเพิ่มความลุ้นให้กับหนังได้พอตัว แล้วเรายังจะได้เจอกับ Anton Yelchin สมัยยังเป็นหนุ่มน้อยด้วยครับ ดูแล้วก็ยอมรับเลยว่าคิดถึงเขาเหมือนกัน และนอกจากนี้ก็ยังมี Jay O. Sanders กลับมารับบทเดิมครับ แต่เหมือนมารับเชิญน่ะครับ มาแค่ฉากเดียวเอง

สิ่งหนึ่งที่ช่วยเสริมอารมณ์ให้กับหนังได้มากพอตัวคือดนตรีโดยคอมโพเซอร์ชั้นครู Jerry Goldsmith ครับ ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นระทึกใจได้เป็นระยะๆ จนพอจะบอกได้ว่าบางจังหวะนี่หนังจะจืดลงไปไม่น้อยเลยครับหากขาดดนตรีเร้าๆ ของเขา

หนังลงทุนมากกว่าภาคแรกครับ ภาคแรกลงไป $27 ล้านเท่านั้น แต่ภาคนี้ทุนกระโดดมาเป็น $60 ล้าน ส่วนรายได้ในอเมริกาทำไป $74 ล้าน แม้จะมากกว่าที่ภาคแรกทำไว้ ($60 ล้าน) แต่หากคิดในแง่กำไรแล้ว ภาคนี้ไม่กำไรครับ รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ $105 ล้าน ก็ยังถืิอว่าติดตัวแดงอยู่หน่อยๆ ครับ

ก็ถือเป็นภาคต่อที่หากใครชอบอเล็กซ์ ครอสล่ะก็ สามารถตามมาดูกันได้ครับ อาจจะไม่ได้มันส์หรือตื่นเต้นอะไรมาก แต่ก็พอดูได้เรื่อยๆ (แต่หากคิดมากหน่อยก็คงจะรู้สึกว่าหนังมีช่องโหว่ในหลายจุดอยู่เหมือนกัน)