IMDB : tt0103776
คะแนน : 8
ภาคแรกดัง ไม่มีภาคสองก็กระไรอยู่ครับ เนื้อเรื่องในภาคนี้บรูซ เวย์น หรือแบทแมนของเรา (Michael Keaton) ต้องออกมาต่อกรกับเหล่าร้ายอีกครั้ง โดยศัตรูในภาคนี้มีถึงสามตัวด้วยกัน คนแรกคือ เพนกวิน (Danny DeVito) หรือออสวอลด์ คอปเปิลพ็อตต์ เด็กพิการที่ถูกพ่อแม่ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีจับใส่ตะกร้าแลัวทิ้งให้ลอยไปตามห่อ ระบายน้ำ จนเมื่อเขาเติบโตก็มีความแค้นคับอกพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ
ตัว ที่สองคือ เซลีน่า ไคล์น (Michelle Pfeiffer) เลขาสาวที่โดนเจ้านายจับโยนลงมาจากตึกด้วยข้อหารู้ในสิ่งที่ไม่ควรจะรู้ แต่เธอกลับไม่ตายครับ ธอฟื้นขึ้นมาด้วยการปลุกของเหล่าแมว และเธอก็กลายมาเป็นนางแมวป่าหรือแคทวูเมน ผู้ต้องการจะแก้แค้นสังคมสกปรกที่ทำลายเธอ
ตัวสุดท้ายคือ แม็กซ์ ชเร็ค (Christopher Walken) นักธุรกิจจอมโลภที่หวังจะครอบครองทุกอย่างของเมืองก็อตแธม
ภาค นี้จัดว่าสาใจกว่าภาคก่อนมากมายหลายเท่า เริ่มจากเรื่องของฉากต่างๆ ที่มีความสวยงามตระการตาอย่างมาก ตั้งแต่ฉากในเมืองก็อตแธมไปจนถึงอาณาจักรใต้ท่อระบายน้ำของเพนกวินที่ทั้ง ยิ่งใหญ่และน่ากลัวดุจเดียวกับปราสาทของท่านเคาน์ แดร็กคูล่าก็ว่าได้ Effect ต่างๆ ไมไ่ด้แค่เพื่อให้เกิดความมันสฺ์เท่านั้น ตัวอย่างเช่นฉากระเบิดแต่ละอันแล้วสมจริงและที่ต้องปรบมือชมคือการถ่ายภาพ ของ Stefan Czapsky และการตัดต่อของ Chris Lebenzon กับ Bob Badami ที่เก็บรายละเอียดของทั้งฉากและ Effect ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมและครบถ้วนทางอารมณ์ คือไม่ได้สักแต่ถ่ายๆๆๆ เท่านั้นนะครับ มุมกล้องมันดูสวยเอามากๆ ไม่ดีคำว่าสั่วเลยอ้ะ
เหล่า ดารานั้นก็ยังคงโดดเด่นเช่นเดิม เริ่มจาก DeVito กับบทเพนกวินที่ดูน่าสงสารและน่าสมเพชในเวลาเดียวกัน (พ่อผมชอบพูดบ่อยๆ ครับว่าอยู่ใต้ท่อระบายน้ำก็ดีอยู่แล้ว จะขึ้นมาทำไม) ซึ่งท่าทางและแววตาของเพนกวินในเรื่องนี้ก็ดูน่ากลัวครับ แต่กระนั้นรูปลักษณ์ของเขาก็ยังติดความเป็นคนขี้แพ้อยู่เหมือนกัน ที่พี่ท่านพยายามจะขึ้นจากท่อระบายน้ำก็เพื่ออยากจะกอบโกยความสบายเข้าสู่ตน เอง ไม่ได้อยากจะเรียกร้องสิทธิเพื่อเด็กๆ ที่ถูกทิ้งอย่างที่พร่ำบอกหรอกครับ จุดนี้ผมชอบมากๆ ที่หนังกัดไอ้พวกมือถือสากปากถือศีลได้อย่างเด็ดดวง ปากบอกว่าทำเพื่อคนโน้นคนนี้ แต่ใจจริงมันทำเพื่อให้ตัวเองดังทั้งนั้นแหละ ความเห็นแก่ตัวมันมีอยู่กับทุกคนน่ะครับ แต่จะมากหรือน้อยและเราจะคุมมันได้หรือไม่เท่านั้นเอง
ส่วน Pfeiffer ก็ดูดีและเซ็กซี่กับบทได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ (ดีกว่า เจ๊ Halle Berry ใน Catwoman ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่) ดูเป็นคนขาดความมั่นใจจริงๆ น่ะฮะ คนแบบนี้ก็มีเยยอะในสังคม และคนแบบนี้นี่แหละที่มักจะโดนกดขี่ข่มเหง ในภาคหนึ่งของเธอก็คือเซลีน่าผู้ที่โดนกดขี่ ส่วนอีกภาคหนึ่งก็คือแคทวูเมน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นจิตใติสำนึกที่เธออยากจะแสดงออกมา ซึ่งที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะสังคมรอบตัวเธอทำกับเธอด้วยส่วนหนึ่งน่ะครับ
ดู แล้วก็อย่างที่ผมชอบบอกน่ะแหละ คนเรามันเท่าเทียมกันครับ จะกดขี่ไปทำไม หรือต่อให้เป็นเรื่องของนายจ้างกับลูกน้องก็เถอะ ใช้งานเขาได้ แต่ก็ต้องดีกับเขาด้วย เพราะแม้จะอยู่ในที่ทำงานมีระเบียบก็จริง แต่ไม่ว่าจะที่ไหนๆ มันก็คนเหมือนกันครับ ไม่มีระเบียบข้อไหนบอกให้เราควรกดขี่คนที่มีอำนาจน้อยกว่านี่หน่า ว่ามั้ยครับ
และ Walken กับบทชเร็ค จอมชั่ว (ผมบอกแล้วครับ พี่แกชอบเล่นแต่บทเลวๆ และเล่นได้ดีซะด้วย) ซึ่งชัดเจนแจ่มแจ้งที่หนังทำขึ้นมาเพื่อกัดทั้งนักการเมือง นักธุรกิจประเภทที่เห็นแก่ตัว (สะดุ้งกันเป็นแถบล่ะสิ) จะว่าไปแล้ว การที่ทั้งเพนกวินและแคทวูเมนต้องออกมาชั่วร้ายขนาดนี้ก็เพราะนายแม๊กซ์ ชเร็คคนนี้นี่แหละครับ พี่ท่านก็เปรียบได้กับพวกที่ชอบชักใยชาวบ้านอยู่เบื้องหลัง มีเงินมีทองมากมายแทนที่จะพอใจแต่ก็ไม่ มีแต่จะหาเพิ่ม จริงๆ ผมว่าการที่คนมีเงินๆ มากๆ มันก็ย่อมหมายความว่าความสามารถในการช่วยผู้อื่นน่าจะมากตามจริงมั้ยครับ ก็เรามีทั้งเงินทั้งทุนอ้ะ จะก่อตั้งมูลนิธิให้เด็กก็ได้ จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็ได้ จะสร้างที่พักพิงให้ผู้ยากไร้ก็ได้ … แต่ทำไมแมร่งไม่ค่อยทำกัน?
ส่วนมากเอาเงินไปถลุงกับอะไรก็ไม่รู้ทั้ง นั้น ซึ่งผมก็คงไม่ว่าอะไรล่ะ มันเป็นความพอใจส่วนตัวของแต่ละคนนี่ครับ เขาเป็นเจ้าของเงินนี่หน่า จะทำอะไรมันก็สิทธิของเขา แต่อยากจะฝากไว้นะครับ
เบื้องบนให้โอกาสท่านในการจะทำความดีได้มากกว่าผู้อื่น โปรดคว้าเอาไว้เถอะครับ เพื่อตัวท่านเองน่ะ
… นี่ผมไปไหนอีกแล้วล่ะเนี่ย
เฮ่อ ก็ไม่รู้ทำไงครับ หนังพี่ Tim Burton แกชอบมีอะไรแบบนี้แทรกอยู่เรื่อย และกับเรื่องนี้มันแทรกอยู่เยอะจริงๆ ดูแล้วเพลินทั้งเนื้อหา แง่คิด การเสียดสี และอื่นๆ และอื่นๆ และอื่นๆ … เพียบ
ดนตรีจัดว่าดีขึ้นครับ สำหรับฝีมือของ Danny Elfman เจ้าเก่า โดยเฉพาะธีมของแคทวูเมนที่เสียดแทงหัวใจดีอย่างยิ่ง
ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอพูดถึงหน่อยว่ากว่า Batman จะ Returns นี่ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
แรก เริ่มนั้นบทของหนังภาคนี้จะเป็นภาคที่ต่อเนื่องจากภาคแรกเลยครับ ประมาณว่าเปิดมาวิคกี้ เวลก็ยังอยู่ โจ๊กเกอร์เพิ่งโดนปราบไป รวมไปถึงซากของ แบทวิง (ยานบินจากภาคแรก) ก็จะยังกองอยู่แถบนั้น แต่พี่ Tim แกก็ตระหนักว่ามันออกจะยากซักหน่อยที่จะต้องมานั่งขมวดเรื่องภาคแรกซะใหม่ ่แล้วยังต้องเปิดเรื่องของภาคนี้อีก เดี๋ยวมันจะเละได้ พี่ท่านเลยดัดแปลงบท
แล้ว บทฉบับแรกนั้นก็จะไม่มีแม๊กซ์ ชเร็คหรอกนะครับ แต่จะเป็นอัยการฮาร์วี่ย์ เดนท์แทน ซึ่งคนที่ดูภาคแรกมาแล้วน่าจะจำได้ อัยการฮาร์วี่ย์ เดนท์ จะต้องมาเป็นวายร้ายทูเฟซในเวลาต่อมา ภาคแรกพี่ Tim แกเปิดตัวเดนท์ โดยให้ Billy Dee Williams มารับบทไป แล้วจริงๆ ในภาคนี้ เขานี่แหละจะต้องมาพัวพันกับศึกระหว่างค้างคาว, นก และแมว และในบทสรุปท้ายเรื่องเดนท์จะโดนระเบิดจนหน้าครึ่งหนึ่งเสียโฉมไป และเขาก็จะกลับมาเป็นทูเฟซในภาคต่อไป
ตอนแรกพี่ Tim แกวางเรื่องไว้อย่างนั้นเลยครับ แต่ทาง Warner Bros. ค้านหัวชนฝา เพราะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ที่จะเอา Williams มารับบทตัวร้ายสำคัญๆ (ต้องยอมรับอย่างหนึ่งครับว่าเขาไม่ดังเท่าที่ควร) สุดท้ายความคิดนี้ก็พับไปและบทแม็กซ์ ชเร็คก็เข้ามาแทนที่(แล้วดูท่าพี่ Tim แกจะเริ่มหงุดหงิด Warner ตั้งแต่ช่วงนี้แล้วล่ะครับ ทำให้ต่อมาภาค Forever พี่แกตบเท้าออกจากโปรเจคท์ไป)
นอกจากนี้ โรบินก็ยังมีการวางไว้ว่าจะมาโผล่ในภาคนี้ด้วยครับ และจะรับบทโดย Marlon Wayans (ไอ้บ้าแห่ง Scary Movie 2 ภาคแรกไงครับ) ซึ่งพี่แกผิวดำอีก (จนคนเริ่มสงสัยแล้วว่าพี่ Tim แกจะเอาปมอะไรมาเล่นหรือเปล่า เพราะขยันเลือกคนดำมาแสดงจริงๆ) แต่บทก็โดนตัดออกไป เพราะเนื้อที่ไม่พอเพียงครับ แค่นี้บทก็เยอะแล้วจ้า
นอกจากนี้ Burgess Meredith เจ้าของบทเพนกวินดั้งเดิมจากหนังชุด Batman เมือ่ปี 1966 ก็ได้รับการทายทามให้มารับบทเป็นพ่อของเพนกวิน ซึ่งเขาก็อยากมาครับ แต่ตอนนั้นกำลังป่วยหนักเลยไม่สามารถมาเข้ากล้องได้ ทำให้ผู้มารับบทพ่อแม่ของเพนกวินตกเป็นของ Paul Reubens และ Diane Salinger ซึ่งทั้งสองเคยร่วมงานกับพี่ Tim มาแล้วใน Pee-wee’s Big Adventure ผลงานการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของพี่ Tim นั่นเอง
นี่ล่ะครับเรื่องของ Batman Returns ภาคต่อซึ่งทำออกมาได้ดีและโดดเด่นโดนใจมากๆ ครบถ้วนทั้งโทนหนัง ความยิ่งใหญ่ สาระและความสนุก