Below ดิ่งลึกหลอนสยอง
เรื่องย่อ : Below ดิ่งลึกหลอนสยอง
ท่ามกลางความเงียบสงัดของท้องทะเลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือดำน้ำยูเอสเอส ไทเกอร์ ชาร์ค ออกเดินด้อม ๆ มองๆ ในสิ่งที่ควรจะเป็นภารกิจกู้ภัยตามปกติ แต่สำหรับลูกเรือที่ตกตะลึงซึ่งติดอยู่ตามทางเดินแคบและพื้นที่แคบของเรือดำน้ำ เรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นการเดินทางไปสู่ภาพลวงตาทางประสาทสัมผัส การหลอกลวงทางจิตใจ และความกลัวที่หลบหนีซึ่งแฝงตัวอยู่ใต้พื้นผิวมหาสมุทรและส่วนลึกภายใน จิตใจมนุษย์
ท่ามกลางความเงียบสงัดของท้องทะเลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือดำน้ำยูเอสเอส ไทเกอร์ ชาร์ค ออกเดินด้อม ๆ มองๆ ในสิ่งที่ควรจะเป็นภารกิจกู้ภัยตามปกติ แต่สำหรับลูกเรือที่ตกตะลึงซึ่งติดอยู่ตามทางเดินแคบและพื้นที่แคบของเรือดำน้ำ เรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นการเดินทางไปสู่ภาพลวงตาทางประสาทสัมผัส การหลอกลวงทางจิตใจ และความกลัวที่หลบหนีซึ่งแฝงตัวอยู่ใต้พื้นผิวมหาสมุทรและส่วนลึกภายใน จิตใจมนุษย์
IMDB : tt0276816
คะแนน : 9
ภาพยนตร์แนวตื่นเต้นระทึกขวัญที่ผสมไว้หลายแบบเหลือเกินครับ จะเป็นแนวเขย่าขวัญแบบสยองไปเลยก็ได้ เป็นแนวระทึกปน Sci-Fi ก็ได้ หรือจะเป็นหนัง Action Thriller แบบหนังบู๊บนเรือดำน้ำอย่าง Crimson Tide หรือ U-571 ก็ยังได้อีก แล้วที่ผมบอกว่าผสมกันหลายแบบเนี่ย ทีมงานเขียนบทยังสามารถผสมกันได้สำเร็จในระดับที่น่าพอใจอีกต่างหาก ผู้ที่ร่วมกันเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็ได้แก่ Lucas Sussman, Darren Aronofsky และ David Twohy ส่วนคนกำกับก็คือรายหลังครับ Twohy แกก็พอมีชื่อไปพอตัวจาก Pitch Black ตามด้วยเรื่อง The Chronicles of Riddick ส่วนเรื่องนี้คือแกทำระหว่างสองเรื่องที่ว่า แรกเริ่ม Aronofsky ตั้งใจจะกำกับหนังด้วยตนเองนะครับ เพราะไอเดียใหญ่ๆ มาจากแกนี่แหละ แต่ก็เกิดเปลี่ยนใจไปทำงานเรื่อง Requiem for a Dream แทน ก็ถือว่าแกตัดสินใจถูกครับเพราะเรื่องนั้นมันอร่อยเหนือพรรณนาจริงๆ แกเลยปล่อยเก้าอี้กำกับให้ Twohy จัดการแทน เนื้อหาว่าด้วยเหตุประหลาดบนเรือดำน้ำยูเอสเอส ไกเกอร์ ชาร์ค ไม่ว่าจะแผ่นเสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นเอง หรือเงาปริศนาที่ชอบปรากฏตามมุมมืดๆ ของลำเรือ … มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ และอะไรซ่อนอยู่ในเรือลำนี้ หนังน่าติดตามตลอดครับ ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อะไรจะโผล่เมื่อไรยังไงก็ต้องมานั่งลุ้นกันอีก นักแสดงในเรื่องก็ดังระดับกลางๆ ครับ แต่เรื่องฝีมือนี่ไม่ผิดหวัง ได้แก่ Matthew Davis (Legally Blonde), Bruce Greenwood (Double Jeopardy), Olivia Williams (The Sixth Sense) แล้วก็ที่ลืมไม่ได้เลยคือ Jason Flemyng (The League of Extraordinary Gentlemen) ตัวกวนของเรื่องที่เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นให้หนังได้เป็นอย่างดี จุดที่ถือว่าสนุกอย่างยอดเยี่ยมเลยคือตอนกลางเรื่องครับ ตื่นเต้นคงเส้นคงวา แต่ตอนจบออกจะแผ่วไปบ้าง ไม่ได้สุดยอดอะไร อันนี้ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าอย่าคาดหวังว่ามันจะมีอะไรให้พลิกผันแบบสุดขีด อันนี้ต้องบอกก่อนเพราะเป็นมากับตัว เนื่องจากกลางเรื่องพี่แกทิ้งปมไว้ตลอด น่าลุ้นทุกช่วงจนอดหวังไม่ได้ว่าตอนท้ายมันต้องเหนือคาด แต่ก็เปล่า ถ้าท่านไม่เคยดูหนังพวก The Twilight Zone อาจจะพออ้าปากหวอได้บ้างครับ แต่หากดูแนวมิติพิศวงพวกนี้มาจนชินก็อาจจะไม่ตื่นเต้นนัก แต่แม้มันจะไม่หักมุมจนอึ้ง ก็ยังถือว่าสรุปได้ในทางที่ควรเป็นน่ะแหละ เอาเป็นว่าหากสนใจจะดูหนังตื่นเต้น กดดันกำลังดีก็เรื่องนี้ได้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่ แต่อย่าหวังมากเป็นใช้ได้