Blind Horizon

แม้จะมีใบหน้าที่คุ้นเคยเช่น Val Kilmer, Neve Campbell และ Amy Smart ก็ง่ายพอที่จะเห็นว่าทำไม Blind Horizon ถึงไม่เคยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีหลักฐานที่น่าสนใจและมีแนวคิดที่น่าสนใจ แต่บทภาพยนตร์ (เขียนโดยคู่หูหน้าใหม่อย่าง เอฟ พอล เบนซ์ และสตีฟ ทอมลิน) ก็ไม่ได้ทำให้ตัวละครมีอะไรให้ทำมากมายนัก เป็นผลให้ส่วนตรงกลางของ Blind Horizon นั้นอุทิศให้กับตัวละครของ Kilmer ในขณะที่เขาพยายามดิ้นรนเพื่อรวบรวมเอกลักษณ์ของเขาเอง (สิ่งที่ฟังดูน่าสนใจมากกว่าที่เป็นจริง)

ความจำเสื่อมทั้งหมดเข้ามามีบทบาทเกือบจะในทันที เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยตัวละครของคิลเมอร์ - แฟรงก์ คาวานเนา - ได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บหลังจากถูกคนร้ายที่ไม่รู้จักทิ้งให้ตาย (เขาถูกยิงและโยนทิ้งจากหน้าผาที่ค่อนข้างสูง) เมื่อเขามาถึง แฟรงค์พบว่าเขาจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใครหรือเกิดอะไรขึ้นกับเขา ซึ่งเป็นที่มาของความไม่พอใจอย่างมากสำหรับนายอำเภอในท้องที่ (แสดงโดยแซม เชพเพิร์ด) ปัญหามากกว่านั้นคือความทรงจำที่กระจัดกระจายที่แฟรงค์มี ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีที่อาจเกิดขึ้น

มีประสิทธิภาพเท่ากับคิลเมอร์และนักแสดงหลายคน ไม่มีอะไรน่าจดจำมากเกี่ยวกับ Blind Horizon เป็นหนังประเภทหนึ่งที่ย้อนเวลาได้พอสมควร แต่เริ่มจางหายไปจากช่วงเวลาแห่งความทรงจำหลังจากที่มันจบลง ความพยายามของผู้กำกับ Michael Haussman ในการทำให้กระบวนการดำเนินไปมีชีวิตชีวาขึ้น (เช่น การตัดบทอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ย้อนหลังมากมาย เป็นต้น) ในที่สุดก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวมากกว่าสิ่งอื่นใด เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่หวังว่าผู้สร้างภาพยนตร์จะผ่อนคลายกลอุบายของภาพยนตร์และปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไป เปิดเผยอย่างเป็นธรรมชาติ

เรื่องนี้รุนแรงขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลย เนื่องจากผู้ดูมีข้อสงสัยเล็กน้อยว่าสิ่งลี้ลับกำลังดำเนินอยู่ (และแน่นอนว่าไม่ต้องใช้อัจฉริยะในการค้นหาว่าตัวละครของคิลเมอร์มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ความพยายามลอบสังหาร) สิ่งที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่านั้นคือการตระหนักว่าคำถามสำคัญบางคำถามจากบทภาพยนตร์จะยังไม่ได้รับคำตอบ โดยเฉพาะคำถามที่เกี่ยวข้องกับการสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่ (กล่าวคือ คนเหล่านี้เป็นใคร และทำไมพวกเขาต้องการให้ประธานาธิบดีตาย?)

Blind Horizon คือเมื่อคุณเข้าถึงมันได้ โดยพื้นฐานแล้วเป็นความพยายามแบบตรงไปตรงมาที่ขาดความดแจ่มใสซึ่งได้รับการยกระดับโดยการปรากฏตัวของชื่อใหญ่ผิดปกติและถึงแม้ว่ามันจะไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะตื่นเต้นอย่างแน่นอน