Call of Heroes | มังกรหนุ่มผยองเดช

ถือเป็นงานหนังกำลังภายในกังฟูที่มีประเด็นน่าสนใจ และเป็นมากกว่าหนังกังฟูทั่ว ๆ ไป เบนนี่ชาน รับหน้าที่กำกับ ภายใต้หน้าหนังที่นำเสนอแบบหนังกังฟูที่มีภาพลาง ๆ ของหนังคาวบอยตะวันตกผสมผสานอยู่ โดยเน้นธีมหลักของเรื่องอย่างที่จั่วหัวไว้ ภายใต้สถานการณ์ที่ยากเย็นต่อการตัดสินใจ เราจะยินยอมปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล เพื่อแลกกับชีวิตคนบริสุทธิ์อีกนับร้อย อะไรคือการตัดสินใจที่ถูกต้องกันแน่  และหนังทำให้เห็นคุณค่าของการเป็นวีรบุรุษ (Hero) ที่แท้จริงต้องเดินในเส้นทางใดผ่านตัวละครหยางเค่อหนาน

และ หยางเค่อหนาน ได้นักแสดงมากฝีมือ หลิวชิงหยุน มารับบท  สำหรับคอหนังจีนชุดยุค 90 ไม่มีใครไม่รู้จัก และยอมรับฝีมือการแสดงเรียกว่าสุดติ่ง  นั่นทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังของหลิวชิงหยุนไปโดยปริยาย  ทุกฉากที่เจ้าตัวปรากฎอัดแน่นไปด้วยพลังที่ส่งไปถึงคนดู  บุรุษที่รักความยุติธรรม ทุกอย่างที่กระทำเพื่อส่วนรวม อ่านเกมขาด รักษาจุดยืนของตนเองไว้อย่างชัดเจน และรักครอบครัว  นั่นมากพอที่จะทำให้คำว่า Hero ชัดเจนมากเพียงใด และหยางเค่อหนานก็เข้าไปนั่งในใจคนดูทันที  โดยเฉพาะฉากที่ต้องร่ำลาลูกสาวโดยรู้ขะตากรรมของตนเอง หลิวชิงหยุนให้การแสดงจับจิตจับใจคนดู

ฟากฝั่งตรงข้าม ที่เรียกว่าเลวสุด Teen เห้สุดขั้ว ก็คือ เฉาเส้าหลิน ที่เป็นการกลับมารับบทตัวร้ายอีกครั้งของ กู่เทียนเล่อ ที่มาพร้อมความบ้าคลั่งของตัวละครที่ฆ่าคนไปแย้มยิ้มไปอย่างมีความสุข กู่เทียนเล่อทำให้เห็นภาพคนจะชั่วไปได้สุดแค่ไหน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่คอหนังจีนชุดจดจำฝีมือได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหนังจีนชุดในตำนาน “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด”

การได้เห็นอดีตนักแสดงทีวีบีโคจรมาเฉือนบทกันอย่างถึงพริกถึงขิง​จึงเป็นไฮไลท์​ของหนังเรื่องนี้ หนังยังขนดารายุคนี้มาเรียกคนดู เริ่มตั้งแต่ เอ็ดดี้เผิง เป็น หม่าฟง  บุรุษพเนจรที่ซุกงำฝีมือ  หนังเปิดฉากให้เห็นความเก่งกาจของหม่าฟง ก่อนจะดร็อปลงไป และบอกตามตรงการให้เอ็ดดี้เผิงไว้หนวนเคราแบบนั้นมันดูหลอกตาเป็นอย่างมาก

อีกหนึ่งคนที่ต้องพูดถึงคือ หวูจิง สายบู๊มาแรงในเวลานี้ ที่คาดว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่แทนที่รุ่นใหญ่อย่าง ดอนนี่เยน, เจ็ทลี ที่เริ่มโรยรา  หวูจิง รับบทเป็น เจียงยิก หัวหน้าหน่วยอารักขาเฉาเส้าหลิน  นี่คือตัวละครสีเทาที่ส่วนหนึ่งทะเยอทะยานไปสู่อำนาจ และในขณะเดียวกันก็ให้ความสัมพันธ์ฉันท์ศิษย์ร่วมสำนักกับบางตัวละครในหนังด้วย

แต่อาจเพราะตัวละครเปิดตัวละครเด่นมาจนไม่แน่ใจว่าคนเขียนบทจะเอาอย่างไรกับตัวละครเหล่านั้นดี มันเลยทำให้ทั้งเอ็ดดี้เผิง และ หวูจิง กลายเป็นตัวละครที่ไม่สามารถสร้างความโดดเด่นอย่างที่ควรเป็น กระทั่งช่วงท้ายที่ทั้งคู่ได้มีโอกาสโชว์เหนือในฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นตา จึงรู้สึกได้เลยว่าการเลือกนักแสดงทั้งสองมาก็เพื่อเหตุผลทางการตลาด โดยเฉพาะตลาดโลกเป็นสำคัญ

ส่วนคิวบู๊ในหนัง การันตีความมันกันเต็มที่ เพราะได้ไอ้หมูหิน หงจินเป่า มารับหน้าที่ดีไซน์คิวบู๊  หลายต่อหลายฉากเรียกได้ว่าทั้งสวยงามและดุดัน  ซึ่งดูจริงจังมากกว่าแอ็คชั่นของหยวนหวูปิงที่เน้นท่วงท่าสวยงาม