ค้นหาหนัง

Charlie and the Chocolate Factory

Charlie and the Chocolate Factory
เรื่องย่อ : Charlie and the Chocolate Factory

เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยที่ชื่อชาร์ลี เด็กน้อยที่บ้านมีฐานะยากจน พ่อเพิ่งตกงาน ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน และมีปู่ย่า ตายาย ที่ต้องดูแล ทำให้ฐานะทางบ้านขัดสนเรื่องการเงิน มีเพียงซุปกระหล่ำประทังชีวิตเท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่งโรงงานช็อคโกแลตที่มีเจ้าของชื่อ วิลลี่ วอลก้า (Johnny Depp ) ได้มีกิจกรรมพิเศษให้เด็ก ๆ ได้เข้ามาเยี่ยมชมโรงงาน แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นผู้โชคดีที่ซื้อโชคโกแลตที่มีบัตรทองเท่านั้น ซึ่งจะมีเด็กผู้โชคดีเพียง 5 คนเท่านั้นที่จะได้เข้าไป ชาร์ลีจึงได้นำเงินที่มีเพียงน้อยนิดเสี่ยงโชคด้วย แต่ก็พบกับความผิดหวังหลายครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่เขาซื้อด้วยเงินเก็บก้อนสุดท้ายของคุณปู่ที่มอบให้เขา ทำให้เขาเป็นผู้โชคดีได้เข้าไปชมโรงงานกับเด็ก ๆ อีก 4 คน เมื่อเขาได้ย่างเท้าเข้าชมโรงงาน ทำให้เขาต้องทึ่งกับนวัตกรรมที่ล้ำสมัยของโรงงานแห่งนี้ และยังได้พบกับเรื่องราวแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงงานแห่งนี้ เพราะเด็กที่มากับเขาอีก 4 คน ต้องพบเจอเรื่องราวแปลกประหลาดอย่างที่เขาคาดไม่ถึง

IMDB : tt0367594

คะแนน : 7



หนังสร้างจากหนังสือของ Roald Dahl นะครับ เรื่องของชาร์ลี บัคเก็ต (Freddie Highmore) หนุ่มน้อยผู้ยากจน ที่โชคดีได้ตั๋วทองคำจากช็อคโกแล็ตของวิลลี่ วองก้า (Johnny Depp) และรางวัลของผู้ที่ได้ตั๋วคือ จะได้ทัวร์ในโรงงานช็อคโกแลตอันใหญ่โตของวิลลี่หนึ่งวันเต็มๆ ซึ่งนอกจากเขาแล้วยังมีเด็กอีก 4 คนร่วมขบวนผจญภัยไปกับเขาด้วยครับ ได้แก่ ออกัสตัส กลู๊ป (Philip Wiegratz) เด็กที่เกิดมาเพื่อกินๆๆๆ, ไวโอเลต (Annasophia Robb) เด็กจอมเคี้ยวที่ชอบวีนแตกทุกวินาที, ไมค์ ทีวี (Jordan Fry) เด็กจอมก้าวร้าวที่ติดเกมและทีวีเป็นบ้าเป็นหลัง และ เวรูก้า ซอลท์ (Julia Winter) เด็กรวยเอาใจ

ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้มีแต่ที่ Tim เท่านั้นครับที่ทำออกมาได้ขนาดเนี้ย แนวแฟนตาซีที่ผสมจินตนาการแบบแปลกๆ ลงไป และผลที่ได้ออกมาต้องบอกว่าไม่ผิดหวังเลยครับ ตัวหนังอลังการงานสร้างสุดๆ พวกฉากต่างๆ นี่ถึงเครื่องมากๆ ครับ ดูมันเป็นโลกแห่งจินตนาการจริงๆ แล้วภายในโรงงานนั้นก็มีหลายห้องด้วยครับ แต่ละห้องก็น่าสนใจทั้งสิ้น และผมว่าทีมงานเขาวาดภาพได้ถึงเครื่องด้วยล่ะ อารมณ์มันเลยค่อนข้างไป นึกออกมั้ยครับบางทีหนังแนวนี้มันจะต้องมีฉากแฟนตาซี แต่หากคนทำมือไม่ถึงเนี่ย ผลที่ได้มันย่อมไม่กลมกล่อมอย่างที่ควรจะเป็น คนดูก็จะแหม่งๆได้ แต่กับเรื่องนี้ ไหลลื่นตลอดครับ

ส่วนที่เจ๋งที่สุดต้องยกให้กับ Depp ครับ พี่แกเป็นวิลลี่ได้บ้ามากๆ เอาแค่เฉพาะตอนแกเดินไปหัวเราะในลำคอไปนี่ก็สุดๆ แล้วอ้ะ จะว่าต๊องก็ไม่ใช่ เรียกว่าประหลาดคงเหมาะกว่าน่ะครับ แล้วคิดดูพี่แกเดินลัลล้าๆ ทั้งเรื่องอ้ะ ดูน่ารักน่าถีบดีเหลือเกินจริงๆ นอกจากพี่แกแล้วผมก็นึกคนอื่นไม่ออกน่ะครับ จริงๆ แล้วน่ะฮะ ก่อน Depp จะเข้ามาแสดงนั้น ก็มีรายชื่อดารามาเป็นตัวเลือกเพียบ Steve Martin, Robin Williams, Christopher Walken, Nicolas Cage, Will Smith, Brad Pitt, Michael Keaton,Jim Carrey และ Adam Sandler แต่ก็ไม่น่าจะมีใครทำได้ดีขนาดนี้น่ะครับ (แม้แต่พี่ Jim ก็เหอะ ลูกบ้าพี่แกเยอะ ผมไม่เถียงครับ แต่มันเพี้ยนคนละสไตล์น่ะ เหมือนกันถ้าจะให้พี่ Depp ไปเล่น The Mask หรือ Bruce Almighty มันก็ไม่น่าจะเข้าน่ะฮะ)

สำหรับดาราเด็ก Highmore ที่มาเล่นเป็นชาร์ลีนั้น เขาก็ทำได้น่าประทับใจไม่น้อยครับ แต่บทอาจไม่มากเท่าไหร่ เพราะความเด่นช่วงต้นๆ นั้นโดนเด็กแสบอีก 4 ตัวแย่งไปหมดเลย อืมม์ พอพูดถึงเด็กแสบพวกนี้ก็ต้องชมกันหน่อยล่ะครับ เด็ก 4 ตัวนี่สุดยอดขโมยซีนเลยล่ะ โดยเฉพาะ Annasophia Robb ที่เล่นเป็นไวโอเล็ตนี่โคตรกวนโอ๊ยนะครับ จริงๆ แค่ดูพี่ Depp แกคนเดียวก็คุ้มแล้วนะฮะ แล้วพวกเข้าไปด้วยฝีมือเด็กกลุ่มนี้อีกยิ่งคุ้มไปกันใหญ่ ยอมรับว่าคัดเลือกตัวแสดงมาได้เยี่ยมจริงๆ

ไม่ต้องบอกก็รู้ล่ะนะฮะ ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้อยู่แล้วล่ะ ทั้งส่วนนักแสดง ส่วนฉากก็ดีหมด ยิ่งตอนเรือล่องแม่น้ำช็อคโกแลตนั่นทำได้น่าทึ่งทีเดียวล่ะฮะ อ้อ อีกคนที่ลืมไม่ได้คือ Deep Roy ครับ เขารับบทเป็นอุมป้าลูมป้า ชาวป่าที่เป็นคนงานของโรงงานแห่งนี้ ซึ่งพี่แกคนเดียวเล่นเป็นชาวเผ่านับร้อยอ้ะคับคิดดู คืองี้ครับ พวกอุมป้านี่คือเผ่าๆ หนึ่งที่วิลลี่ไปจ้างมาให้ทำงานใช่มั้ยฮะ แต่ชาวเผ่านี้หน้าตาเหมือนกันหมด กล่าวคือดาราคนเดียวต้องมาแสดงเป็นชาวเผ่าทั้งหมดอ้ะ ตอนถ่ายทำพี่แกก็ต้องมานั่งทำท่าซ้ำๆ ให้ทีมงานถ่ายไปแมตช์ภาพด้วย และพี่แกก็ยังเป็นสีสันชั้นดีอีกด้วยนะครับ (แต่เพื่อนผมบอกน่ากลัวชิบเผง คนหน้าเหมือนกันมาเต้นรำให้ดูแบบเนี้ย 555)

เพลง อ้า ใช่ คนทำดนตรีก็หนีไม่พ้น Danny Elfman คู่บุญมาแต่ไหนแต่ไรของพี่ Tim นี่แหละฮะ งานนี้ก็คงเดิมฝีมือดีไม่มีตก เอาแค่เพลงตอนเริ่มต้นนั่นก็แสดงถึงความเป็นพี่ Tim บวกพี่ Danny ได้แล้วล่ะฮะ ถ้าสองคนนี้มาเจอกันล่ะก็ แนวเพลงมันจะผสมผสานระหว่างสไตล์เพลงแบบสวนสนุก บวกเข้ากับสไตล์เพลงหนังผีสยองๆ อ้ะคับ แนวมันจะหลอนๆ นิดๆ (ประเภทมีเสียง ฮือฮาฮ้าฮ้า) คิดดูโรคจิตขนาดไหน เอาสองแนวมาบวกกันแล้วดันไปกันได้อีกต่างหาก และที่ไปกันได้นี่คือไปกันได้ในหนังเด็กนะครับ โอ้พี่ แน่เกินไปแล้ว

นี่เป็นหนังของพี่ Tim โดยพี่ Tim เพื่อพี่ Tim ตามเคยครับ เพราะพล็อตเรื่องส่วนที่เป็นอดีตของวิลลี่ วองก้า (ที่เขามีเรื่องกับพ่อในตอนเด็กๆ น่ะครับ) จริงๆ แล้วแต่ละฉากและรายละเอียดแต่ละอย่างที่พ่อลูกในเรื่องขัดแย้งกันนั้น เอามาจากประวัติชีวิตจริงๆ ของพี่ Tim แกทั้งสิ้นครับ

หนังสนุกดีนะครับ เพลงก็เจ๋งดี (ไปๆ มาๆ เป็นหนังเพลงไปเลยครับ) ฉากก็สวยงามไม่เลว และเนื้อหาก็โดนเอามากๆ ตรงเด็กแสบ 4 ตัวนี่แหละครับ ซึ่งผมชอบนะ คือเด็ก 4 ตัวนี่ถือเป็นตัวอย่างเด็กนิสัยเสียที่มีอยู่จริงๆ ในโลกเราเนี่ยครับ อย่างออกัสตัสก็เอาแต่กินๆ วันๆ ไม่ทำบ้าอะไร ซึ่งก็ไม่เถียงน่ะครับว่าเด็กเป็นวัยกำลังกินกำลังนอน แต่มันก็ต้องมีลิมิตมีออกกำลังอะไรบ้าง แต่นี่คุณแม่ก็ให้กินแหลกราญเลยก็ไม่ไหวล่ะครับ, ส่วนไมค์ก็เล่นแต่เกม ไม่สนใจสิ่งรอบข้างหรืออะไรทั้งนั้น ซึ่งเกมโอเคครับมันเป็นทางออกที่ดีเมื่อเราเครียด เป็นการพักผ่อนอย่างนึงแม้แต่เกมยิงกันฆ่ากันรุนแรงก็เถอะ แต่มันก็ช่วยปลดปล่อยโทสะในตัวเราออกไปได้บ้าง (ดีกว่าไปไล่ต่อยใครล่ะจริงมั้นล่ะครับ) เล่นบ้างพักบ้างน่ะโอเค แต่ที่เล่นทั้งวันทั้งคืน หนังสือไม่เรียน งานการไม่ทำ เพื่อนฝูงพ่อแม่ก็ไม่สนใจเลยเนี่ยมันก็มากไปหน่อยน่ะนะครับ เพราะแม้เกมจะให้อะไรเราหลายอย่าง แต่ชีวิตจริงๆ มันก็มีสิ่งให้ค้นหาไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ถ้าจะให้ดีมันต้องแบ่งเวลาล่ะครับ เกมบ้าง เรียนบ้าง ชีวิตบ้าง ให้มันสมดุลน่ะ

ต่อมาคือเจ๊เวรูก้าครับ เด็กรวยที่โดนพ่อแม่ตามใจจนเหลิงจะเอาทุกอย่าง แบบนี้ก็อันตรายหาน้อยไม่ล่ะครับ เพราะคนเรามีใครที่ไหนล่ะที่ได้ทุกอย่างดั่งใจหมาย ตอนเด็กน่ะอาจจะได้ แต่พอโตขึ้นมันก็ต้องมีพลาดกันอยู่ดีน่ะแหละ หากมัวแต่เลี้ยงเขาอย่างตามใจแล้วเขาจะรับกับความผิดหวังได้อย่างไร อีกทั้งนิสัยประเภท “จะเอาจะเอา” นั้น มันก็ไม่น่ารักเลยนะครับ ถ้าเอาแต่พองามล่ะก็พอไหว แต่ถ้าเป็นอย่างเจ๊เวรูก้าในเรื่องล่ะก็ปวดหัวตายเลยและสุดท้ายเจ๊ไวโอเล็ตที่จ้องแต่จะเอาชนะและเชื่อว่าตนเก่งที่สุดตลอดกาล สัมมาคารวะหาไม่เจอ เฮ่อ ดูแล้วคิดได้สั้นๆ ว่าขออย่าให้ลูกเรา (ถ้ามี) เป็นแบบนี้เลย (อันนี้ต้องดูด้วยแหละว่าเราเลี้ยงดูเขาดีหรือไม่อย่างไร)

เนี่ยอะ ส่วนต่างๆ ดีหมด แต่ผมว่าหนังมันมาง่ายไปหน่อยในตอนท้าย ที่ปมระหว่างวิลลี่กับพ่อแก้ได้แบบง่ายๆ มากๆ ผมก็เสียดายครับเพราะมันน่าจะใส่ความประทับใจลงมามากกว่านี้ เหมือนกับเดินเรื่องมาได้ดีแต่มาเสียเอาตอนท้ายนี่เองแหละฮะ

สรุปเลยนะครับ ว่าแฟนพี่ Tim คงไม่ผิดหวังน่ะ คนชอบหนังสไตล์แปลกๆ แบบนี้ไม่น่าพลาดครับทำออกมาได้สนุกดีมากๆ เป็นแนวผจญภัยแฟนตาซีแบบเด็กๆ น่ะครับ แค่ดูพี่ Depp ก็คุ้มแล้วล่ะน่ะ