ค้นหาหนัง

City of Angels | สัมผัสรักจากเทพ เสพซึ้งถึงวิญญาณ

City of Angels | สัมผัสรักจากเทพ เสพซึ้งถึงวิญญาณ
เรื่องย่อ : City of Angels | สัมผัสรักจากเทพ เสพซึ้งถึงวิญญาณ

เซ็ธ (นิโคลาส เคจ) เป็นเทวดาที่ปรารถนาจะมีชีวิตแบบมนุษย์ เขายอมสละความเป็นอมตะเพื่อแม็กกี้ (เม็ก ไร อั้น) ศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจ.... มันเริ่มต้นจากการที่เขาต้องการปลอบโยนเธอภายหลังจากที่คนไข้ของเธอเสียชีวิตลงบนเตียงผ่าตัด เช็ธปรากฏกายให้แม็กกี้เห็นและแม้ว่าแม็กกี้จะยึดมั่นในสิ่งที่เป็นเหตุและเป็นผล แต่เธอก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าเธอกำลังสับสนในความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับชายแปลกหน้าที่เป็นเพียงจิตวิญญาณ ทั้งแม็กกี้และเช็ธ ต้องเสียสละสิ่งที่พวกเขามีและเป็นอยู่ เพื่อความรักของเขา

IMDB : tt0120632

คะแนน : 7



ผลงานการกำกับของ Brad Silberling จาก Casper นะครับ หนังก็เล่าถึงเรื่องราวของเทวดานัยน์ตาเศร้า เซธ (Nicolas Cage) ซึ่งคอยทำหน้าที่สังเกตมนุษย์ไปวันๆ แล้วอยู่มาวันหนึ่งชีวิตเดิมๆ แบบเทวดาของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้เจอกับคุณหมอผ่าติดสาวสวย แม็กกี้ ไรซ์ (Meg Ryan) ซึ่งตามปกติแล้ว มนุษย์ทั่วๆ ไปจะมองไม่เห็นเทวดาอย่างเขาหรอกฮะ แต่ปรากฎว่าแม็กกี้ดันเห็นเขาขึ้นมา ทำให้เขาเริ่มสนใจในตัวคุณหมอคนนี้มากขึ้น แล้วในที่สุดเขาก็เริ่มสานสัมพันธ์กับเธอ จนทำให้สิ่งที่เราเรียกว่า “ความรัก” มันบังเกิดขึ้นมาจนได้

แน่นอนครับ ถ้าคุณๆ เป็นคอ Action เอามันส์เป็นนิจล่ะก็มีสิทธิ์สลบเป็นศพคาที่ตั้งแต่ 30 นาทีแรกของหนังได้ง่ายๆ เลยทีเดียว แล้วยิ่งมาฟังเสียงพี่ Cage แบบโมโนโทนอีก ก็ไปกันใหญ่เลยครับ เพราะหนังมันเดินเรื่องแบบเนิ่บๆ โทนสีก็ยังมาเป็นแบบเย็นๆ อีกด้วยนะครับ หนังจึงไม่ได้หวือหวาอะไรนัก ดังนั้นถ้าท่านทนกับหนังสไตล์นี้ไม่ได้ล่ะเห็นจะต้องเตือนไว้ก่อนล่ะครับ

แต่ ในทางตรงกันข้ามนะครับ ถ้าคุณชอบหนังชีวิตหรือโรแมนติกแบบหนักๆ ดูเถอะครับ ผมว่ามันมีอะไรดีๆ แฝงอยู่เยอะทีเดียว เอาแค่ดูสองดารานำก็คุ้มค่าประมาณหนึ่งแล้วล่ะครับ Cage แกก็มาโทนเดิมครับ ดูเศร้าๆ ตาเยิ้มๆ หน่อย แต่ยอมรับนะฮะว่าตอนพี่แกทำท่าเรียนรู้สิ่งต่างๆ นี่มันดูน่าสนใจจริงๆ ส่วน Ryan ก็สดใสและสมบทตามเคยครับ เธอดูเป็นคุณหมอที่น่ารักดีทีเดียวล่ะฮะ ยิ่งตอนเธอมานั่งร้องไห้นี่ก็น่าสงสารกันไปเลย จนไม่น่าแปลกใจล่ะรับว่าทำไมเซธถึงอยากจะรู้จักเธอ

แต่รายที่ลืมไม่ ได้คือ Dennis Franz ในบทนาทาเนียล แมสซิงเจอร์ ครับ ซึ่งปกติพี่ท่านก็เก่งเรื่องขโมยซีนอยู่แล้วนะฮะ มาเรื่องนี้ก็ไม่มีผิดหวังครับ พวกแง่คิดและอะไรต่างๆ มาเยอะก็เพราะคำพูดของพี่แกนี่แหละ และถือเป็นการมองโลกในอีกแง่ซึ่งน่าสนใจมากทีเดียวด้วยล่ะครับ เป็นสีสันที่ดีจริงๆ

แต่ขอระบายนิดนึง โอเคหนังดีครับ แต่ไอ้ฉบับพากย์ไทยนี่ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าพี่ตั้ว – ศรันยูแกจะมาพากย์ (ตอนนั้นมีอีกเรื่องคือ The X-Files ครับ พี่แกก็พากย์เป็นมัลเดอร์) คือผมขอบคุณมากครับที่หลังๆ พี่ไม่ไ่ด้มาพากย์อีก คือผมว่าพี่เป็นดาราที่เล่นหนังได้ดีมากๆ ครับ แต่เรื่องการพากย์นี่ทำเอาอรรถรสของหนังหายสาปสูญไปเยอะจริงๆ ดูไปดูมา นัยน์ตาพี่ Cage ว่าเศร้าแต่ผมนี่เศร้ามากกว่าพี่ Cage อีกครับ ดูไปจะร้องไห้เอา ไม่ใช่เพราะหนังมันเศร้าขนาดนั้นหรอกครับ แต่เสียงพากย์มันเมาอ้ะ คือพี่ท่านพากย์เรื่องไหน มันเมาทุกที ตอนให้เสียงพี่ฟ็อกซ์ มัลเดอร์แกก็พอกันครับ ผมจำได้เลย พี่มัลเดอร์ของผมแกเมาอยู่ฉากเดียวนะ แต่พี่แกดันพากย์ให้มัลเดอร์เมาค้างทั้งเรื่องได้อ้ะครับ โอ้ เศร้ามากๆ ทีเดียว  (เป็นการระบายอารมณ์ส่วนตัวโดยแท้จริงครับ ฮี่ๆๆๆ)

ฮ่าๆๆ นอกเรื่องได้อีกตั้งหลายบรรทัดแน่ ฮุๆๆ กลับมาเรื่องหนังนะครับ มันก็เป็นอีกหนึ่งหนังแนวรักแบบดราม่านะครับ แต่ต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่แนวกุ๊กกิ๊กนะครับ ไม่ใช่แนวใสๆ มันค่อนข้างจะเป็นรักแบบผู้ใหญ่ครับ ประมาณค้นหาความหมายของชีวิต แล้วก็ค้นหากันและกัน ไอ้พวกคำพูดส่งขนมจีบหวานๆ นี่ไม่มีครับ ไม่ใช่เรื่องนี้เลย มันปเ้นรักแบบผู้ใหญ่ รักแบบค้นหาความหมายมากกว่า

ดู ได้ไม่ผิดหวังครับ ดาราดี โทนหนังถึง และผมค่อนข้างชอบฉากจบนะครับ มันสื่ออะไรได้เยอะดี และหน้าตาของพี่ Cage ฉากนั้นก็ถึงอารมณ์มากๆ ด้วย แต่บอกไม่ได้ครับว่าจบอย่างไรต้องไปดูเองดีกว่า เอาเป็นว่าหนังคุ้มครับ เป็นแนวรักที่ทำออกมาได้ดีและน่าสนใจ แต่ไม่จำเป็นอย่าดูพากย์ไทยครับ เดี๋ยวท่านจะเมาเหมือนผม (นี่ตอนดูในโรงทะลึ่งดูพากย์ไทยครับ เป็นไงล่ะ ต้องมาตามเก็บเป็น Soundtrack อีกรอบ 5555  สมน้ำหน้าตัวเองจริงๆ)