ค้นหาหนัง

Creep อสูรใต้ดิน คนกินมนุษย์

Creep อสูรใต้ดิน คนกินมนุษย์
เรื่องย่อ : Creep อสูรใต้ดิน คนกินมนุษย์

เคท (Franka Potente จาก The Bourne Identity) สาวมั่นผู้รักการเที่ยวกลางคืนแล้วเธอก็กำลังจะตามไปดูจอร์จ คลูนี่ย์ตัวเป็นๆ อีกด้วย ตามประสาสาวซ่าน่ะแหละครับ เธอเลยต้องรีบจับรถไฟเที่ยวสุดท้ายให้ทัน แต่เธอดันคลาดน่ะสิครับ จนในที่สุดมันก็นำเธอไปสู่ความสยองที่ซ่อนอยู่ภายใต้สถานีรถไฟนั่น มีอไรบางอย่างอาศัยอยู่ และมันก็ไม่เป็นมิตรด้วยครับ มันพร้อมจะฆ่าทุกชีวิตที่พลัดหลงเขาไปที่นั่น

IMDB : tt0381966

คะแนน : 8



ถไฟใต้ดิน … อืมม์ … ผมว่าเป็นที่หนึ่งที่สยองและลึกลับไม่ใช่ย่อยน่ะครับ

คือถ้าเอารถใต้ดินบ้านเรามาเป็นมาตรวัดล่ะมันคงไม่น่ากลัวหรอก ยอมรับเลยครับว่ารถใต้ดินบ้านเราสะอาดสะอ้านดี กว้างโถงโล่งและสว่างดี ไม่เหมือนรถใต้ดินเมืองนอกที่เรามักเห็นในหนังน่ะครับ ซึ่งก็คงเพราะเขาเก่าด้วยน่ะนะครับ (ก็มีก่อนบ้านเราตั้งกี่สิบปีล่ะ) แต่อีกอย่างคือ ตามสถานีรถใต้ดินเก่าๆ มักจะดูโทรมๆ แล้วก็มีคนไร้บ้าน ที่เขาเรียกว่า Homeless น่ะนะครับไปป้วนเปี้ยนอยู่

แต่จุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือรถใต้ดินเมืองนอกเขาส่วนมากจะไม่ได้มีกระจกเลื่อนปิดเปิดแบบบ้านเรานะครับ เขาจะเปิดโล่งแบบทั้งแถบเลย คือถ้าจะมีใครกระโดดลงไปตรงรางรถก็ทำได้น่ะครับ หรือจะลงไปตามทางก็แค่แอบๆ ดอดๆ ลงไป ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งอะไรพวกนี้ก็มีการเอามาผูกเป็นหนังสยองหลายรอบแล้วน่ะนะครับ ประมาณว่ามีตัวอะไรแอบอยู่ใต้ทางรางรถไฟ และเรื่องนี้ก็เข้าข่ายแบบนั้นนั่นแหละ

อืมม์ งั่มๆ แฮะๆๆ รอบแรกที่ผมดูนะครับบอกตามตรงว่าค่อนข้างหงุดหงิด เพราะแม้หนังจะทำได้โอเคน่าพอใจ แต่มันก็มีส่วนงี่เง่าตามสูตรหนังแนวนี้แล่บๆ แหลมๆ ออกมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะตัวละครที่พอเจอเรื่องร้ายแล้วก็ต้องหาทางแยกกันวิ่งหนี จนสุดท้ายก็โดนเอาไปเชือดทีละคน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่รวมกันเราอยู่วะ เพราะแยกคู่ทีไรล่ะตายศพไม่สวยทุกที หรือจะตอนที่ตัวบ้านั่นกำลังเสียหลัก แทนที่จะจัดการให้มันเด็ดขาดไปเลย ก็ดันมาลังเล หรือพอมีอาวุธแล้วก็ดันไม่ใช้เล่นงานมัน เอาแต่หนีอย่างเดียว จนในที่สุดพอไอ้ตัวนั้นได้สติก็ฟื้นขึ้นมาไล่ฆ่าต่อไป ดูไปก็ทำหน้าแบบนี้ไปน่ะครับ คือมันรำคาญน่ะ แล้วมีหลายรอบมาก คือถ้าพวกนางเอกสู้ซะหน่อยนะ เรื่องจบไว อีกอย่างคนจะไม่ต้องมาตายเยอะขนาดนี้ด้วย

แต่ก็นั่นแหละครับ หนังนี่หน่า จะให้ 30 นาทีจบมันก็สั้นจริงมั้ยครับ (แต่คิดๆ ดูผมว่าถ้าทำเป็นหนังสั้นๆ ไปเลยคงกระชับดีนะครับ) แล้วจะว่าไปตัวหนังเอง อันนี้ต้องขอให้ทำใจนิดนึงในเรื่องความงี่เง่านะครับ ตอนแรกผมก็หงดุหงิดน่ะแหละ แต่พอใจเย็นได้แล้วดูต่อก็โอเคอ้ะ หนังถือว่าออกมาดี ไม่ใช่หนังสยองเกรดบีที่ไร้สาระซะทีเดียว อย่างน้อยพวกบรรยากาศต่างๆ ก็ใช้ได้เลยล่ะครับ เพราะเหตุมันมาเกิดที่สถานีรถใต้ดิน ที่แม้จะมีที่โล่งๆ เยอะ และมีไฟสว่างไปตลอด แต่หนังก็สามารถทำให้มันดูโหวงเหวงน่ากลัวได้ เหมือนกับแม้จะโล่งเหมือนไม่มีอะไร แต่มันมีกลิ่นอายความผิดปกติเจือจางอยู่โดยรอบน่ะครับ อ้า อันนี้ใช้ได้เลย ดูแล้วนึกไปถึง The Shining น่ะครับ เข้าโล่งแต่สยอง ส่วนในโซนของฉากใต้ดินนั่นก็ใช้ได้เช่นกัน มืดๆ แฉะๆ โอเคเลยนะครับ แต่อาจจะดูสะอาดไปบ้างน่ะ ก็ขอให้ลืมๆ ครับ อย่าไปคิดมากเลย เพราะหนังมันพร่องเหตุผลค่อนข้างเยอะ ดูแค่เอาสยองพอครับ จับผิดแล้วอาจเซ็งได้นา

ส่วนสไตล์เรื่องราวนั้นมันเดาได้ไม่ยากหรอกครับ เดินเรื่องยังไงก็หยั่งงั้น ตัวเอกก็หนีๆ ไป เจอตัวร้ายไล่ล่าฆ่าไปเรื่อยๆ จนตอนจบนั่นแหละมันถึงจะตาย ใครโชคดีก็รอดน่ะครับ หนังเองก็มีช่วงน่าเบื่อบ้างหน่อยๆ แต่ก็พอข้ามๆ ได้

ส่วนพวกดารานั้นก็ดีครับ เลือกมาดี นางเอกก็สวยนะ Franka Potente ในเรื่องเธอก็สวมบทเป็นสาวซ่าส์ได้ดีล่ะครับ แม้ผมจะบ่นๆ ว่าน่ารำคาญก็เถอะ แต่ถ้าแสดงไม่ดีก็คงทำให้ผมรำคาญไม่ได้หรอกจริงมั้ยครับ คือเป็นสาวประเภทที่ … เหมือนวันๆ ไม่ทำอะไร มัวแต่จะเที่ยวแล้วก็วุ่นวายวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องผู้ชาย แค่นั้นน่ะ (อันนี้อย่าว่าผมนะครับ คือในเรื่องเป็นแบบนั้นจริงๆ) คือถ้าให้ว่ากันจริงๆ แล้ว ตัวละครในเรื่องตายไปเพราะเธอเยอะมากอ้ะครับ เพราะความงี่เง่าด้วย หรือเพราะความอืดอาดหรืออะไรอีก ตายไปเยอะจริงๆ จนดูๆ ไปก็ให้คิดว่านี่ตัวซวยจริงๆ ครับ ใครเข้าใกล้หรือเข้าแก๊งไหนล่ะตายกันหมด ก็ไม่รู้ว่าผู้กำกับแกจะวิจารณ์แฝงอะไรลงมารึเปล่า เพราะตอนจบฉากสุดท้ายมันก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน

แต่ถ้าคิดแบบรวมๆ ล่ะก็ แง่คิดอย่างหนึ่งคือ บางครั้งการเที่ยวเตร่มันก็ดีครับ พักผ่อน แต่ควรไปในปริมาณที่พอเหมาะพอควร ไม่ใช่วันๆ เอาแต่จะเที่ยวอย่างเดียว คือก็ต้องทำอะไรอย่างอื่นด้วยน่ะครับ

หนังเรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดย Christopher Smith นะครับ ก็โอเคฮะ งานออกมาดูเอาสยองได้ แล้วหนังก็ไม่ยาวนัก แค่ 85 นาที แม้จะมีอืดบ้างหรือเรื่องราวไม่สมเหตุผลบ้างแต่ก็อย่าไปคิดมากครับ ดูเอาสยอง อันนี้ต้องขอย้ำนะครับ เพราะการคิดมากนี่ทำให้ผมดูไม่ค่อยสนุกไปพอสมควร จนต้องมานั่งปรับสมองใหม่นี่แหละถึงจะโอเคขึ้น อีกอย่างพอลองมานั่งนึกๆ ดูอีกที การตายของหลายๆ ตัวละครก็เหมือนจะเป็นการกัดพฤติกรรมของตัวละครนั้นๆ ด้วยล่ะครับ อย่างตัวที่พอรู้ว่ามีคนมาทำร้ายแฟนตัวเองก็เลยหน้ามืดไล่ล่าแบบขาดสติ จนในที่สุดก็ตกเป็นเหยื่อไปเลย หรือจะคนท่เอาแต่หมกมุ่นเรื่องของตัวเองจนไม่มองซ้ายมองขวาจนสุดท้ายก็โดนเล่นงานไปเหมือนกัน ซึ่งถ้าเอามาดูมันก็พอจะให้เรานึกเรื่องสติได้น่ะครับประมาณว่าอย่าขาดสติเน้อ ไม่ว่าจะช่วงไหนของชีวิตก็เถอะ

ถือเป็นหนังสยองที่ดูได้ครับ คนขวัญอ่อนน่าจะสนุกนะ ส่วนคนขวัญแข็งก็ทำใจนิดหนึ่งครับ ตัดเหตุผลออกไปแล้วเสพสำราญจากหนังไปเรื่อยๆ ก็โอเคน่ะ ไม่เสียดายตังค์หรอกครับ ถือเป็นหนังสยองที่ทำบรรยากาศออกมาได้คุ้มเงินค่าดูอยู่เหมือนกัน