IMDB : tt1083452
คะแนน : 9
เรื่องของเอ็ดดี้อาจเป็นสูตรสำเร็จของไก่รองบ่อนนอกสายตาที่พยายามทำตามฝันจนประสบความสำเร็จ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ล่ะครับว่าคนมากมายถึงฝั่งฝันได้ก็เพราะพยายามไม่หยุด ตั้งมั่นเดินหน้าแม้จะโดนกีดกันหรือเยาะเย้ยขนาดไหนก็ตาม ซึ่งการที่ชื่อของเอ็ดดี้ได้รับการจดจำขนาดนี้ก็เพราะเขาตั่งมั่นนี่แหละครับ
ดังนั้นถ้าใครชอบหนังแนวสร้างพลังใจที่อิงจากเรื่องจริงล่ะก็ เรื่องนี้ผมแนะนำเลยครับ ด้วยเรื่องราวถือว่าสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดี ดูแล้วฮึกเหิมและแอบอินในหลายๆ ฉาก
ในแง่ความเป็นหนังแล้ว ถือว่าทำได้น่าติดตามเลยล่ะครับ ช่วงต้นๆ อาจยังไม่ค่อยมีอะไรมาก เพราะมันคือการปูพื้นเล่าเรื่องในช่วงวัยเด็ก แต่พอเดินเรื่องไปสักพัก เราจะเริ่มรักเอ็ดดี้มากขึ้น จุดนี้ผมขอชม Taron Egerton เลยครับ พี่แกเล่นบทนี้ได้ดีมาก เขาถ่ายทอดคาแรคเตอร์นี้ออกมาได้น่ารัก ดูน่าเอาใจช่วย และหน้าตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตลอด ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างอารมณ์ขันให้กับหนังได้ตลอด
ผมชอบที่ Egerton แสดงบทนี้ได้พอเหมาะ ทำให้ตัวละครดูน่ารักแต่ไม่ได้น่าขำหรือน่าหัวเราะเยาะ ถือเป็นการให้เกียรติเอ็ดดี้ตัวจริงได้ดีมากครับ นอกจากนี้บทสมทบของ Hugh Jackman ก็เพิ่มความสนุกให้กับหนังได้อีกเพียบเหมือนกันครับ (ยิ่งตอนดูพากย์ไทยแล้วได้ยินพี่จักรกฤษณ์พากย์ยิ่งเจ๋งไปกันใหญ่ 5555)
ยอมรับว่าดูแล้วมีความสุขครับ หนังสนุก เดินเรื่องดี ดาราดี และที่ชอบเป็นพิเศษอีกอย่างคือดนตรีของ Matthew Margeson ที่ได้อารมณ์ยุค 80 – 90 แบบเต็มๆ ทั้งเข้ากับบรรยากาศ เข้ากับช่วงเวลา และเหมือนพาเราย้อนไปสู่ยุคสมัยนั้นจริงๆ
สรุปว่าไม่อยากให้พลาดครับ หนังไม่ยาวเท่าไรด้วย แค่ 100 นาทีนิดๆ กำลังดี ทุกอย่างถือว่าลงตัวพอเหมาะ ดูแล้วสนุก ดูแล้วได้พลัง หรือถ้าใครรู้สึกหนักๆ กับชีวิตในตอนนี้ ผมว่าดูคลายเครียดก็ยังได้นะครับ