ค้นหาหนัง

Elvis & Nixon | เอลวิส พบ นิกสัน

Elvis & Nixon | เอลวิส พบ นิกสัน
เรื่องย่อ : Elvis & Nixon | เอลวิส พบ นิกสัน

อิงจากเรื่องจริง เหตุการณ์จริงปี 1970 จนกลายเป็นภาพถ่ายอันลือลั่น เมื่อ เอลวิส เพรสลี่ย์ ราชาร็อกแอนด์โรล บินตรงไปยังวอชิงตัน ดีซี เพื่อขอเข้าพบประธานาธิปดี ริชาร์ด นิกสัน เพื่อเสนอตัวขอรับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของหน่วยปราบปรามยาเสพติด ด้วยความแตกต่างสุดขั้วของคนต่างสถานะต่างสไตล์ จึงกลายเป็นความอลเวงป่วนทำเนียบขาว!!!.M.

IMDB : tt2093991

คะแนน : 7



วันที่ 21 ธันวาคม ปี 1970 เอลวิส เพรสลีย์ (ไมเคิล แชนนอน) บินตรงไปยังวอชิงตัน ดีซี เพื่อโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ริชาร์ด นิกสัน (เควิน สเปซี่ย์) แต่งตั้งเขาเป็น ''เจ้าหน้าที่รัฐ'' ระหว่างที่เอลวิส รออยู่หน้าทำเนียบขาวพร้อมกับคู่หู เจอร์รี่ ชิลลิ่ง (อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์) เขาวานให้ยามรักษาความปลอดภัยยื่นจดหมายถึงประธานาธิบดีเพื่อขอพบเป็นการส่วนตัว ขณะเดียวกันสองที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว เอกิล โครก (โคลิน แฮงส์) และ ดไวท์ แชปิน (อีวาน ปีเตอร์ส) ก็เห็นโอกาสว่าการพบปะระหว่างเพรสลีย์กับประธานาธิบดีเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการหาเสียง ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจใช้เงื่อนไขคือเพรสลีย์จะเข้าพบประธานาธิบดีนิกสันได้ก็ต่อเมื่อเขามอบลายเซ็นให้แก่จูลี่ ลูกสาวของประธานาธิบดี จนกระทั่งเมื่อผู้ทรงอิทธิพลทั้งสองคนเจอกัน มิตรภาพต่างสไตล์สุดขั้ว ต่างวัฒนธรรมก็เริ่มต้นขึ้น

ความยาวของหนังแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ ไม่มาก ถือว่ากำลังดี ส่วนหนึ่งอาจเพราะเนื้อเรื่องจริงๆ ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนมากจะเป็นการเล่าเรื่องของเอลวิสตอนก่อนจะเข้าพบนิกสัน แล้วก็มาไฮไลท์อีกทีตอนเจอนิกสัน (ซึ่งถือเป็นเรื่องดีครับที่ความยาวไม่เยอะ ไม่งั้นหนังอาจจะเรื่อยเอื่อยไปเลยก็ได้)

แต่จุดที่ผมชอบจริงๆ คือหนังมีช่วยให้เอลวิสกับนิกสันเผยความในใจของตน อย่างตอนเอลวิสคุยกับเจอร์รี่ว่า เวลานายไปไหนมาไหน ใครๆ ก็มองว่านายคือเจอร์รี่ แต่สำหรับเอลวิสแล้ว เมื่อเขาใส่แว่น สวมเสื้อ สวมแหวน เขาก็แทบไม่ต่างจากวัตถุอย่างหนึ่งที่ถูกพะยี่ห้อว่า “เอลวิส”

เอลวิสพร่ำบ่นว่า เมื่อทุกคนเจอเขา ก็อาจจะนึกถึงเพลง นึกถึงจูบแรกของตนตอนฟังเพลงเขา นึกถึงยามเลิกกับแฟนตอนเพลงเขากำลังเปิดคลอ ฯลฯ แต่จะมีสักกี่คนที่เห็นเขาในอย่างที่เขาเป็น จะมีใครมองเขาในฐานะคนที่มีเลือดเนื้อ และไม่มองเพียงแค่เขาคือไอดอลที่ดูดีคนหนึ่ง

หรือตัวนิกสันเองตอนบ่นกับลูกน้องว่า เอลวิสนั้นหน้าตาดี เพียงแค่พูดกับร้องเพลงก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กับนิกสันเองแล้วเขาหน้าตาก็งั้นๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้เขาต้องทุ่มเทสารพัด และกว่าที่จะมีสาวสักคนหันมามองเขาต้องถีบตัวแบบมหาศาล อะไรเหล่านี้ก็สะท้อนตัวตนของ 2 คาแรคเตอร์นี้ได้ดีครับ

เป็นหนังที่ดูเพลินครับ สำหรับผมนี่แค่ดูการแสดงของ 2 ดารานำก็คุ้มแล้ว และยังได้อารมณ์ขันมาแทรกเป็นพักๆ นี่อาจไม่ใช่หนังประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นหรือทรงคุณค่าอะไรมากมาย แต่ถือเป็นหนังชีวิตบรรยากาศเบาๆ ที่ทำออกมาได้น่าจดจำ ดูแล้วเพลิน และยังได้มุมมองบางอย่างเก็บไปคิดต่อได้ด้วย