Event Horizon | ฝ่านรก สุดขอบฟ้า

Event Horizon คือชื่อของยานที่สุดไฮเทคซึ่งมีระบบวอร์พ หรือ เดินทางเร็วกว่าแสงโดยการสร้างประตูทะลุมิติขึ้นมา แต่จากการทดลองระบบนี้ ปรากฎว่ายานดันเข้าประตูแล้วหายไปเลยครับ ไม่มีใครทราบว่ามันไปไหน

แล้ว 7 ปีต่อมา ยานก็โผล่แถวๆ ดาวเนปจูน ทางการจึงมีคำสั่งให้กู้ยานกลับมาโดยเร็ว และยานที่ได้รับมอบหมายภารกิจนี้คือ “หลุยส์ & คลาร์ก” มีกัปตันมิลเลอร์ (Laurence Fishburne) เป็นผู้นำทีมกับเหล่าลูกยาน พร้อมผู้ติดตามอย่าง ดร.วิลเลี่ยม เวียร์ (Sam Neill) ผู้สร้างยานอีเวน เฮอริซั่น และยังเป็นคนประดิษฐ์เครื่องสร้างประตูมิติที่ว่าด้วย

แล้วพอพวกเขาไปถึงอีเวน เฮอริซั่นที่ไร้ซึ่งผู้คน ไร้วี่แววสิ่งมีชีวิต ไร้แม้กระทั่งลูกเรือที่ไปกับยานก่อนมันจะสาปสูญไป

… แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ลูกเรือทั้งหลายก็รู้สึกตรงกันว่า ในยานลำนี้มีบางสิ่งซ่อนอยู่ …

แนวคิดบ้านผีสิงบนอวกาศเป็นอะไรที่ดีครับ หนังก็นับว่าน่าพอใจ สยองพอดู ฉากแหวะก็มีเป็นพักๆ แต่ส่วนที่ทำได้ดีมากๆ คือ Effect และการออกแบบยานอีเวนฯ ที่มีลวดลายเป็นขดเป็นเกลียวเต็มไปหมด ดูแล้วหลอนดีมากครับ แล้วยานนี่ก็ใหญ่โคตรๆ กว้างครับ กว้างเกินไป จนเราไม่รู้เลยว่ามันจะมีตัวบ้าอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง แล้วทั้งยานก็มืดเหลือเกิน น่ากลัวดีครับ

ส่วนหนังเองก็น่าติดตามดีครับตอนต้น ตอนแนะนำตัวละครแล้วก็อธิบายว่ายานอีเวนเนี่ยมันทำงานยังไง กล่าวคือยานนี่มันจะสร้างประตูมิติที่มีสภาพเหมือนหลุมดำขึ้นมาน่ะครับ แล้วยานก็แล่นตรงเข้าไปเพื่อทะลุไปยังที่อื่นตามต้องการ แต่ก็อดนึกไม่ได้น่ะครับ ลองว่ามันเป็นประตูมิติน่ะ มันควบคุมไม่ได้หรอกครับว่ามันจะไปโผล่ที่ไหน แล้วมิติที่ยานไปโผล่มาก็เป็นไปตามนั้นครับ เป็นมิติที่ไม่น่าเข้าไปเกี่ยวด้วยเลยแม้แต่น้อย

บอกตามตรงถ้าผมเป็นลูกยานนะครับ แค่เอาเท้าแตะตรงประตูยานอีเวน ผมก็ชักเท้ากลับขับยานหนีแล้วล่ะ บรรยากาศยานมันสยองอ้ะ มืดๆ และดูก็รู้ว่ายานนี่วิปริตแหงมๆ อีกอย่างตอนก่อนจะเข้ายานก็มีการสแกนน่ะครับว่ามีสิ่งมีชีวิตมั้ย ปรากฎว่าเครื่องสแกนมันทำท่าจะรวนครับ เหมือนกับจะบอกว่าสิ่งมีชีวิตมีอยู่ทุกส่วนของยาน แค่นี้ผมก็ไม่ยุ่งกับยานแล้วครับ เข้าไปล่ะไม่รอดสันดรแน่ๆ แต่แน่นอนครับ ตามสูตร พวกพี่เขาต้องเข้าไป …  ก็เตรียมตัวเจอดีได้เลยครับงานนี้

ช่วงกลางๆ เรื่องออกจะเรื่อยๆ อยู่บ้าง แต่ดีที่บรรยากาศในยานมันยังพอมืดๆ น่ากลัวๆ อยู่ ส่วนช่วงต้นกับช่วงท้ายหนังทำได้น่าติดตามดี ความน่ากลัวก็มีเรื่อยๆ ครับ ก็จัดว่าน่ากลัวใช้ได้ ฉากแหวะก็มีไม่น้อยครับ

ดารานั้นมีน้อย แต่แสดงได้ดีครับ Fishburne ก็ดูเข้ากับบทผู้นำทีมมาก ส่วน Neill ก็ดูเป็นนักวิทยาศาสตร์บ้างานได้น่าเชื่อถือมากครับ พอช่วงท้ายก็ถือว่าเล่นได้ดีมากๆ อีกเช่นกัน ส่วนใครจะรอดหรือตายบ้างก็ลองไปดูกันนะครับ

ความสยองของหนังถือว่าเข้าท่าครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าหนังน่าจะโหดกว่านี้หน่อย จะได้สยองเต็มที่กันไปเลย แล้วผมก็ได้ข่าวว่า Paul W.S. Anderson ผู้กำกับโดนบังคับให้ตัดฉากรุนแรงออกไปกว่า 30 นาทีน่ะครับ ส่วนหนึ่งเพื่อรักษาเรตหนังไว้ และได้ข่าวว่าตอนฉายรอบทดลองนั้นหนังโดนวิจารณ์ว่ามีฉากรุนแรงจัดเต็มมากเกินไป ก็เลยโดนสั่งให้ตัดออก พอได้ยินแบบนี้ก็น่าเห็นใจล่ะครับ (ฉากที่โดนตัดออกบางส่วนสามารถไปหาชมกันได้ที่ Youtube ครับ บางฉากนี่รู้สึกเสียดายมากๆ เพราะน่าจะเสริมความหลอนให้หนังได้ไม่น้อย)

แต่เท่าที่เป็นนี้หนังก็จัดว่าดีนะครับ สยองดี น่าติดตาม น่ากลัวเหมือนกัน ช่วงท้ายก็ลุ้นกันไปเลยว่าจะรอดจากยานนรกลำนี้ได้หรือไม่

ส่วนรายได้ก็ถือว่าไม่เข้าเป้าครับ ได้ไปเพียง $26 ล้าน จากทุนราวๆ $60 ล้าน ก็เข้าข่ายขาดทุนกันไปครับ

โดยรวมๆ หนังก็สนุกดีครับ เหมาะกับคอหนังสยองครับ ทำได้ไม่เลว อย่างน้อยคนขวัญอ่อนคงต้องมีหลับตาล่ะครับ เพราะฉากแหวะๆ น่ากลัวๆ ก็มีเยอะเหมือนกัน ยิ่งตอนท้ายนี่กระหน่ำมาเลยล่ะ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าสยองกว่านี้คงเจ่งสุดๆ ครับ เพราะหนังมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ยังไม่สุดขั้วเท่านั้นเอง ซึ่งจุดนี้ก็โทษผู้กำกับไม่ได้ครับ เพราะเท่าที่ทราบนั้นเขาก็ทำออกมาค่อนข้างสุดเหมือนกัน แต่ก็โดนสั่งตัด-ลดระดับความรุนแรงลง… ยิ่งคิดยิ่งเสียดายครับ