ค้นหาหนัง

Fear Street: 1978 ถนนอาถรรพ์ ภาค 2: 1978

Fear Street: 1978 ถนนอาถรรพ์ ภาค 2: 1978
เรื่องย่อ : Fear Street: 1978 ถนนอาถรรพ์ ภาค 2: 1978

เรื่องราวเกิดจากดีนาและน้องชายจอร์ช ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจาก ‘ซี เบอร์แมน’ ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสังหารหมู่ที่ค่ายฤดูร้อน Nightwing ที่เชดี้ไซด์ ซึ่งในตอนแรกเธอบอกว่าให้ดีน่ากับจอร์ชหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ดีน่าเธอก็ค้านหัวชนฝาว่าเธอต้องการจะสะสางเรื่องราวทั้งหมด โดย ณตอนนั้นเบอร์แมนก็ตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เธอได้เคยพบเจอ ย้อนกลับไปในปี 1978 มีข่าวว่าลูกสาวของพยาบาลคนหนึ่งได้ทำการฆาตกรรมสังหารโหดกลุ่มเพื่อน ซึ่งข่าวนี้เองก็ทำให้พยาบาลเลนได้ตามหาอะไรบางอย่างที่ถ้ำลับที่อยู่ในป่า เพื่อลบล้างตราบาป และตอนนั้นเองที่เธอต้องการฆ่าทอมมี่ แฟนหนุ่มของซินดี้ เพราะในคืนนั้นเขาจะต้องโดนคำสาปร้ายแต่แล้วเธอโดนจับและก็ถูกมองว่าเธอนั้นบ้าและกินยาจนทำให้ประสาทหลอน แต่แล้วในค่ำคืนนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นั้นคือการไล่ฆาตกรรมสังหารโหดจาดทอมมี่ ซึ่งเมื่อตัดภาพกลับมาในปี 1994 ทำให้ดีน่าได้รู้ว่าทั้งหมดที่ซี เบอร์แมนเล่ามานั้นเป็นเหมือนจิ๊กซอว์และคำตอบให้กับเรื่องราวทั้งหมด เธอ จอร์ช ก็ได้มุ่งหน้าไปยังห้างของเมืองเชดี้ไซด์เพื่อนำบางอย่างออกมาจากต้นไม้ใหญ่เพื่อไปคืนยังป่าในคืนที่แซมเกิดอุบัติเหตุ และเมื่อดีน่าได้สัมผัสสิ่งนี้ทำให้เธอนั้นได้รับรู้เรื่องรางของซาร่า เฟียร์ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดในปี 1666 นั้นเอง

IMDB : tt9701940

คะแนน : 8



Fear Street จากทาง Netflix ซึ่งเป็นมินิซีรีส์ 3 ตอนจบ หลังจากที่ปล่อย Fear Street Part One: 1994 ออกมาแล้วนั้น ตอนนี้ก็เป็นคิวถึง Part ที่สองอย่าง ‘Fear Street Part2: 1978’ จะต้องบอกเลยว่าภาคนี้เป็นที่ปังมาก ดูไปลุ้นไป ขนลุกซู่สุดไรสุด แอบสปอยด์ว่าสนุกและมันส์กว่า Part แรกมาก วันนี้เราเลยอยากจะพาเพื่อน ๆ มาดูรีวิว Fear Street Part2: 1978 สังหารหมู่ในค่ายฤดูร้อน Nightwing ไปพร้อม ๆ กันว่าจะดี หลอน ตื่นเต้นมากขนาดไหน หากพร้อมแล้วก็ตามมาเลย

มาเริ่มกันที่พาร์ทเนื้อเรื่องกันก่อนเลย ส่วนตัวเราคิดว่าดีมากค่ะ ปูทางจากพาร์ทแรก (1994)เชื่อมไปพาร์ทสอง (1978) ได้แบบไม่ งง มีเหตุมีผลไม่ข้ามกระโดด ซึ่งปีสไตล์การเล่าเรื่องของ Fear Street Part2: 1978 มาในแนว Slasher กับค่ายแบบเต็ม ๆ มีการไล่ฆ่าเชือดแบบขนหัวลุกมาก แถมหนังไม่ได้เจาะจงไปแค่ที่ตัวเอกแต่ยังมีมุ่งไปยังตัวประกอบอื่นๆ อีกด้วย และที่สำคัญก็คือแทนที่ปกติแล้วหนังแนวนี้จะเป็นฆาตกรรมที่ไม่มีความเชื่อมโยงหรือสัมพันธ์กับตัวเอกเลยอาจจะมีปมเลยมาฆ่า แต่เรื่องนี้มีความแตกต่างคือ ฆาตกรที่ทำการฆ่าเป็นแฟนหนุ่มของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นคนที่นิสัยดีน่ารักอีกด้วย อีกทั้งบวกกับเนื้อเรื่องมีการบอกเล่าถึงตำนาน ปมปัญหาไปในตัวอีกด้วยทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงปะติดปะต่อตากพาร์ทแรก (1994) ซึ่งถือว่าพล็อตในพาร์ทนี้ดีงามมาก มีความน่าสนใจชวนติดตามจนเบรคไม่อยู่เลย

โดยในพาร์ท Fear Street Part2: 1978 นั้นจะมีความแตกต่างจากพาร์ทแรกค่อนข้างเยอะ เพราะเหมือนกับว่ามีการไขปมปริศนาหยั่งลึกลงไป ทำให้คนดูรู้ถึงที่ไปที่มา มีการปูทางเล่าเรื่องต่าง ๆ ทำให้รู้สึกถึงเนื้อหาที่ Deep ลงไปและเข้มข้นสุด! และที่สำคัญเลยคือฉาก Slasher ไล่ฆ่าฟันนี่มาเต็มแบบไม่มีกั๊กจัดเต็มมาก ดูไปลุ้นไปรู้สึกร่วมไปกับตัวละครอารมณ์แบบอยู่ไม่ติดกับที่เลยละ นส่วนของเลือด ศพ เนื้อหนังต่าง ๆ ในพาร์ทนี้ก็ดีเหมือนพาร์ทแรกเลยละค่ะ มีความสมจริงชวนปิดตาอีกเช่นเคย เรียกว่าเต็ม 10 ไม่หักเลย

มาถึงในส่วนของบรรยากาศ Mood and tone และสไตล์ของเรื่อง ในส่วนนี้บอกเลยว่าอดที่จะชื่นชมไม่ได้ โดยหนังพรีเซนต์อยู่มาปี 1978 ซึ่งนั้นคือปี 70’s มีกลิ่นอายของความวินเทจ Classic ปะปนไปหมดไม่ว่าจะเป็นฉากซีนต่าง ๆ ของเรื่องที่เป็นค่ายฤดูร้อนที่เป็นฉากของห้องอาหาร ฉากพยาบาล ห้องวิทยาศาสตร์ มันดูมีความไปยุคเก่าไปซะหมด หรือแม้กระทั้งการแต่งตัวของตัวละครต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงปี 70’s แบบไม่ต้องสงสัย ยกตัวอย่างเช่นตัวละครหลักอย่างซิกกี้ (ซี เบอร์แมน) มีการใส่เป็นเสื้อสายเดี่ยวลายทางส้ม-เขียวขอบสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ตามด้วยถุงเท้ายาวและรองเท้าผ้าใบ หรือซินดี้ เบอร์แมน ที่มีการใส่เป็นเสื้อโปโลแบบวินเทจ และจะเห็นได้ว่าการเล่นสีในการแต่งตัวนั้นฮิตมาก ๆ ในยุคสมัยนั้น ซึ่งการแต่งตัวของเธอนั้นดูโดดเด่นมาก มีความวินเทจดูเข้ากับยุคสมัย

และส่วนสุดท้ายที่ต้องขออวยอีกหนึ่งคือ ‘นักแสดง’ นักแสดงแต่ละคนที่ฟิตติ้งมานั้นบอกเลยว่าดีงามมาก มีความเข้ากับบท คาแรคเตอร์ต่าง ๆ โดดเด่นมีเอกลักษณ์ อีกทั้งแสดงได้ดีสุด ๆ ดึงแอคติ้ง อินเนอร์ออกมาได้ขนลุก บอกเลยว่าอินสุดไรสุด! และหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างน้องซาดี้ ซิงก์ ที่มารับบทตัวละครเอกอย่างซิกกี้ หรือ ซี เบอร์แมนแน่นอนว่าน้องซาดี้นั้นไม่เคยทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นลุค การแสดง แอคติ้ง อินเนอร์ต่าง ๆ นั้นแผ่กระจายสุดยอดเรียกว่าหนังแนว 70-80’s ต้องยกให้น้องเขาจริง ๆ