Fenced In | สงครามข้ามรั้ว

สงครามข้ามรั้ว (2022) เริ่มต้นจากความผิดปกติของ ‘วอลเตอร์’ ชายหนุ่มรุ่นพ่อที่มีปฏิกิริยาต่อเสียงทุกรูปแบบอย่างร้ายแรงและฉับพลัน จนแพทย์แนะนำให้เปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อเลี่ยงเสียงทุกประเภท เพราะมันอาจทำให้เขาช็อกตายได้ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายบ้านไปยังหมู่บ้านสงบเงียบแสนสวยแห่งหนึ่งกลางหุบเขา ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวยจนกระทั่ง ครอบครัวเพื่อนบ้านข้างๆ ได้กลับมาจากธุระ และนั่นจึงเป็นปฐมเหตุแห่งความโกลาหลสุดจะบรรยาย

เพื่อนบ้านวอลเตอร์มีปาร์ตี้เสียงดังทุกคืน เรียกว่ามีวิถีชีวิตที่ต่างจากบ้านของวอลเตอร์ไปโดยปริยาย แถมสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่เลี้ยงก็ดันเป็นสัตว์ที่วอลเตอร์ไม่ชอบ แม้ว่าบ้านของเขาจะมีความพยายามเกลี่ยกล่อมและสร้างความเป็นมิตรทุกวิถีทางแล้วต่อเพื่อนบ้าน แต่เหมือนโดนฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะทุกครั้งที่พยายามจะได้ผลลัพธ์ที่แย่หรือผิดคาดกลับมาเสมอ และความรุนแรงของเสียงทั้งจากคนและสัตว์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดแม้นาทีเดียว วอลเตอร์จะทำอย่างไรให้ผ่านพ้นช่วงเวลาหฤโหดนี้ไปได้?

ประเด็นของ สงครามข้ามรั้ว (2022) อยู่ที่การต่อสู้กับสองเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาซึ่งความเงียบสงบสุขต่อวอลเตอร์ ซึ่งบ้านข้างๆ ดันมีความแสบชนิดที่น่าตีสักป๊าบ จึงเกิดการชิงไหวชิงพริบระหว่าง 2 บ้าน ซึ่งทำให้เราลุ้นและฮาในหลายๆ สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหนังได้สอดแทรกความรักเล็กๆ ระหว่างวัยรุุ่นที่ทำให้สองบ้านนี้หนีห่างจากกันไม่พ้น และนั่นถือเป็นการผูกปมของหนังให้แน่นขึ้นด้วย

แม้ สงครามข้ามรั้ว (2022) จะออกตัวว่าเป็นหนังตลกหน้าตาเฉย ที่มีการแสดงท่าทางบื้อๆ ฮาๆ แบบ over acting ออกมาอยู่บ่อยๆ เช่น ฉากที่วอลเตอร์โดนนกแก้วกัดและยืดลิ้นเขาออกมาจนยาวเฟื้อยที่มีความเกินจริง แต่ตลกและเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี แต่ต้องยอมรับว่าบางฉากก็ยังฮาไม่สุด และผู้เขียนคิดว่ามันสามารถขยี้ต่อมฮาได้มากกว่านี้อีก แต่ทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นความต้องการของผู้กำกับที่ต้องการสื่อความฮาออกมาเพียงเท่านี้ก็เป็นได้

โดยสรุปแล้ว สงครามข้ามรั้ว (2022) ถือเป็นภาพยนตร์เบาสมองแนวครอบครัวเรื่องหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายความเครียด และฆ่าเวลาได้อีกเรื่อง แต่ผู้ชมที่ชอบความฮาบ้าๆ สุดขั้วแบบหนังอเมริกันจ๋าอาจจะต้องข้ามไปก่อน เพราะบางฉากยังไม่สะใจพอ และบางบทอาจจะให้คุณรู้สึกหงุดหงิดได้