Firewall หักดิบระห่ำแผนจารกรรมพันล้าน

คำถามใหญ่ที่ยังคาหัวผมมาจนทุกวันนี้คือ ลุง Harrison Ford ของผมเนี่ยจะกลับมารับบทเป็นอินเดียน่า โจนส์อีกรอบไหวหรือเปล่า ไอ้ความชราน่ะไม่เท่าไห่ครับ อย่างปู่ Sean Connery แกยังแก่แต่เท่ห์เลย แต่มาลุง Ford ของผมนี่ชราแล้วเหลาเหย่ยังไงก็ไม่ทราบ มาเรื่องนี้ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ

ลุง Ford มารับบทเป็น แจ๊ค สแตนฟิลด์ ผู้ออกแบบระบบป้องกันภัยทางคอมพิวเตอร์น่ะนะครับ แล้วทีนี้ก็มีบุคคลลึกลับอย่าง บิลล์ ค็อกซ์ (Paul Bettany) เข้ามาแนะนำตัว ตอนแรกก็ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จู่ๆ พี่ท่านก็บอกว่าได้จับตัวลูกเมียของเขาเอาไว้ และขู่ให้แจ๊คช่วยในการขโมยเงินนับร้อยล้านจากธนาคารที่เขาออกแบบระบบป้องกันแฮ็คเกอร์ให้นั่นแหละ

แต่ก็รู้ๆ กันอยู่ครับ พวกนี้มันจะทำตามคำพูดที่ไหน บอกว่าถ้าแจ๊คทำแล้วจะไม่ทำร้ายลูกเมีย ดังนั้นแจ๊คก็เลยต้องหาทางเอาตัวรอดและช่วยลูกเมียเขา

อืมม์ อ่านพล็อตแล้วเดาตอนจบออกเลยมั้ยล่ะครับ ออกจะพิมพ์นิยมขนาดนี้ ให้ตัวเอกโดนขู่ โดนจับคนสำคัญของเขาเอาไว้ แล้วพวกชั่วที่สั่งให้เขาไปทำอะไรซักอย่างจนในที่สุดพระเอกก็ต้องหาทางแก้เกมด้วยตัวเอง

ทำไมมันซ้ำซากอย่างนี้ว้า

ผมยอมรับว่างงนะ เพราะพล็อตแบบนี้มันทำกันออกมาไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องแล้วน่ะ ไม่ว่าจะ Nick of Time ก็ใช่ Don’t Say A Word ก็ใช่ หรือแม้แต่ลุง Ford ก็เคยมีอ้ะ ไอ้มุขจับตัวประกันไว้แล้วแกต้องช่วย อย่าง Frantic นี่เมียหายแกเลยต้องไปช่วย หรือ Air Force One นี่ก็โดนผู้ก่อการร้ายยึด ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามุขเดิมๆ แบบนี้ยังจะสร้างกันออกมาอีกทำไม

ถ้าจะสร้างแล้วสนุกก็ไม่ว่ากัน แต่นี่ทำแล้วอย่างงั้นๆ ก็ยิ่งไม่เข้าใจหนักเข้าไปใหญ่ ผมยังหงุดหงิดลุงแกไม่หายเลยที่ดันบอกปัดบทแจ๊ค ไรอันไปเมื่อหลายปีก่อน ทั้งๆ ที่มันช่วยต่ออายุแกได้เลยนะครับ เพราะมันขายได้อยู่แล้วอ้ะ แต่นี่แกดันเลือกบทหนังที่ตายตั้งแต่เรือออกซะหลายเรื่อง

สำหรับหนังเรื่องนี้ เอาแค่เรื่องราวมันก็ไม่น่าสนใจแล้วน่ะครับ เพราะมันเดาอะไรได้หมด แล้วตัวหนังเองก็ออกมาธรรมดาด้วย ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือต้องลุ้นเลย ไอ้โจรร้ายก็เป็นแค่โจรปล้นแบงค์ธรรมดา ถ้าหนังกำหนดให้เป็นองค์กรหรือผู้ก่อการร้ายไปเลย แล้วไม่ใช่ให้แค่แจ๊คเป็นคนขโมยเงิน แต่เป็นช่วยก่อการร้ายอะไรเงี้ย มันยังพอน่าสนครับ เพราะทีนี้มันจะเพิ่มโจทย์ให้พระเอกของเราไปในตัว ไหนจะต้องช่วยครอบครับ ช่วยตัวเอง และช่วยคนอื่นๆ แต่นี่แค่ขโมยเงินน่ะครับ ไม่ได้เดือดร้อนคนอื่นขนาดนั้นอยู่แล้ว ปมน่าติดตามเลยพร่องลงไปโดยปริยาย เพราะมันเหลือแค่ช่วยคนในครอบครัว … แล้วคุณว่าหนังจะกำหนดให้ลูกเมียเขาตายมั้ยล่ะ?

ในส่วนของการเดินเรื่องตอนต้นก็นิ่งครับ ไม่มีอะไรตื่นเต้นเลย อย่างพวกผู้ร้ายที่เข้ามายึดบ้านพระเอกก็เป็นไปอย่างเอื่อยๆ ไม่ได้ชวนระทึกหรืออะไร แล้วพวกลูกน้องวายร้ายนี่แต่ละตัวดูละอ่อนทั้งนั้นครับ ไม่เหี้ยมเกรียมไม่อะไรทั้งนั้น ดูก็รู้ว่าไม่รอดสันดรแน่นอน ดูหน้านี่ยังวัยรุ่นทั้งนั้นเลยนะครับ ไม่ได้สร้างความกดดันอะไรเลย

เรื่องการโจรกรรม การขโมยแผยของบิลล์นั่นก็ธรรมดา ไม่พลิกอะไรมากมาย จังหวะมันไม่ตื่นเต้นจริงๆ ครับ ดูแล้วเฉยมาก

แต่ขณะเดียวกันหนังก็ไม่ได้ห่วยติดดิน เพราะดารามืออาชีพอ้ะ ไม่ว่าจะลุง Ford หรือ Bettany ก็เล่นได้ดีไม่ค่อยอยากจะติอะไรเท่าไหร่ครับ เพราะดารามันโอเค แต่บทน่ะจ้ะ บท บทมันจืด ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวน่ะครับ ต่อให้เส้นมันสดและดีแค่ไหน แต่ถ้าส่วนอื่นๆ อย่างซุปกับเนื้อมันรสชืด กินไปก็ไม่อร่อยอยู่ดี

ดูไปเลยออกจะหงุดหงิดครับ เพราะมันไม่เชิงว่าจะมีอะไรให้ติ แต่ก็ไม่รู้จะชมอะไร เพราะมันธรรมดาไงครับ แต่ไอ้ที่ว่าธรรมดานี่ก็ไม่ได้ตำกว่ามาตรฐาน ไม่ได้ถึงกับดูแล้วต้องเขวี้ยงแผ่นทิ้งซะหน่อย

ถ้าหนังจะพลาดก็คือบทนี่แหละครับ มุขธรรมดา ไม่ได้น่าติดตาม มันเดาได้ตั้งแต่ฉากต้นๆ แล้วล่ะ อย่างที่บอกว่าถ้าหนังกดดันพระเอกมากกว่านี้ ทำให้มันคอขาดบาดตายกว่านี้เช่นก่อการร้ายหรือไม่ก็ให้ลุง Ford แกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของทำเนียบขาวไปเลยก็ได้ แล้วก็โดนบังคับให้ฆ่าประธานาธิบดีไรเงี้ย หรือเป็นเจ้าหน้าที่นาซ่า แล้วก็บังคับให้จารกรรมชิฟนำวิถีที่สามารถทำลายเทคโนโลยีของโลกได้อะไรเงี้ยน่ะครับ มันจะกดดันและมีอะไรให้เล่นกว่า แต่นี่เล่นแค่ธนาคาร มันก็มีแค่ธนาคารน่ะครับ

นอกจากบทไม่แข็งพอแล้ว ความตื่นเต้นสถานการณ์ก็ไม่กดดันด้วย คือถ้าเทียบกับหนังทีวีอย่าง 24 นี่คนละเรื่องเลยครับ อันนั้นดูแล้วแทบจะซัดยาพาราแทบไม่ทัน หนังบ้าอะไรฟะกดดันได้ทุกตอน

บทของตัวละครก็อ่อนครับ บทแจ๊คของ Ford ก็เดิมๆ แต่ออกจะขาดมิติไป จะเข้าท่าจริงๆ ก็ตอนท้ายที่พี่แกขู่พวกบิลล์กลับนั่นแหละ แววตาดูเคียดแค้นดีจริงๆ ส่วน Bettany ก็นอนมาอยู่แล้วครับ แค่นิ่งๆ มาดร้ายๆ ก็เกินพอ แต่ก็พลอยทำให้บทพี่แกแบนราบตามไปด้วย

Virginia Madsen มาเป็น เบธ ภรรยาของแจ๊คก็ครือๆ กัน เอาคนอื่นมาเล่นก็ได้ครับประหยัดเงินดี เพราะบทเจ๊แกไม่มีอะไร พอๆ กับ Robert Patrick เจ้าของบทร้ายใน Terminator 2 ที่มาเป็นแกรี่ มิตเชลล์ คนที่เขม่นกับแจ๊คตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แกก็ไม่มีอะไรอยู่ดี แล้วยังมี Robert Forster ในบทแฮร์รี่ ซี้อีกคนของแจ๊ค และ Alan Arkin มาเป็นอาร์ลิน ฟอร์เรสเตอร์ สองรายหลังนี่ดารารุ่นเก๋านะครับ แต่ออกมาแบบไม่ต้องมาก็ได้ อยู่กับบ้านก็ได้ครับ และทำให้ตัวละครเยอะโดยใช่เหตุด้วย

แต่รายที่โผล่มาแล้วผมขำเป็นการส่วนตัวก็คือ Mary Lynn Rajskub ในบทเจเน็ท สโตน เลขาหน้าห้องของแจ๊ค ที่สังเกตได้ว่านายของเธออาจจะมีปัญหา ซึ่งถ้าใครเคยดู 24 ล่ะจะฮาเลยครับ เพาะบุคลิกเจ๊แกในเรื่องนี้มันคือ โคลอี้ โอ ไบรอัน ใน 24 ชัดๆ ตั้งแต่ขี้บ่น ทำหน้าเหมือนหมาสงสัยตลอดเวลา ยิ่งตอนเธอมองเจ้านายด้วยคิ้วขมวดๆ นี่ผมยังคิดว่าแจ๊ค บาวเออร์ จะโผล่ออกมามั้ยหว่า (555) ซึ่งเธอก็เล่นได้โอเคนะครับ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นบทเดิมๆ น่ะครับ เล่นไม่ดีก็แปลกล่ะ

สำหรับผู้กำกับ Richard Loncraine นั้นก็คงต้องบอกว่าไม่แปลกใจที่หนังจะออกมาธรรมดาครับ เพราะแกออกจะเป็นผู้กำกับสไตล์เก่าๆ หน่อย ลีลาเลยไม่เร้าใจ แต่ที่ไม่ไหวคือแกดันลืมใส่ความตื่นเต้นลงไปด้วยนี่สิครับ ดูไปเลยจืดมาก เขาดูจะไม่ค่อยเหมาะกับงานหนังแอ๊คชั่นระทึกขวัญจารกรรมแบบนี้เท่าไหร่ครับ

ก็ค่อนข้างผิดหวังนะครับ จริงๆ ก็หวังตั้งแต่ก่อนดูแล้วล่ะว่าคงผิดหวังชัวร์ๆ (งงมั้ยครับ ) เพราะเนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้น่าดูอยู่แล้ว พอดูปุ๊บก็โอเยส ใช่เลย ดีที่ไม่ได้เสียตังค์ไปดูที่โรง

อันนี้สุดแท้แต่ท่านนะครับผม งานมันออกมาธรรมดาจริงๆ ก็ขอว่าไปตามนั้นน่ะครับ ถ้าจะลองนะ ผมว่าเหมาะกับคนที่เป็นแฟนลุง Ford แบบเข้มข้นหรือไม่ก็เป็นผู้ชมที่ไม่เคยดูหนังพล็อตแบบนี้มาก่อนน่ะครับ อาจจะใหม่บ้าง แต่ถ้าท่านชอบหนังแนวนี้และดูมาเยอะแล้วล่ะก็ ขอแนะนำด้วยความหวังดีว่าให้ไปหาหนังแนวนี้ที่ท่านประทับใจมาดูซ้ำใหม่ดีกว่าครับ และท่านจะรู้สึกดีกว่านี้เยอะ

ธรรมดาตามความคาดหมาย