ค้นหาหนัง

Flags of Our Fathers

Flags of Our Fathers
เรื่องย่อ : Flags of Our Fathers

Flags of Our Fathers ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกันเขียนโดย เจมส์ แบรดลีย์ [James Bradley] ที่นำเรื่องราวชีวิตบิดาของเค้ามาถ่ายทอดในช่วงที่สหรัฐอเมริกาทำสงครามกับญี่ปุ่นบนเกาะฮิโรชิม่าในช่วงปี 1945 โดยเรื่องราวทั้งหมดสืบเนื่องมาจากภาพถ่ายใบเดียวที่ใครจะคิดว่าในภาพถ่ายใบนั้นความหมายของมันอาจไม่ใช่อย่างที่เราเห็นบนภาพก็ได้ ภาพถ่ายที่ว่านี้คือภาพถ่ายของนายทหารนาวิกโยธินกลุ่มหนึ่งที่กำลังยกธงชาติสหรัฐอเมริกาขึ้นปักบนยอดเขาสูงบนเกาะฮิโรชิม่า ซึ่งเมื่อคนอเมริกันในยุคนั้นได้เห็นภาพถ่ายใบนี้ต่างพากันชื่นชมกลุ่มทหารกลุ่มนี้ที่ปักธงชาติเสมือนกับการประกาศศักดาชัยชนะในสงครามครั้งนี้ จนมีการนำมาซึ่งการตามหากลุ่มทหารที่ยกธงกลุ่มนี้ซึ่งเหลือรอดชีวิตกลับมาจากสงครามจำนวน 3 คนและคนอเมริกันในยุคนั้นต่างชื่นชมและยกย่องให้พวกเค้าทั้ง 3 คนเป็นวีรบุรุษของชาติในช่วงเวลานั้นและ จอห์น แบรดลีย์ [John Bradley] ผู้ซึ่งเป็นพ่อของเจมส์ แบรดลีย์ผู้เขียนหนังสือเรื่องนี้ก็เป็น 1 ใน 3 วีรบุรุษของชาติแต่เจมส์กลับรู้สึกว่าพ่อของเค้าไม่เคยมีความสุขเลยกับคำว่าวีรบุรุษคำนี้และมันเป็นที่มาของการสืบหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมดซึ่งทำให้คนรุ่นหลังได้ทราบว่าแท้จริงแล้วเรื่องราวความจริงในภาพถ่ายนี้ที่ผู้คนยกย่องอย่างมากมาย ความหมายที่แท้จริงไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคิดแล้วนำมาซึ่งการสร้างเป็นภาพยนตร์สงครามเรื่องนี้ที่คอหนังนักสะสมที่ชอบแนวนี้ไม่ควรพลาด

IMDB : tt0418689

คะแนน : 10



ภาพถ่ายชื่อก้องอีกอันคงจะเป็นภาพของเหล่าทหารทั้ง 6 นายแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ทำการปักธงลงบนผืนแผ่นดินอีโวจีม่า ซึ่งภาพดังกล่าวหากจะสื่อออกมาเป็นคำพูดคงประมาณว่า “ฉัน (อเมริกา) ชนะสงครามแล้ว และขอประกาศความเป็นผู้ชนะโดยการปักธงชาติของฉันเสีย” แน่นอนที่ว่าผู้คนชาวเมืองแห่งสหรัฐต่างปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศชาติกำลังจะได้รับชัยชนะ แต่หากเกิดว่าภาพถ่ายไม่ได้ต้องการที่จะสื่ออะไรแบบนั้นออกมาล่ะ

เสนารักษ์ จอห์น ‘ด๊อก’ แบรดลี่ย์,เรนนี่ แก็กนอน และ ไอรา ฮาเยส คือ 3 ใน 6 คนที่บอกว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในภาพถ่ายนั้น ส่วนอีก 3 คนที่เหลือเสียชีวิตในสงครามบนอีโวจิม่า พวกเขากลับบ้านเกิดสหรัฐดังฮีโร่ ได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม พวกเขาทั้ง 3 ได้ถูกเรียกว่า “วีรบุรุษ”

เรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเรื่องจริง บุคคลทั้ง 3 ที่ได้บอกเล่ากันไปในย่อหน้าข้างบนมีตัวตนจริงๆ ผู้กำกับชื่อก้องโลกนาม สตีเว่น สปีลเบิร์ก ได้นำเอาเรื่องราวของภาพถ่ายแห่งประวัติศาสตร์นี้มาถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์ม โดยตัวเขาเองได้ไปเรียกคุณปู่แห่งวงการฮอลลีวูดอย่าง คลิ้นต์ อีสต์วูด มาทำหน้าที่กำกับ โดยทั้งสองคนก็นั่งเก้าอี้อำนวยการสร้างไปในตัวด้วย หนังเรื่องที่ว่าคือ Flags of Our Fathers สมรภูมิศักดิ์ศรี ปฐพีวีรบุรุษ

เรื่องราวจะมีการเล่าย้อนความตามมุมมองของ เจมส์ แบรดลี่ บุตรชายของ ด๊อก ผู้ซึ่งความชรากำลังจะพรากชีวิตของเขาแล้วในไม่ช้า ด๊อก ได้เล่าเรื่องราวให้กับลูกชายฟังถึงเหตุการณ์ที่เขาประสบพบเจอมาในสงครามกับเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องทหารของเขาทั้งหลาย ซึ่งตัว เจมส์ เอง ก็ดูเหมือนต้องการจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ออกมาเขาจึงตระเวนไปถามไถ่บุคคลที่ร่วมรบในสงครามที่อีโวจิม่าครั้งนั้นเพื่อจะได้ข้อมูลที่มากขึ้น

การเล่าเรื่องราวในตัวหนังหากจะบอกันตามตรง ผมไม่สามารถเขียนบรรยายออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้ เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก ตัวหนังมีการนำเสนอที่ข้ามเวลาไป ข้ามเวลามา มีทั้งปัจจุบัน อดีต และอดีตในอดีต อีกที จึงไม่สามารถเล่าเรื่องราวได้ดีนักหากจะเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือ จึงขอแนะนำให้ไปหามาดูเองดีกว่า

แต่ถ้าถามเรื่องฉากจำลองสงครามว่าดีไหม ขอบอกได้เลยว่าทำได้ยอดเยี่ยม ผมเคยยกให้มีหนังเรื่องเดียวที่ทำฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ดีที่สุดนั้นคือ Saving Private Ryan ฉากการขึ้นบกนอร์มังดี ต้อนเริ่มต้นเรื่อง มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ แต่สำหรับ Flags of Our Father ก็ทำได้ดีเช่นกันทั้งฉากสู้รบ การเล่าเรื่อง ทำให้มีความรู้สึกถึงสงครามจริงๆนั้นเป็นแบบไหน

หลังจากใช้เวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมงดูจนจบ ตัวหนังก็ยังให้แง่คิดเหมือนเดิม สงครามไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น วีรบุรุษสงครามไม่นานก็ถูกลืม ในหนังมีการชูประเด็นเรื่องนี้ที่ว่า แก็กนอน ได้รับการเชิดชูอย่างมากตอนที่กลับมาใหม่ๆดังวีรบุรุษ แต่เมื่อสงครามสงบลงเขาก็เหมือนเป็นคนปกติ ไม่ได้รับการเหลียวแลใดๆ หรือจะ ไอรา ซึ่งเขาเป็นคนชนเผ่าอินเดียนแดง ที่ได้ไปร่วมรบ แม้จะทำอะไรให้ประเทศชาติ แต่คำว่าเชื้อชาติของเขาก็ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดี

สงครามมีแต่การสูญเสีย คืออีกประเด็นที่หนังแสดงให้เห็น การเป็นวีรบุรุษของเหล่าชายชาติทหารที่ตายในสนามรบ สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้คนที่เฝ้ารอคอยให้เขาเหล่านั้นกลับบ้าน พ่อ แม่ พี่ น้อง คนรัก และครอบครัว ต่างรอคอย พวกเขาไม่ได้สนใจว่าลูกๆ หรือคนรักจะได้เป็นวีรบุรุษหรือไม่ พวกเขาสนใจเพียงอยากให้กลับมาอย่างปลอดภัย

Flags of Our Father เป็นหนังสงครามโลกอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดี สื่อความหมายของการตีความคิดคนได้ค่อนข้างชัดเจน ความรักกันของพี่น้องในกองทัพทหาร ผู้เขียนขอแนะนำให้หามาดูกันน่ะ