IMDB : tt4513678
คะแนน : 8
หนึ่งในความยากประการสำคัญในการทำหนังอย่าง ‘Ghostbuster’ คงหนีไม่พ้นชื่อเสียงและฐานแฟนคลับที่หนังได้สร้างมาต่อเนื่องเกือบ 4 ทศวรรษ และยิ่งมีภาพจำหลาย ๆ อย่างเช่นชุดปฏิบัติการของสมาชิกบริษัทกำจัดผี รถเอ็คโตวัน กับดักผี กระทั่งผีต่าง ๆ ที่ปรากฎในหนังภาคแรกโดยเฉพาะผีสไลม์และมาร์ชเมลโลแมน ที่เห็นปุ๊บจะต้องนึกถึงบริษัทกำจัดผีปั๊บ
แต่กระนั้นก็ไม่น่าเชื่อว่าเจสัน ไรต์แมนกลับสามารถผสมผสานระหว่างไอคอนจากหนังต้นฉบับให้มาอยู่ในธีมเรื่องที่เอาดราม่าครอบครัวที่เป็นลายเซ็นของเขาได้อย่างลงตัว โดยเราจะเห็นตัวละครที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัววิ่นแหว่งอย่างคัลลีที่มีปมทั้งสามีและพ่อแท้ ๆ ทิ้งไปจนเธอไม่อาจเข้าใจและเป็นห่วงฟีบีลูกสาวคลั่งวิทยาศาสตร์ของเธอที่เดินตามรอยคุณตาเป๊ะแทบทุกกระเบียดนิ้วเพราะกลัวจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ก็สามารถสานต่อเรื่องราวกับหนังต้นฉบับได้อย่างเนียนสนิทโดยไม่เสียความเป็นตัวเอง
และเมื่อเหตุการณ์พาตัวละครมาเจอกับปีศาจคู่ปรับเก่าของเหล่าบริษัทกำจัดผีภาคแรกและกลายเป็นการปลดล็อกความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ครบถ้วนทั้งความเป็นหนังไซไฟตลกและยังมีดราม่าครอบครัวที่เวิร์กมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้ ‘Ghostbuster Afterlife’ อยู่เหนือการเป็นเพียงหนังแฟนเซอร์วิสธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่ง
และถ้าหาก ‘Ghostbuster’ ฉบับปี 2016 เคยมีปัญหาเรื่องแฟน ๆ หนังต้นฉบับสาบส่งที่หนังพยายามจะใส่ความเป็นสาวห่ามแบบพอล ฟีกจนเกินงาม ในหนังเรื่องนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการรีบูตเครื่องให้คนที่รับมรดกต่อเป็นลูกหลานของสมาชิกเก่าได้อย่างชาญฉลาด โดยได้การตีความของแม็กเคนนา เกรซ นักแสดงดาวรุ่งจากหนัง ‘I,Tonya’ ก็ทำให้ตัวละครฟีบีเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนมองและบทก็ยังเก็บรายละเอียดมุกแนววิทยาศาสตร์เหมือนในหนังต้นฉบับมาให้เธอถ่ายทอดความเนิร์ดได้อย่างน่ารักน่าชังอีกด้วย
นอกจากนี้หนังยังได้นักแสดงเด็กอีกคนที่เปล่งประกายมาก ๆ คือ โลแกน คิม (Logan Kim) เจ้าหนูชาวเอเซียที่มารับบทเป็น พอดแคสต์ เด็กเนิร์ดที่ชอบทำพอดแคสต์ที่ขยันขโมยซีนจนดาราดังอย่าง ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด ถูกกลบรัศมีไปไม่น้อยเลยทีเดียว และหนังยังได้ เซเลสต์ โอ คอนเนอร์ (Celeste O’ Connor) สาวผิวสีคนสวยมารับบทลัคกี สาวสวยที่เทรเวอร์หมายปองได้อย่างมีเสน่ห์อีกด้วย
แต่ก็ใช่ว่าเจสัน ไรต์แมนจะทิ้งการบูชาครูหนังคุณพ่อตัวเองเสียทีเดียว ตรงกันข้ามเขากลับนำภาพจำและรวมถึงประวัติศาสตร์หลายอย่างที่เกี่ยวกับพ่อของเขามาแอบใส่ในหนังได้อย่างแนบเนียน โดยนอกจากรถเอ็กโตวัน อุปกรณ์จับผีหรือชุดบริษัทกำจัดผีอันเป็นไอคอนแล้ว ไรต์แมนยังแอบใส่โปรแกรมหนัง ‘Cannibal Girls’ หนังสยองขวัญปี 1973 ของคุณพ่อให้ปรากฎอยู่หน้าฉากหลังที่เป็นโรงหนังอีกด้วย
หรือกระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับตัวละครของ ฮาโรลด์ รามิส อย่างอีกอน สแปงเลอร์อย่างการนำเห็ดและราในโหลแก้วเป็นพรอปประกอบฉากก็ยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและเมื่อตัวอักษรบนหน้าจอขึ้น ‘For Harold’ ตอนท้ายมันก็เมกเซนส์และแสดงให้เห็นเลยว่าหัวใจของหนังเรื่องนี้ถูกมอบเป็นเกียรติให้แก่ฮาโรลด์ รามิสอีกหนึ่งนักแสดงและคนเขียนบท ‘Ghostbuster’ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
โดยสรุปแล้วคงต้องบอกว่าตลอดเวลา 124 นาทีของหนังผ่านไปอย่างรวดเร็วและแน่นอนว่าแฟน ๆ ของหนังต้นฉบับก็จะรักหนังฉบับนี้ไม่ต่างกัน ส่วนคอหนังรุ่นใหม่ก็ถือว่าได้รู้จักกับโลกของ ‘Ghostbuster’ ในแบบที่เป็นมิตรกับจริตการดูหนังในปัจจุบันได้อย่างดี