ค้นหาหนัง

Gladiator | นักรบผู้กล้า ผ่าแผ่นดินทรราช

Gladiator | นักรบผู้กล้า ผ่าแผ่นดินทรราช
เรื่องย่อ : Gladiator | นักรบผู้กล้า ผ่าแผ่นดินทรราช

ในปี 180 การตายของจักรพรรดิ Marcus Aurelius นำจักรวรรดิโรมันเข้าสู่ความสับสนอลหม่าน เมื่อรัชทายาท Commodus ขึ้นครองราชบัลลังก์และ เปลี่ยนนามใหม่เป็น Narcissus Maximus นายพลผู้ซื่อสัตย์ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถแห่งกองทัพโรมัน และยังเป็นที่ปรึกษาใหญ่แห่งจักรพรรดิต้องถูกปลดจากตำแหน่งและขายเป็นทาส เขาถูก Narcissus บังคับให้เป็นนักสู้สิงโต ต่อสู้กับความตายเพียงเพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้เข้าชม ความชำนาญในการสู้รบทำให้เขากลายเป็นนักสู้ที่มีชื่อ เสียงโด่งดัง Maximus มีจิตมุ่งมั่นต้องการล้างแค้น Narcissus ผู้ที่ช่วงชิงอิสรภาพและสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัวของเขา เขาเชื่อว่ากิตติศัพท์ชื่อเสียงและความสามารถของเขาสามารถชักจูงชาวเมืองโรมันให้ช่วยกันล้มล้างผู้นำที่กดขี่ข่มเหงพวกเขาได้ เมื่อนักสู้สิงโตลุกขึ้นท้าทาย Narcissus จึงนำเขาเข้าสู่สงครามการต่อสู้แห่งความตาย

IMDB : tt0172495

คะแนน : 10



สำหรับ Gladitor นั้น จะเหมาะกับคนที่ชอบหนัง Epic ย้อนยุคแบบยิ่งใหญ่อลังการ จัดเต็มทั้งคอสตูมและงานโปรดักชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อยากเห็นกรุงโรมหรือฉากโคลอสสเซียมถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ ประกอบกับฉากแอคชั่นสุดมันส์ และดราม่าสุดเข้มข้น ที่มีรางวัลน้อยใหญ่มาการันตีคุณภาพแล้ว นี่คือหนังสำหรับคนดูกลุ่มนี้อย่างแน่นอน แต่สำหรับคนที่อาจไม่ชอบความพีเรียดเพราะให้ความรู้สึกเหมือนดูลิเก กับละครฉากใหญ่ที่ว่าด้วยการล้างแค้นแล้ว อาจจะลองดูช่วงต้นก่อนก็ได้ว่ารู้สึกอย่างไร เพราะหากติดใจแล้วรับรองว่าดูยาวไปจนจบได้ไม่ยาก หากใครชอบหนังแอคชั่นย้อนยุคสไตล์ Troy, Ben Hur หรือซีรีส์อย่าง Spartacus แล้ว ยิ่งต้องดูเรื่องนี้แบบพลาดไม่ได้เลย 

สายหนังอิพิคย้อนยุค, สายหนังแอคชั่นย้อนยุค, สายหนังคลาสสิคยุค 90

หนังย้อนยุคโคตร Epic แห่งศตวรรษที่ 20 อันทรงคุณค่า และเป็นที่รักของใครหลายๆ คนมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งด้านรายได้ที่กวาดจากทั่วโลกไปถึง 465 ล้านเหรียญ และเข้าชิงรางวัลออสการ์เยอะเป็นประวัติการณ์ถึง 12 สาขา จนคว้ามาได้ถึง 5 สาขา รวมถึงรางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย และนอกจากนี้หนังก็ยังมีฉบับ Extended Edition ออกมาให้แฟนๆ หนังเรื่องได้เต็มอิ่มกันมากขึ้นกับรายละเอียดสุดเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งส่วนนึงที่ทำให้ตัวหนังสร้างความโดดเด่นเป็นอย่างมากในยุคนั้น ก็คือความอลังการงานสร้างในการเนรมิตฉากโคลอสเซียม สนามประลองนักสู้ Gladiator ได้ชวนอ้าปากค้าง เพราะมันทำออกมาได้ยิ่งใหญ่และดูสมจริงมากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่สร้างมาในยุคนั้นจริงๆ

การคืนชีพของกรุงโรมขึ้นมาใหม่นั้น ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความยิ่งใหญ่อลังการไปในฉากหลังของเรื่องราวเท่านั้น เพราะเมื่อใส่ฉากแอคชั่นต่างๆ ลงไปด้วย มันเลยเพิ่มความสมจริงให้รู้สึก โหด ดิบ มันส์ ชวนลุ้นได้ในแต่ละฉากที่ถูกดีไซน์ออกมาเป็นอย่างดี ทั้งฉากดวล 1-1 ทั้งฉากรถม้า หรือการใส่เสือเข้ามาในการต่อสู้ จนทำให้การฉากต่อสู้ค่อยๆ ยกระดับได้เดือดขึ้นไปถึงจุดพีคในช่วงท้าย พอไปประกอบกับดนตรีของ จอห์น วิลเลียมส์ ที่สร้างมนต์ขลังมาแล้วให้หนังหลายต่อหลายเรื่อง ก็ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ร่วมที่ทำเอาคนดูต้องลุ้นไปกับหนังจนแทบลืมหายใจ 

การเลือกนักแสดงมาเป็นอีกส่วนที่ช่วยผลักดันให้หนังมาได้ไกลมาก ทั้งตัว รัสเซล โครว์ เองที่ดึงพลังการแสดงออกมาเล่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพาร์ทแอคชั่น หรือดราม่า หรือรีดอารมณ์ออกมาได้อย่างเข้มข้นจนนำไปสู่ฉากสุดท้ายที่แสนทรงพลังและเป็นที่น่าจดจำอย่างยิ่ง จนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขานำชายมาได้อย่างไม่แปลกใจ ในส่วนดาราคนอื่นๆ เองก็เสริมพลังกันไม่แพ้กัน ทั้งวายร้ายที่คนดูเกลียดสุดๆ อย่าง วาคีน ฟินิกซ์ ก็ดูชั่วได้ใจคนดูมาก เชือดเฉือนกับตัวเอกได้อย่างสนุก และทำให้หลายๆ คนไม่ไว้ใจในอารมณ์ที่รุนแรงของเขา ส่งผลให้ดาราหลายๆ คนต่างก็ขึ้นมาแถวหน้าของฮอลลีวู้ดได้หลังจากหนังเรื่องนี้เลย ด้วยองค์ประกอบที่ดีงามทั้งหมดนี้ก็ไม่แปลกใจนัก หาก Gladiator ยังคงเป็นหนังที่ยังมีคนหยิบมาดูได้อย่างซ้ำๆ และสนุกไปกับมันได้ถึงทุกวันนี้ จนสามารถนับเป็นหนังคลาสสิคของยุค 90s ได้อีกเรื่องเลย