IMDB : tt0212985
คะแนน : 7
ภาคต่อที่กว่าจะสร้างออกมาได้ก็ทิ้งช่วงจากตอนก่อนถึง 10 ปี เรื่องราวต่อจากครั้งก่อน ที่ดร.เลคเตอร์ (Anthony Hopkins) แกหนีออกมาจากที่คุมขังได้ และหายตัวไป ส่วนแคลริซ สตาร์ลิ่ง (Julianne Moore เข้าสวมบทแทน Jodie ซึ่งบอกปัดไป) ก็พยายามตามรอยของเลคเตอร์ต่อไป และครั้งนี้ เธอจะได้พบเขาแน่นอนครับ เพราะเขาก็ติดตามเธออยู่เหมือนกัน…
ภาคนี้มันไม่เชิงเป็นหนังสืบสวนแล้วล่ะครับ มันเป็นหนังทริลเลอร์แบบศิลป์มากกว่า สังเกตดิครับ หนังทั้งเรื่องมันสวยงามสิ้นดี ดร.เลคเตอร์ก็เท่ห์ลืมโลกเลย แต่ตัวหนังกลับไม่เข้มข้นเท่าตอนที่แล้ว อันนี้ก็แล้วแต่ครับ ส่วนผม ผมว่าหนังมันก็ไม่เลว เพราะผมชอบดร. แกเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วน่ะครับ การได้ดูพี่แกแบบเต็มๆ มันจึงชอบใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ตัวหนังจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม
***** ต่อไปนี้จะเป็นการสปอยล์ บางอย่าง จากนิยายนะครับ *****
สำหรับ การที่ดร.เลคเตอร์แก ทำไมถึงชอบและสนใจแคลริซเหลือเกิน สาเหตุนั้นหนังไม่ได้ชี้แจงตรงๆ ครับ แต่ในนิยายได้บอกไว้ว่า ในอดีตนั้น เลคเตอร์มีน้องสาวครับ สมัยที่พวกเขายังเด็กๆ กันอยู่ เลคเตอร์เป็นลูกคนมีตระกูลด้วยนะครับ แต่บังเอิญประเทศที่เขาอยู่เกิดมีเรื่องขึ้นมา ครอบครัวของเขาเนื่องจากมีอำนาจก็เลยโดยกระทบไปเต็มๆ จึงทำให้เลคเตอร์กับน้องสาวของเขาต้องระเห็จออกมาจากบ้าน และเดินทางไปกับพวกผู้ลี้ภัย
แล้วทีนี้ระหว่างทาง พวกผู้ลี้ภัยหิว ไม่มีอะไรกิน พวกเขาเลยฆ่าน้องสาวของเลคเตอร์ แล้วเอาเนื้อของเธอมาแบ่งกันกิน (โหดมากครับ) ซึ่งเลคเตอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยก็ช็อคครับ และนั่นก็เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เลคเตอร์มีปมเกี่ยวกับการกินเนื้อคนในเวลา ต่อมา และน้องสาวของเลคเตอร์ก็มีบุคลิกคล้ายกับ แคลริซเหลือเกินครับ นี่จึงเป็นเหตุให้เลคเตอร์ สนใจแคลริซมากเป็นพิเศษ
*************************************
กลับ มาที่หนังนะครับ สาระไม่ค่อยมีอ้ะ นี่ว่ากันตามจริง แต่หนังเหมาะจะดูเพื่อความบันเทิง (แบบโรคจิตมากกว่า) ผมชอบน่ะครับ ใครชอบดร.เลคเตอร์ก็น่าจะโอเคกับหนังอยู่ เพราะ Hopkins แสดงได้ดีมากๆ อยู่แล้ว ส่วน Moore นั้นก็ถือว่าพอผ่านได้ครับ แต่ก็ยังไม่สามรถเทียบได้กับเจ๊ Jodie Foster ของผมอยู่ดี ส่วน Gary Oldman ที่มารับบทเป็นเมสัน เวอร์เจอร์ เหยื่อรายเดียวของดร.เลคเตอร์ที่รอดชีวิตมาได้ ก็เมคอัพซะจนจำหน้าไม่ได้ล่ะครับ แต่ถึงกระนั่นเขาก็ยังสามารถแสดไงด้อย่างน่าจดจำ และ Giancarlo Giannini ที่มารับบทเป็นสายสืบที่มาตามจับตัวดร.เลคเตอร์ ก็ทำหน้าทีไ่ด้ดีครับ ในขณะที่ Ray Liotta กับบทพอล เครนเลอร์ ก็มาเพื่อชั่วอย่างเดียวเลยครับ บทของพี่ท่านออกจะมีมิติเดียวมากเกินไปหน่อยน่ะ และอีกคนที่ยังตามมาเล่นหนังชุดนี้ก็คือ Frankie Faison ไงล่ะครับ เจ้าของบทบาร์นี่ย์ ผู้ดูแลสถาบันประสาทเป็นคนที่ดูแลเลคเตอร์มาด้วย
ตกลง ว่านี่ไม่เชิงเป็นหนังสืบสวนครับ มันเป็นหนังระทึกขวัญมากกว่า จะว่าไปอารมณ์มันก็ออกจะคล้ายพวกเจสันอะไรอยู่เหมือนกัน เพราะพี่เลคเตอร์แกก็เป็นประเภทฆ่าไม่ตายซะด้วย แล้วพี่เลคเตอร์แกก็ไล่ฆ่าคนโดยหน้าเปื้อนยิ้มไปเรื่อยๆ โรคจิตดีครับ แต่หนังทำได้ศิลป์ดีจริงๆ ส่วนฉากที่คงจะลืมไม่ได้ก็หนีไม่พ้นฉาก “สมอง” นั่นแหละครับ ถือว่าทำออกมาได้สยองจริงๆ
เหมาะสำหรับคนชอบดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ครับ