IMDB : tt0424136
คะแนน : 8
Hard Candy เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ สะท้อนภาพฆาตรกรโรคจิตที่ลวงเด็กสาวมาถ่ายภาพแล้วกระทำอนาจารไปจนถึงการฆาตรกรรม ซึ่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริงมากมาย ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความรุนแรงเรื่องเพศที่เกิดขึ้น จริง เป็นภาพสะท้อนการกระทำทารุณทางเพศ ต่อเด็กสาวที่เกิดขึ้นจริง อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงเพศชายที่แสดงอำนาจเหนือเพศหญิง หรือการที่เพศชายชอบออกคำสั่งและบังคับให้เพศหญิงกระทำในสิ่งต่างๆ
การแสดงความมีอำนาจของเพศชายเหนือกว่าเพศหญิงนั้น สะท้อนออกมาในโปสเตอร์ของภาพยนตร์ที่ให้เพศหญิงใส่เสื้อคลุมสีแดงภายใต้หมวกคลุมสีแดง อันเป็นลักษณะของนิทาน "หนูน้อยหมวกแดง" เลยเปรียบเทียบเพศชายนั้นเป็นหมาป่า เป็นผู้ล่า หมาป่าจะล่อลวงหนูน้อยหมวกแดง เป็นเหยื่อ ด้วยคำพูดและวิธีการต่าง ๆ เมื่อหนูน้อยหมวกหลงเชื่อตายใจ ก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของหมาป่าและกลายเป็นเหยื่อของหมาป่าโดยสิ้นเชิง
การใช้สัญลักษณ์ของการคุกคามทางเพศโดยอิงนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนี่ เองจึงกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์ ผู้กำกับได้ใช้สีแดงสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างดีงาม เช่นสีแดงหมายถึงประจำเดือนแรกเริ่มอันเป็นสัญลักษณ์ของเด็กสาว โดยการให้ ตัวละคร แฮลี่ สตาร์คอายุ 14 ปี ใส่ชุดสีแดงในต้นเรื่อง สีแดงของชุดมีหมวก ซึ่งตัวละครใส่เสื้อคลุมสีแดงและมีหมวกคลุมผมสีแดงนี้ในท้ายเรื่องอันเป็นสัญลักษณ์ของหมาป่าหรือผู้ล่าที่แต่งตัวด้วยชุดคลุมสีแดง ตามนิทานที่เราเคยได้อ่านกัน สีแดงที่อยู่ในบ้าน ที่เกิดเหตุอันเป็นสัญลักษณ์ของสีที่แสดงถึงความรุนแรง ความโหดร้าย ความโหดเหี้ยม รวมถึงอารมณ์ที่รุนแรงด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่แสดงถึงอำนาจการควบคุม และเป็นฝ่ายกระทำเพียงผู้เดียว ทั้งนี้ผู้ที่เป็นฝ่ายควบคุมมีการเตรียมตัวและเตรียมการมาอย่างดีมีการศึกษาสภาวะแวดล้อมของเหยื่อมาเป็นอย่างดี ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแม้จะมีช่องทางหลบหนีหรือมีช่องทางต่อสู้ได้บ้างแต่กลับไม่สามารถที่จะหลบหนีหรือสู้อะไรได้ การตอบโต้บางอย่างก็เป็นเพียงการยืดเวลาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผู้กำกับและคนเขียนบทวางประเด็นเรื่องนี้ได้เก่งมาก ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัดและเอาใจช่วยเหยื่อตลอดเวลา แต่พอดำเนินมาถึงท้ายเรื่องคนดูก็อาจเปลี่ยนใจที่อยากจะให้เหยื่อตายเร็ว ๆ ก็เป็นได้
แม้จะเป็นหนังแนวระทึกขวัญแต่ก็ไม่ได้แสดงภาพอันโหดร้ายทารุณมากนัก ภาพที่มีการกระทำต่อเหยื่อ ก็ได้ใช้มุมกล้องในการหลบมุมแต่ได้บทสนทนาอันเข้มข้นและมีนัยยะซับซ้อน ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัวหวาดระแวง และเอาใจช่วยเหลือตลอดเวลา ดังนั้นความรุนแรงที่อยู่ในภาพยนต์จึงมีบทบาทได้กว่าความรุณแรงที่อยู่ในห้วงอารมณ์ของคนดู เรียกได้ว่าเป็นหนังระทึกขวัญที่เน้นบทสนทนาเป็นหลักเพราะเนื้อเรื่องเกือบ 100% วนเวียนอยู่กับตัวละครเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น ดังนั้นบทสนทนาที่อยู่ในภาพยนตร์ทั้งเรื่อง จะเป็นตัวกำหนดความสนุกของหนังทั้งหมด
ในด้านการแสดงอันยอดเยี่ยมนั้นต้องขอยกให้กับตัวละครฝ่ายหญิง เอลเลน เพจ เธอถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกความแค้นความเจ็บปวดของหญิงสาวอายุ 14 ออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้หนังยังมีจุดเปลี่ยนของเรื่องและจุดจบของเรื่องที่น่าประทับใจ ที่ชอบมากจริงๆคือหนังไม่ได้เฉลยอะไรให้เราอย่างชัดแจ้ง เพียงรู้สาเหตุที่มาที่ไปของการกระทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้นเราจึงไม่อาจตัดสินได้เลยว่าผู้ล่าหรืออยู่ใครกันแน่ที่เราควรเอาใจช่วยมากกว่ากัน ซึ่งเข้าใจว่าทางผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการจะนำเสนอว่า ในโลกความเป็นจริงกับข่าวที่เคยเกิดขึ้น โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับการฆาตกรรมการคุมคามทางเพศนั้นเราอาจจะไม่มีทางล่วงรู้ถึงสาเหตุที่มาที่ไปของการเกิดคดีอย่างแท้จริงเลย ผู้เสพข่าวก็จะตัดสินความถูกผิด เพียงผิวเผิน จากการอ่านหรือติดตามข่าวสารเท่านั้น ซึ่งลึกๆแล้วเรื่องราวที่มาที่ไปรวมถึง สาเหตุและแรงจูงใจที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ นั้นเป็นอย่างไรกันแน่นั่นเอง
ด้วยความที่หนังทั้งเรื่องใช้ตัวผู้เล่นเพียงสองคนเป็นหลักเท่านั้น หากใครไม่ชอบหนังแนวจิตวิทยา ที่มีบทสนทนามาก เชื่อว่าน่าจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าหากใครชอบหนังที่มีบทและพฤติกรรมตัวละครที่มีความฉลาดผมว่าน่าจะชอบกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว
กล่าวโดยสรุป Hard Candy มีความโดดเด่นด้านการใช้สัญลักษณ์ที่สะท้อนถึง ผู้ล่ากับเหยื่อ ผู้กระทำกับผู้ถูกกระทำ เพศชายกับเพศหญิง หมาป่ากับหนูน้อยหมวกแดงได้อย่างชาญฉลาดและมีนัยยะสำคัญ