IMDB : tt4590256
คะแนน : 3
"Kiss me... Out of the bearded barley..." เพลงทวงทำนองเพลงดังของ 'Sixpence None the Richer' ดังคลอมาเบาๆ ให้หวนคิดถึงวันวานเมื่อสัก 20 ปีที่แล้ว เพราะนี่คือหนังที่รีเมคสร้างใหม่จากหนังโรแมนติกวัยรุ่นแห่งยุค ออกมาเป็น "He's All That" ฉบับสลับขั้วกันเบาๆ เปลี่ยนจากแปลงโฉมสาวเฉิ่มมาเป็นหนุ่มเนิร์ดแทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้น...จะน่าประทับใจหรือไม่ รีวิวนี้จะกลั่นออกมาจากใจคนดูเคยดูเวอร์ชั่นต้นฉบับทัน
ใช่แล้ว...เนื้อเรื่องและเนื้อหาของ He's All That แทบจะเหมือนกับ She's All That เกือบจะทุกอณูเลยก็ว่าได้ เพียงแค่สลับขั้วตัวละครเท่านั้นเอง เวอร์ชั่นนี้กลายเป็นสาวฮอตในสังคมมาเปลี่ยนแปลงหนุ่มต้านสังคมให้ขับเสน่ห์ออกมาทำให้โลกสั่นสะท้าน ลำดับเรื่องต่างๆ มาในทิศทางคล้ายกันหมด เพียงแค่ปรับรูปแบบให้เข้ากับยุคและสมัยมากขึ้นเท่านั้นเอง
คือถ้าจะบอกตามตรงก็คือ He's All That คือสูตรสำเร็จที่เฉิ่มๆ เชยๆ ทั้งหมดนั้นแหละ ไม่ได้มีความแปลกให้อะไรเลย มีประเด็นแสงสีในสังคมโซเชียลมีเดียที่เข้ามาเสริมเนื้อเรื่องหลักตามสมัยนิยมก็แค่เท่านั้น ทุกไดอะล็อกและโครงสร้างเรื่องไม่ได้ใหม่เลย อีกทั้งหนังยังสร้างออกมาดูเหมือนกับพวกหนังเกรดรองๆ ที่มีภาพสีสดๆ ทุนสร้างไม่เยอะเท่าไหร่ เอาไว้ออกฉายทางทีวีหรือสร้างออกมาเป็นหนังแผ่นประมาณนั้นเลย
แต่ภายใต้สูตรสำเร็จต่างๆ นั้นก็ทำให้ He's All That เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ไม่ได้รู้สึกน่าเบื่ออะไร ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ไปในทิศทางไหน คงต้องขอบคุณเสน่ห์ของนักแสดงของเรื่องที่ช่วยพยุงตัวหนังที่แทบจะไม่มีอะไรเลยเอาไว้ "แอดดิสัน เรย์" มีเสน่ห์บนจอมากๆ แม้ว่าบทที่เธอได้รับจะตื้นเขินไปเสียหมด แต่ก็ใช้เสน่ห์ของเธอมาขับเคลื่อนตัวละครให้ดูมีอะไรได้ดี
ขณะที่ "แทนเนอร์ บูแคนัน" ก็ดูลึกลับมีเสน่ห์แบบแปลกๆ เช่นกัน คาแรกเตอร์ของเขามีแนวคิดที่แปลกแต่จริง มีความน่าค้นหา แต่ก็เช่นกันที่บทของเขาไม่ได้ลงรายละเอียดและสร้างมิติอะไรได้เท่าไหร่นัก และเมื่อคู่พระนางมาเข้าฉากด้วยกันก็เป็นแพคคู่ที่น่ามอง และส่งเสริมเสน่ห์ของหนังไปได้ดี
ส่วนที่น่าจะถูกใจและทำให้คอหนังที่เคยทันดูเวอร์ชั่นก่อนได้รู้สึกอิ่มเอมเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ จากหนังฉบับปี 1999 ที่นำมาใส่เอาไว้เป็นอีสเตอร์เอ้กให้ได้คิดถึงเบาๆ มีอยู่หลายจุดอยู่เหมือนกันนะ ต้องคอยสังเกตเอา แต่ที่ไม่ต้องสอดส่องเลยก็คือ "เรเชล ลีห์ คุก" กลับมาเป็น 'แอนนา ซอว์เยอร์' อีกครั้ง คราวนี้มาเป็นคุณแม่แล้ว ยังสวยหน้าเด็กเหมือนเดิม
และยังมี "แมทธิว ลิลลาร์ด" ที่คราวนี้กลับมาในตำแหน่ง 'ครูใหญ่' เลย อีกคนที่โผล่มาเซอร์ไพรส์เบาๆ นั่นก็คือ "ไมร่า มอลลอย" หรือ น้องไมร่า มณีภัสสร แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์คนแรกของไทย ที่ตอนนี้น้องโตเป็นสาวจำแทบไม่ได้ กระทั่งมาเห็นชื่อในเครดิต นี่คือหนังเรื่องแรกของน้องเลย และน้องกำลังบุกเบิกผลงานในฮอลลิวูดอยู่
He's All That เป็นผลงานการกำกับของ "มาร์ค วอเตอร์ส" ที่เห็นแล้วก็แอบเสียดาย เพราะรู้สึกว่าชิ้นงานของเขาฝีมือตกลงไปพอสมควร นี่คือผู้กำกับที่เคยทำหนังดังๆ มาหลายเรื่อง (เช่น Mean Girls, Freaky Friday หรือ Ghosts of Girlfriends Past) แต่ช่วงทศวรรษที่แล้ว เส้นทางอาชีพเป๋ไปจับได้แต่งานจอเล็กทั้งนั้น ทำให้หนังเรื่องนี้จึงออกมาดูเป็นหนังสเกลจอเล็กไปด้วยอย่างน่าเสียดาย
เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้ว He's All That ไม่ได้เป็นหนังที่ถึงกับย่ำแย่เลวร้ายใดๆ แต่ก็ยังไม่ใชหนังที่ดีสักเท่าไหร่ หนังเต็มไปด้วยช่องโหว่และจุดบกพร่องแบบเชยๆ อยู่เต็มไปหมด บางองค์ประกอบที่ใส่เข้ามาก็แอบคิดอยู่ในใจเหมือนกันว่า "ฮัลโหล...นี่ปี 2021 แล้วนะ" เพราะหนังยังยัดเยียดใส่ความเชยในรูปแบบหนังยุคปี 2000 เข้ามาอยู่ ที่ดูเหมือนเข้ากับสมัยเอาเสียเลย
เชื่อว่า He's All That อาจจะทำให้คอหนังยุค 90 ได้คิดถึงหนังต้นฉบับได้อยู่บ้าง แม้ว่านี่จะไม่ใช่หนังที่น่าประทับใจและจดจำอะไรสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่ด้วยความคลาสสิกของ She's All That ที่จะว่าไปก็เป็นต้นฉบับที่ไม่ได้เป็นหนังดีเลิศเลออะไรขนาดนั้นเลย แต่ถ้าต้องเอามาเปรียบเทียบกันแล้วละก็ แน่นอนว่าต้นฉบับ...ก็ยังไงเหนือชั้นและมีอะไรให้น่าจดจำเยอะกว่า มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว...