ค้นหาหนัง

John Wick: Chapter 3 - Parabellum จอห์นวิค แรงกว่านรก 3

John Wick: Chapter 3 - Parabellum จอห์นวิค แรงกว่านรก 3
เรื่องย่อ : John Wick: Chapter 3 - Parabellum จอห์นวิค แรงกว่านรก 3

มาถึงภาคที่ 3 แล้วของภาพยนตร์แฟรนไชส์แอ็คชั่นที่จะทำให้คุณหลั่งอะดรีนาลีน จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ถูกตั้งค่าหัวเป็นเงินถึงราคา 14 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเขาทำผิดกฏของ The Continental ด้วยการสังหารสมาชิกในสภาสุงขององค์กร และนั่นทำให้กองทัพนักฆ่าทั้งหลายต่างออกตามล่าเขา เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดให้ได้

IMDB : tt6146586

คะแนน : 5



สำหรับภาค 3 นี้ ได้รับชื่อภาคว่า Parabellum ซึ่งจริง ๆ มาจากประโยคลาตินสุดโด่งดังที่มีคำเต็ม ๆ ว่า Si vis pacem, para bellum หรือที่มีคนแปลไทยไว้อย่างเพราะพริ้งนานมาแล้วว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ โดยว่ากันว่ามันเป็นประโยคที่สืบเนื่องย้อนไปได้ยันสมัยโรมันนั่นเลยแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ความมีชื่อเสียงของมันนั้นก็ยังสืบทอดมาสู่ภาพลักษณ์ของกระสุนปืนที่แพร่หลายที่สุดในโลกตระกูลหนึ่ง หรือก็คือ กระสุน 9 มม. ที่มีฉายาเรียกท้ายว่า พาราเบลลั่ม เช่นเดียวกับชื่อภาค 3 ของหนังนั่นเอง

หนังเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่อง เมื่อ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ทำผิดกฎของวงการนักฆ่าที่ห้ามทำภารกิจใด ๆ (ห้ามฆ่าแกงกันนั่นล่ะ) ในเขตธรณีของพื้นที่เป็นกลาง โดยในเรื่องนั้นคือโรงแรมคอนติเนนทัลของสภาสูงเหล่านักฆ่านั่นเอง ซึ่งการแหกกฎของวิคเพื่อล้างแค้นครั้งนี้ ทำให้สหายเก่าผู้ดูแลโรงแรมอย่าง วินสตัน (ไอแอน แมคเชน) ต้องกลั้นใจส่งคำร้องให้อัปเปหิจอห์น วิค ออกจากวงการ พร้อมตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ ผลคือนอกจากจอห์นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากคนทั้งโลกนักฆ่าแล้ว เขายังถูกทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ทิ้งค่าหัวอันดับสองบนตารางกระจุย หนังเล่าเรื่องแบบไร้รอยต่อมาที่ภาคนี้ เมื่อจอห์นมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนคำสั่งอัปเปหิจะถูกประกาศ เขาจึงดิ้นรนสุดชีวิตในการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อที่จะยังมีคนได้จดจำเรื่องราวของคนรักของเขาต่อไป (โรแมนติกไปแล้วเฮีย) ซึ่งการดิ้นรนของจอห์นนี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ คือหนทางแห่งสันติที่เขาจะไม่ต้องฆ่าทุกคนที่จะมาฆ่าเขา นั่นคือการก่อสงครามเพื่อกรุยทางไปเจรจากับผู้ครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกนักฆ่าให้ยกเลิกคำสั่งอัปเปหิเขานั่นเอง

และบอกได้เลยว่าเส้นทางที่จอห์น วิค เลือกนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้แต่เป็นกองกะโหลกพะเนินเทินทึก ทั้งยังขยายจักรวาลนักฆ่าในเรื่องออกไปกว้างไกลมาก ทั้งพิธีในขนบนักฆ่าที่แปลกประหลาดที่มีมากกว่าตราโลหิตซึ่งถูกใช้ตั้งแต่ภาคที่ 2 เรื่อยมาถึงภาคนี้ ทั้งภูมิหลังที่ไม่คิดว่าจะได้รู้ของจอห์น วิค ซึ่งน่าแปลกใจทีเดียว กระบวนการยุติธรรมสุดแสนเลือดเย็นและเที่ยงธรรมของโลกนักฆ่าผ่านตัวละครใหม่อย่าง ตุลาการ (อาเชีย เคท ดิลเลี่ยน – นักแสดงสาวจาก Orange Is the New Black) ที่ทำเอาผู้ทรงอำนาจอย่างวินสตันกับ หัวหน้าแก๊งบาวเวรี่ (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) แทบปางตายได้ รวมถึงทีมนักฆ่าขั้นพระกาฬที่เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับจอห์น วิค แบบพลาดนิดเดียวก็เสียวตายได้จริง ๆ ซะที ยังรวมไปถึงโลกภายนอกนิวยอร์กที่เป็นฉากหลักของเรื่องมาตลอด 2 ภาค เราได้ไปไกลถึงแดนทะเลทรายและโรงแรมนักฆ่าที่นอกเหนือจากคอนติเนนทัลด้วย คือหนังขยายไปได้ไกลมาก และอาจเผยลาสต์บอสของแฟรนไชส์นี้ไว้ด้วย ต้องติดตามเลย

หลายครั้งทีมงานหนังแฟรนไชส์นี้ได้ใช้คำเรียกแนวศิลปะการต่อสู้ที่ผสมหลากหลายแนวเข้ากับการใช้อาวุธไม่ว่าจะมีดหรือปืน (หรือแม้แต่ ดินสอ หนังสือ) ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังจอห์น วิคนี้ว่า Gun Fu ซึ่งเป็นการเล่นคำ Gun ผสมกับ Kung Fu ซึ่งแม้จะไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแต่ก็ทำให้เห็นภาพแนวทางการออกแบบการต่อสู้อันโดดเด่นแพรวพราวของหนังได้อย่างดี (เหมือนตอนที่ทีมสตั๊นท์ไทยเคยผสมมวยไทยเข้ากับยิมนาสติก จนกลายเป็นงานเอกลักษณ์ระบือโลกในองก์บากมาแล้ว – งานแบบนี้ล่ะที่น่าจดจำ) มันจึงเป็นหนังที่เราต้องทำการศึกษาทั้งการออกแบบการเคลื่อนตัว แม่ไม้ท่าทางต่าง ๆ การออกแบบซีนให้ไหลลื่นต่อเนื่อง ตลอดจนการเคลื่อนกล้อง การสอดผสานของตัวละครหลักกับทีมสตั๊นท์แมน (และภาคนี้มีเหล่าน้องสัตว์มาร่วมแจมด้วยทั้ง ม้า ทั้งสุนัข โคตรโหดบอกเลย) มันเลยทำให้จอห์น วิค กลายเป็นงานหนังบู๊อ้างอิง เป็นต้นแบบเป็นครูให้หนังแอคชั่นรุ่นหลังได้ต่อยอดต่อไปแน่ ๆ

ส่วนของความเดือดนั้น ต้องบอกว่า ไม่หยุด ไม่ยั้ง บ้าพลังกันสุด ๆ ช่วงพักหายใจมีครับ แต่ช่วงไม่ให้หายใจนี่ ลืมตายกันเลยทีเดียว หนังเปิดมาเรียกว่าต่อเนื่องจากภาค 2 แทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน กล่าวคือดูสองภาคติดกันจะให้อารมณ์หนังเรื่องยาวระดับ 4-5 ชั่วโมงกันเลย และขนาดว่าดูแยกภาคเรายังเหนื่อยแทนนายวิคเลย ถ้าดูติดกันคงสัมผัสได้ถึงการหนีตายกายแทบขาดดิ้นของตัวละครกันเลยทีเดียว เพราะแต่ละภาคก็อัดฉากแอคชั่นทั้งมือต่อมืออาวุธต่ออาวุธแบบแน่นเอี้ยด ยิ่งภาค 3 นี่ขอบอกเลยว่าอะไรที่คิดว่าเยอะในภาคก่อน ๆ ภาคนี้อัดกระหน่ำมากกว่ายาวกว่ารัวกว่า มันคือความเดือดแบบไม่ยั้งที่จะบันเทิงเราไปแบบลืมเวลาเลยทีเดียว ที่สำคัญยกระดับด้วยมุกตลกร้ายที่ โหดก็ยังได้ ฮาก็ยังด้วย เป็นสูตรความสำเร็จที่ทำงานได้ดีมาก ๆ สนุก ๆ สุดเลย อ่อ และส่วนที่ดีงามมาตลอดและคงต้องขอกราบชาบูกันต่อ ๆ ไปคือการออกแบบแสงขั้วตัดในซีนและระหว่างซีนที่จัดเจนหนักหน่วงในเรื่อง Contrast Visual ซึ่งเป็นศาสตร์หนึ่งที่คนทำหนังฮอลลีวู้ดที่ได้รับความนิยมสูง ต้องศึกษาอย่างดี เพราะภาพที่ขัด-กระตุ้นการตื่นรู้ของดวงตาผู้ชมนั้นเป็นเคล็ดลับหนึ่งสำหรับหนังแนวนี้เลยทีเดียว และหนัง John Wick ก็เก่งเรื่องนี้แบบจดเลกเชอร์ได้ซีนต่อซีนเลยทีเดียว