ค้นหาหนัง

Just a Breath Away : หมอกมฤตยู

Just a Breath Away : หมอกมฤตยู
เรื่องย่อ : Just a Breath Away : หมอกมฤตยู

มันคือเรื่องราวของโลกที่ทุกอย่างดูเจริญไปมาก ขนาดที่พ่อแม่ที่มีลูกเป็นโรคเบอร์เกอร์ สัมผัสกับอากาศภายนอกไม่ได้ จนต้องอยู่แต่ในแคปซูลเพื่อควบคุมทุกสิ่ง แต่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพื่อให้มันทำงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อโลกพบเจอกับภัยพิบัติที่มาอย่างคาดไม่ถึง แผ่นดินไหวอย่างแรง ก่อนจะตามมาด้วยปริมาณหมอกอันมหาศาล ปกคลุมพื้นโลกสูงกว่าบางตึก และเมื่อไม่อาจหาแบตสำรองได้ ลูกของพวกเขาจึงสุ่มเสี่ยงจะไม่รอด เวลาเหลือน้อยเต็มที ภารกิจของสองพ่อแม่จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตลูกสาวให้รอดจากภัยหมอกมฤตยูนี้

IMDB : tt5092380

คะแนน : 5



เริ่มต้นมา ปล่อยให้คนดูได้ทำความรู้จักกับโลกของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวซึ่งมีลูกน้อยป่วยและต้องอยู่แต่ในแคปซูล แล้วหนังก็เข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว เกิดแผ่นดินไหว ก่อนจะตามด้วยหมอกหนาที่ปกคลุมหนา มันมิดชั้นสองที่พวกเขา Mathieu ​(Romain Duris) และ Anna (Olga Kurylenko) อาศัยอยู่อาศัยอยู่เรียบร้อย ต้องทิ้งลูกสาว Sarah (Fantine Harduin) ไว้ในแคปซูล แล้วหนีขึ้นมาชั้นบนสุดที่มีสองผัวเมียผู้แก่ชราพักอาศัยอยู่ ภัยหมอกหนาคร่าชีวิตคนไปมากมาย สภาพของโลกที่เหลือคือความวุ่นวายโกลาหล เพราะโลกในวันนั้น ไร้ทุกสิ่งที่จะพยุงระบบสังคมมนุษย์ที่มีมาทั้งหมด ไร้หมอ ไร้ตำรวจ พวกเขาจึงต้องหาทางเอาเองเพื่อช่วยเหลือซาราห์ให้รอดพ้นจากวิกฤตินี้

บทนั้นทำได้ดีในส่วนของการทิ้งข้อมูลเล็กๆ ไว้ระหว่างทางก่อนที่จะกลับมาเก็บงานในภายหลัง ขณะที่ CG ของหนังก็ทำได้ค่อนข้างแนบเนียนดี สิ่งที่หนังดูจะทำได้น้อยก็คือการบิลต์อารมณ์ เหมือนหนังตั้งใจให้เกิดความลุ้นในแต่ละภารกิจของตัวละครที่ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อช่วยชีวิตตัวเองและลูกสาว หนังทำได้ดีตรงที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังกลั้นหายใจตามไปด้วย เหมือนเราเองก็เจอกับหมอกภัยร้าย ต้องเอาตัวให้รอดไปพร้อมๆ กับตัวละคร จนอาจมีอึดอัดไปด้วยทุกครั้งที่ต้องไปอยู่สถานการณ์โดยไร้หน้ากาก แต่หลายครั้งก็เหมือนจะบิลต์ไปแล้วไม่สุดพอ ดนตรีประกอบช่วยไว้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็บทอีกนั่นแหละที่ชวนขัดใจในบางที

ตัวละครอาจจะพูดกันเกินจำเป็นในช่วงเวลาที่ไม่ควรจะต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว 

หนังพยายามจะสร้างดราม่าน้ำตาซึมให้บังเกิด แต่ก็ทำไม่สำเร็จในใจผม น้ำตาไม่ยอมเอ่อ แต่ระหว่างทางก็ค่อยๆ มีบางสิ่งชวนสงสัยโผล่เข้ามาได้เป็นระยะๆ ก่อนจะนำไปสู่บทสรุปนี่ชวนอึนๆ เหมือนหนังตั้งใจจะบอกอะไรบางอย่าง แต่เลือกจะบอกเพียงเบาๆ สุดท้ายให้ไปคิดกันเอาเอง ว่าหมอกนี่มันคืออะไรกันแน่…