IMDB : tt4649466
คะแนน : 7
ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ทั่วโลกไป 414 ล้าน จากทุนสร้าง 81 ล้านเหรียญ แน่นอนล่ะ ว่าเราต้องได้ดูภาคต่อกันแน่นอน เมื่อแรกทำกำไรได้ดี ภาคสองก็เลยได้อนุมัติทุนสร้างสูงขึ้นเป็น 104 ล้านเหรียญ และเพิ่มดาราเข้าไปอีกเพียบทั้งแชนนิง ทาทัม , ฮัลลี เบอร์รี , เจฟฟ์ บริดเจ็สและทารอน อีเกอร์ตัน , โคลิน เฟิร์ธ ,มาร์ค สตรองจากภาคแรก ถ้านับจูลีแอน มัวร์ อีกคน เรื่องนี้ก็รวมดาราออสการ์ไว้ถึง 4 คน
โดยรวมแล้วรู้สึกว่าหนังสนุกกว่าภาคแรก แม้ว่าภาคนี้จะยาวกว่าภาคแรกด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที แต่ก็เดินหน้าไปด้วยความเพลิดเพลิน มีมุกหยอดมาเรื่อย ๆ ไม่ถึงกับฮาแตกแต่ก็พอชวนยิ้มได้เรื่อย ๆ ฉากแอ็คชั่นเล็กใหญ่ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการเว้นช่วงกันนาน ดึงเสน่ห์ที่เป็นเอกลัษณ์ของหนังสายลับออกมาได้ครบ ทำให้เราสนุกไปกับโลกสายลับ ได้เห็นอุปกรณ์สายลับต่าง ๆ นานา ถูกนำมาใช้มากกว่าภาคแรก ได้เห็นรถที่แปลงร่างเป็นเรือได้ มีห้องบัญชาการลับ บรรดาตัวร้ายของเรื่องดูมีสีสัน ชาร์ลีมีแขนขวาเป็นหุ่นยนต์ที่มีพละกำลังสูง ป๊อปปี้มีองค์รักษ์เป็นหมาหุ่นยนต์ 2 ตัว เปรียบเสมือนบอสด่าน 1 ด่าน 2 ที่เอ็กซี่จะต้องกำจัดก่อนจะไปเจอตัวบอสอย่างป๊อปปี้
ด้วยเหตุที่ว่า Kingsman ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสัญชาติอังกฤษ ของค่ายไอคอนคอมิกส์ ค่ายย่อยของมาร์เวล ผลงานของมาร์ค มิลลาร์ ผู้ให้กำเนิด Kick-Ass และ Wanted มาแล้ว เพราะว่ามาจากการ์ตูน เรื่องราวของคิงส์แมนจึงไม่ได้เข้มข้นจริงจังแบบ เจมส์ บอนด์ หรือ เจสัน บอร์น แต่จะมีสีสันสดใสมากกว่าและมีความเป็นเวอร์วังสูง แต่ในความที่เป็นการ์ตูนภาพของหนังก็โหดอยู่พอควรนะ จ่อยิงแสกหน้า จับเหยื่อใส่เครื่องบดเนื้อ หั่นศัตรูตัวขาดสองท่อน ไรแบบนี้ แม้ภาพจะรุนแรงแต่เราก็ไม่เห็นเลือดสักหยดเดียวเลยไม่ได้รู้สึกสยดสยองชวนแหวะไปกับภาพที่เห็น ด้วยความที่มีพื้นฐานมาจากการ์ตูนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือเราได้หลุดโลกไปกับจินตนาการของผู้เขียน ไม่ต้องอยู่ในกรอบของความจริง ซึ่งหนังฮอลลีวู้ดนี่ก็เวอร์อยู่แล้วแต่นี่เวอร์ได้กว่าอีก แต่สิ่งที่ขาดไปก็คือหนังไม่มีด้านความเข้มข้นจริงจัง ออกมาเป็นสายลับที่เนื้อหาค่อนข้างราบรื่น แต่ละอุปสรรคถูกแก้อย่างง่ายดาย ตัวร้ายนี่กระจอกมาก คิงส์แมนเดินเท้ากันไปยังมาได้ถึงหน้าประตูบ้านเลย บอดี้การ์ดมีไม่ถึง 10 คนด้วยมั้ง เลยทำให้รู้สึกขัดกับสถานะเจ้าแม่ค้ายาเสพติดอันดับ 1 ของโลก