Land

ผลงานการกำกับเรื่องแรกของโรบิน ไรท์ เรื่อง “Land” ที่จะฉายในสุดสัปดาห์นี้ที่งาน Sundance Film Festival เป็นละครที่สร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความโดดเดี่ยวหลายรูปแบบ อีดี (ไรท์) รู้สึกโดดเดี่ยวจากโศกนาฏกรรมที่น่าสยดสยองและความเศร้าโศกที่ทำให้เธอฆ่าตัวตาย ราวกับว่าเธอกำลังพยายามสะท้อนความรู้สึกโดดเดี่ยวภายในจิตใจ เธอก็แยกตัวออกจากร่างกายด้วย ไปที่กระท่อมห่างไกลและพยายามใช้ชีวิตนอกแผ่นดิน ภาพยนตร์ของไรท์เป็นการศึกษาตัวละครเกี่ยวกับคนสองคนที่เจ็บปวดอย่างสุดซึ้งซึ่งพบจุดมุ่งหมายในกันและกัน แม้ว่าภูมิประเทศที่กว้างใหญ่รอบตัวพวกเขาดูเหมือนจะระลึกถึงความไม่สำคัญของคนคนหนึ่งที่ขัดกับความงามของธรรมชาติ "ที่ดิน" แสดงให้เห็นว่าความโดดเดี่ยวไม่ใช่คำตอบและความเชื่อมโยงคือสิ่งที่สำคัญ เป็นงานที่ชาญฉลาดและเคลื่อนไหวได้ โดยถูกขัดขวางเล็กน้อยจากการกระทำขั้นสุดท้ายที่เร่งรีบซึ่งรู้สึกว่าค่อนข้างจะบงการแต่แสดงอย่างมั่นใจตลอด

ไรท์ทำหน้าที่ตัวละครอย่างมากในครึ่งชั่วโมงแรกของภาพยนตร์โดยแทบไม่มีบทพูดเลย การเปิดฉากอันยาวนานพบว่าอีดีกำลังขับรถไปที่กระท่อมห่างไกลบนภูเขา เมื่อเธอบอกชายที่นำทางเธอไปที่นั่นให้มารับรถเช่าเมื่อทำได้ เขาแนะนำว่าปลอดภัยกว่าที่จะขึ้นรถที่นี่ อีดีไม่สนใจเรื่องความปลอดภัย ยังขาดการเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่กำลังจะเผชิญหน้าอีดีซึ่งเกือบจะเอนเอียงไปสู่เหตุการณ์ย้อนหลังที่บ่งบอกถึงลักษณะการฆ่าตัวตายของเธอหลังจากโศกนาฏกรรมที่ไม่เปิดเผย ราวกับว่า Edee สบายดีเมื่อโลกเรียกเธอกลับคืนมา เธอไม่รู้ว่าจะล่าหรือดักอย่างไร เธอมีเสบียงไม่เพียงพอ ฤดูหนาวกำลังมา. ถ้าเธอตายที่นี่ ก็ช่างมันเถอะ มันเกือบจะเหมือนกับการมองดูใครบางคนค่อยๆ จมดิ่งลงสู่มหาสมุทรหลายร้อยไมล์

นักเขียน Jesse Chatham และ Erin Dignam ระงับรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ผลักดันให้ Edee ไปยังสถานที่ที่เกือบจะรู้สึกเหมือนถูกสร้างโดยธรรมชาติเพื่อฆ่าเธอ นอกเหนือจากเหตุการณ์ย้อนหลังสั้นๆ ถึงพี่สาวชื่อ Emma (Kim Dickens) ที่ขอร้องให้ Edee ไม่ฆ่าตัวตายและเหลือบมอง ผู้ชายและเด็กผู้ชายที่เห็นได้ชัดว่าเป็นครอบครัวที่หายไปของอีดี แก่นแท้ของเรื่อง “Land” เป็นเรื่องราวของความเศร้าโศกที่คาดไม่ถึง ความเจ็บปวดที่พลิกโฉมภูมิทัศน์ ลองนึกภาพสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคุณจนโลกรอบตัวคุณดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทำไมไม่เปลี่ยนการตั้งค่าของคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะย้ายจากเมืองชิคาโกไปยังเทือกเขาร็อกกีล่ะ ในฐานะนักแสดง ไรท์สร้างความประทับใจให้อีดีอย่างชาญฉลาดด้วยสิ่งที่เกือบจะรู้สึกเหมือนเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องในฉากแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่มืดมนและมืดมนจนเราเริ่มรู้สึกถึงความเศร้าที่ไม่หยุดยั้งของอีดีกับเธอ

จากนั้น “แลนด์” เปลี่ยนเกียร์โดยแนะนำนักล่าชื่อมิเกล (เดเมียน บิเชอร์) และพยาบาลชื่ออลาวา (ซาร่าห์ ดอว์น เพลดจ์) มิเกลไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตอีดีเท่านั้น แต่มิเกลกลายเป็นพันธมิตรที่ไม่คาดคิดและแม้แต่ครูด้วย เขาสัญญาว่าจะไม่บอกอีดีเรื่องโลกภายนอก รักษาความโดดเดี่ยวของเธอ และเขาไม่พูดอะไรมาก เขาจะมอบเครื่องมือในการเอาชีวิตรอดให้เธอและจากนั้นก็หายไป และเขามีบาดแผลและความเศร้าโศกของตัวเองในการออกทริปล่าสัตว์

ในฐานะผู้กำกับ ไรท์และผู้กำกับภาพ บ็อบบี้ บูโควสกี (“99 Homes”) ได้สร้างสมดุลที่ดีระหว่างภาพถ่ายที่เป็นเนื้อเพลงของฉากหลังที่สวยงามและโคลสอัพที่เผยให้เห็นความบอบช้ำของตัวละคร เป็นภาพยนตร์ที่สวยงามที่ไม่เคยสูญเสียความรู้สึกอันตราย มีฉากหนึ่งในหนังที่อีดียืนอยู่ใกล้ขอบหน้าผา และฉันก็เชื่อว่าเธอกำลังจะตกลงไป "ที่ดิน" มีความสมดุลระหว่างความงามของโลกนี้กับความจริงที่ว่าความงามนั้นซ่อนหลายแง่มุมที่สามารถฆ่าคุณได้ตั้งแต่หมีที่กำลังมองหาอาหารไปจนถึงพายุหิมะฤดูหนาวที่โหดร้ายจนถึงหน้าผา แอนน์ แมคคาเบ้ & มิคเคล อี.จี. การแก้ไขของ Nielsen สมควรได้รับการยกย่องในการหาสมดุลนี้ด้วย