Legend of the Demon Cat | ตำนานอสูรล่าวิญญาณ
เล่าเรื่องราวของประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง เรื่องราวเริ่มต้นเมือเกิดเหตุการณ์ประหลาดจากการอาละวาดของแมวปีศาจ กวีหนุ่ม ไป่เล่อเทียน และพระหนุ่มชาวญี่ปุ่นนาม กุไก ก็ได้รับมอบหมายจากทางการให้เป็นผู้ทำหน้าที่สืบสวนคดีฆาตกรรมของ พระสนมหยาง ที่แมวปีศาจบังเอิญทิ้งเบาะแสเอาไว้ และนำไปสู่ความลับอันน่าสะพรึงกลัวที่ถูกกลบฝังเอาไว้เป็นเวลายาวนาน
IMDB : tt6157626
คะแนน : 10
หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายที่เขียนโดยชาวญี่ปุ่นซึ่งจับเอาประเด็นที่เป็นเงื่อนงำทางประวัติศาสตร์เกี่ยวเนื่องกับการตายของหยางกุ้ยเฟยที่ยังคงเป็นเรื่องให้ถกเถียงกันมายาวนานว่า ที่จริงแล้วนางถูกให้ใช้ผ้าแพรขาวรัดคอตายไปจริงๆตามที่ประวัติศาสตร์บันทึกหรือว่านางไม่ได้ตายจริงแต่หนีไปญี่ปุ่นกันแน่ (ในส่วนนี้สนุกค่ะเพราะจนถึงทุกวันนี้ยังมีบางกลุ่มสืบกันป็นเรื่องเป็นราวว่า ที่หลุมศพนางไม่เจอศพบ้าง พระเจ้าถังเสวียนจงไม่ยอมฆ่าจริงบ้างหรือแม้แต่นางหนีไปด้วยการช่วยเหลือของชาวญี่ปุ่นเพราะเมื่อไม่กี่ปีก่อนมีดาราชาวญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยว่าเป็นทายาทของหยางกุ้ยเฟย ใครชอบสืบสาวเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สามารถไปเจาะข้อมูลกันต่อได้เองนะคะ)
เรื่องนี้มีการนำ “ลำนำโศกนิรันดร์" (長恨歌) ซึ่งเป็นบทกวีที่โด่งดังมากของสมัยถัง แต่งโดยนักกวีชื่อก้องยุคถังนาม ไป่จวีอวี้ มาอ้างอิง โดยเนื้อหากวีกล่าวถึงเรื่องราวความรักความโศกของพระเจ้าถังเสวียนจงและพระสนมหยางกุ้ยเฟย ซึ่งชาวจีนหรือผู้ที่คุ้นเคยการดูหนังจีนจะรู้จักกันดี มาตีความความหมายของบทกลอนในมุมมองใหม่และใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินเรื่อง ผ่านตัวละครสองคนคือ ไป๋จวีอวี้ (หวงเซวียน) และ พระคุไค (Shota Sometani) ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ค้นหาเงื่อนงำการเสียชีวิตของหยางกุ้ยเฟย ( Sandrine Pinna หรือจางหรงหรง ) อีกที
กลับมาที่ตัวภาพยนตร์เอาเป็นว่าพอดูจบแล้ว อึ้ง อื้ออึงอยู่หลายวันทีเดียว คือติดตามผลงานของเฉินข่ายเกอมาตลอด หลงรัก เรื่อง Farewell to My concubine (หลายแผ่นดินแม้สิ้นใจก็ไม่ลืม ที่เลสลี่จาง กงลี่ และจางเฟิงอี้แสดงนำ) มาก ยกให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังอันดับหนึ่งในดวงใจ แบบที่ยังไม่มีเรื่องไหนมาสั่นคลอนได้ไม่ว่ากี่ปีก็ตาม เพราะฉะนั้นช่วงหลังๆ ก็เลยแอบผิดหวังกับหนังเรื่องต่อๆ มาของเฉินข่ายเกอเสมอ ก่อนเข้าโรงเลยแอบทำใจนิดนึงว่าอย่าไปคาดหวังอะไรมาก แต่หนังเรื่องนี้เกินคาดค่ะ เฉินข่ายเกอคืนฟอร์ม ตัวหนังโดดเด่นในแง่การเล่าเรื่องมาก มีชั้นเชิง เนื้อเรื่องสนุกชวนติดตาม มีปมชวนให้สงสัยได้ตลอดทั้งเรื่อง หนังไม่ได้เล่าแบบ 123 หรือ บอกอะไรตรงๆ ทุกอย่างในเรื่องเต็มไปด้วยสัญลักษณ์และการตีความ ใครที่ชอบดูหนังที่ต้องการการขบคิดนี่สะใจกันไปเลย
ส่วนเรื่องโปรดักชั่นนี่ เรื่องนี้อลังการเว่อร์วังแบบสุดๆ แต่ดูแล้วมันไม่ได้รู้สึกขัดตาแบบ the promise ที่ดูไปแล้วจะรู้สึกว่า เว่อร์ไรมากมาย แต่เรื่องนี้ มันเป็นความตั้งใจของผกก. ที่อยากจะถ่ายทอดความรุ่งเรืองของราชวงค์ถังอันยิ่งใหญ่ ในแบบภาพความฝันของเขา งานภาพที่นำเสนอออกมาจึงเหมือนเราดูงานศิลปะ ประเภท Comtemporary art เป็นภาพราชวงค์ถังในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ดูร่วมสมัยมาก คือมันดูไม่เป็นความจริงเป็นการตีความของเขาคนเดียวที่เขาเห็นราชวงค์ถังเป็นแบบนี้ และด้วยความที่เนื้อหาเป็นแฟนตาซีอยู่แล้ว พี่แกอยากจะสร้าง จะเสกอะไร ก้อเสกไปเหอะ เงินหนา (แต่เมืองที่เห็นในเรื่องผู้กำกับทุ่มเทมาก สร้างเมืองจำลองขึ้นมาเลย และใช้นักแสดงประกอบจริงเป็นพันคน เรียกได้ว่า ใช้ซีจีน้อยกว่าที่เรื่องอื่นๆ ที่มีสเกลระดับเดียวกันมาก)
โดยสรุปคือ สนุก แนะนำค่ะ สำหรับคนที่ชอบหนังแนว แฟนตาซี เรื่องลึกลับ สืบสวน