ค้นหาหนัง

Marie Antoinette

Marie Antoinette
เรื่องย่อ : Marie Antoinette

หนังเสนออีกมุมมองของพระนางอังตัวเนตโดยเริ่มต้นอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่การเป็นเจ้าหญิง(ดัชชเชสส์) ของออสเตรีย มาแต่งงานกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ด้วยเหตุผลทางการเมืองในอายุแค่ 15 ปี (ทรงถูกเรียกว่า หญิงออสเตรีย จากพวกราชสำนัก) เด็กอายุแค่นั้นเดินทางมาต่างแดนเพียงลำพัง เพียงแค่วันแรกเท่านั้น เจ้าหน้าที่่ก็จับสุนัขตัวเล็กๆที่เธอรักนักหนา และหอบหิ้วมาด้วยกันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี (พระองค์จะหาที่น่ารักกว่านี้ได้ถมไปในปารีส - เธอบอก) ตอนนั้นพระองค์ยังไม่รู้ว่าที่ที่นั้นยังจะโยนอะไรหลายๆอย่างของพระองค์ทิ้งไป เริ่มจากจิตใจรวมไปถึงชีวิตของพระองค์เอง เมื่อชนชั้นแรงงานและฝ่ายซ้ายปฎิวัติฝรั่งเศสจนได้เปลี่ยนการปกครองมาสู่ระบอบสาธารณรัฐ นักประวัติศาสตร์หลายๆคนล้วนต่างมองพระนางอังตัวเนตว่าเป็นหญิงใจแตก / ฟุ่มเฟือย / เหลวไหล / ไม่เอาใจใส่ประชาชน / ไปจนตั้งข้อหาถึงขั้นว่าเป็นต้นเหตุแห่งการล่มสลายของราชวงศ์ฝรั่งเศส สาวน้อยอายุแค่ 15 ปี ภายใต้สังคมที่หรูหราไฮโซ ไม่เพียงแต่ความเปลี่ยวเหงาที่พระองค์ต้องเจอจากพระสวามีที่ค่อนข้างเย็นชาในช่วงแรกๆ คนรอบข้างหลายๆคนล้วนนำพาพระองค์ไปในทิศทางที่ออกจะบิดเบี้ยว พระองค์ถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก และถึงแม้จะพยายามทำดีอย่างเต็มที่ก็อดจะรู้สึกเหงาและไม่รู้จะทำอย่างไรไม่ได้อยู่ดี เรื่องนี้มีบทที่ช่วยพูดแก้คำพูดแห่งประวัติศาสตร์ LET THEM EAT CAKE เป็นว่า พวกข้างนอกใจร้ายมากเลย มาใส่ความว่า ฉันพูดว่าประชาชนไม่มีขนมปังก็ไปกินขนมเค้กแทนสิ ฉันจะพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ฉันเสียใจจริงๆ

IMDB : tt0422720

คะแนน : 4



พระนางมารี อังตัวเน็ตต์ ถือเป็นตัวละครที่มีสีสันที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศส ราชินีผู้ฟุ่มเฟือยจนพาประเทศฝรั่งเศสสู่ความล่มจม พร้อมกับประโยคดังก้องโลกอย่าง “ถ้าราษฎรไม่มีขนมปังจะกิน ก็ให้พวกเขากินเค้กสิ”

ซิสเพิ่งมีโอกาสได้อ่านที่บอกเล่าข้อเท็จจริงการปฏิวัติฝรั่งเศสปี 1789 แล้วได้ไขความเข้าใจผิดหลายๆ เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ พระนางมารีไม่เคยพูดประโยคเค้กอันโด่งดัง รวมถึงได้รู้เรื่องราวมากขึ้น อย่างพระนางเป็นเจ้าหญิงแห่งออสเตรีย ประเทศศัตรูตลอดกาลของฝรั่งเศส และถูกจับแต่งงานกับ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 องค์รัชทายาทของฝรั่งเศสตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี

นั่นทำให้อยากรู้จักพระนางมารี อังตัวเน็ตต์มากขึ้น เจ้าหญิงวัยรุ่นที่ถูกเลี้ยงมาอย่างอิสระ ต้องกลายมาเป็นว่าที่ราชินีของประเทศศัตรู ทำไมพระนางถึงเพิกเฉยต้องความอดอยากของประชาชน จนต้องพบจุดจบบนเครื่องประหารกิโยติน

Marie Antoinette (2006) ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ ‘เจ้าหญิงมารี อังตัวเน็ตต์’ ตั้งแต่วันแรกในประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทฝรั่งเศส จนกลายเป็นราชินีที่ประชาชนและเหล่าขุนนางชิงชัง ไปจนถึงวันสุดท้ายที่ต้องบอกลาบัลลังก์

เรื่องนี้มีนักแสดงหน้าคุ้นหลายคนเลย ทั้งเจมี่ (Jamie Dornan) พระเอก Fifty Shades of Grey, พี่ทอม (Tom Hardy) หนุ่มบริติชที่ทำซิสใจละลายทุกเรื่อง, และ คริสเตน ดันสท์ (Kirsten Dunst) หรือ ‘แมรี่ เจน’ คนแรกของสไปเดอร์แมน ซึ่งคริสเตนในบทพระนางมารีทำให้เราอินจนน้ำตาคลอ ทั้งที่เป็นตัวร้ายในหน้าประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส แต่ก็ทำให้เราเห็นใจ

เรื่องราวในหนังค่อนข้างตรงกับหนังสือ The French Revolution การรู้ประวัติศาสตร์มาก่อนช่วยให้เข้าใจเหตุการณ์ในหนังขึ้นเยอะ โดยเฉพาะสาเหตุว่าทำไมถึงเกิดการปฏิวัติ เข้าใจความโกรธแค้นของราษฎรฝรั่งเศส ซึ่งถ้าดูแค่หนังเรื่องนี้ อาจจะไม่เข้าใจถึงความทุกข์ทนของประชาชนมากนัก เพราะตามหนังชื่อ Marie Antoinette ที่ถ่ายทอดแต่มุมมองของพระนางมารีที่ไม่เคยออกไปเห็นโลกแห่งความจริงนอกวังเลย

ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงเราจะเห็นแต่พระราชวังแวร์ซายที่ยิ่งใหญ่อลังการ งานเลี้ยงหรูหรา เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องเพชร มีอาหารสดใหม่อยู่ทุกที่ ชีวิตของเหล่าชนชั้นสูงที่เล่นวิ่งไล่จับกันในวัง เล่นพนัน ปาร์ตี้ยันเช้า ชีวิตหรูหราจนทำเอาเราเกือบลืมไปเลยว่า นี่เป็นยุคเดียวกันกับที่ประชาชนชาวฝรั่งเศสกำลังอดตาย ไม่มีแม้แต่ขนมปังจะกิน

ชอบการที่หนังใช้เพลงป็อปสมัยใหม่เป็นเพลงประกอบ ทีแรกก็แปลกใจ แต่ไปๆ มาๆ มันดูลงตัวดี สามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ในหนังซึ่งเกิดในช่วง 1770s – 1790s กับยุคปัจจุบัน ซึ่งทำให้เรามองเจ้าหญิงมารีในมุมของเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งมากขึ้น