Master Z: Ip Man Legacy : ยิปมัน: ตำนานมาสเตอร์ Z

หนังเล่าแบบไม่ต้องดูยิปมันทั้งสามภาคก็ดูรู้เรื่องได้ เพราะเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ พี่โป้ โยคีเพลย์บอย เอ้ยยย จงเทียนฉี แบบแยกออกมาจากเส้นเรื่องเดิม แต่ยังคงเคารพความเป็นเรื่องราวเดิมๆ ไว้ค่อนข้างเยอะ การดำเนินเรื่องที่ออกจะคล้ายกันมากเกินไปนิด เนื้อเรื่องที่ไม่ฉีกหนีของยิปมันสักเท่าไหร่ มันทำให้หนังไม่ได้มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเท่าที่ควร ซึ่งจุดนี้สำหรับผมมันซ้ำของเก่าจนเกินไปมาก แต่ข้อดีของหนังคือฉากต่อสู้ที่ดูจะแข็งแรงและดุดันมากกว่าการต่อสู้ในเวอร์ชั่นของยิปมัน ซึ่งเป็นการใช้พลังของคู่ต่อสู้ย้อนกลับไปทำร้ายคู่ต่อสู้เอง แต่ของ จงเทียนฉ๊ ในช่วงต้นที่หนังพยายามบอกว่า เขาหันหลังให้มวยหยุงชุน หนังก็ทำการต่อสู้ได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันเป็นอย่างมาก แล้วตบท้ายด้วยการกลับมาใช้มวยหย่งชุน อ่อนปะทะแข็งในการกำหราบคู่ต่อสู้คนสุดท้าย อีกอย่าง การสร้างตัวละครใหม่ๆ ขึ้นมาเยอะแยะมากมายของหนัง มันมีทั้งคุณและโทษในคราวเดียวกัน หนังได้นักแสองชั้นนำอย่าง มิเชลโหย่ว, เดฟ บาติสต้า, จาพนม มาร่วมแสดง ซึ่งด้านการต่อสู้ แต่ละฉากทำออกมาได้ดีมาก ดึงเอาความสามารถของแต่ละคนออกมาได้อย่างโดดเด่น แต่ทางด้านเรื่องราว มันดูสับสนวุ่นวายกันไปหมด แก๊งไหนต่อแก๊งไหน พัวพันอิรุงตุงนังกันจนปวดหัว ซึ่งตรงนี้ผมว่ายังไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ เสียดายนักแสดง หนังเหมือนพยายามจะเขียนเส้นเรื่องขึ้นมาใหม่ให้เป็นเรื่องราวของ จงเทียนฉี โดยตรง แต่หนังกลับสลัดภาพความเป็นเนื้อเรื่องเดิมออกไม่ได้ เรื่องราวของความอยากออกมาใช้ชีวิตเรียบง่าย เรื่องราวของเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เรื่องราวของแก๊งค์มาเฟีย เรื่องราวของสังคมฮ่องกงสมัยนั้น เรื่องราวของตำรวจฝรั่งกดขี้คนจีน และอีกหลายอย่างที่แทบจะไม่ได้แตกต่างจากเดิม เหมือนกับการเอาทุกเรื่องมาคลุกรวมกันแล้วเปลี่ยนตัวเอกแค่นั้น มันเลยทำให้ผมแค่รู้สึกว่า ถึงแม้หนังจะมันส์มากแค่ไหน แต่ถ้าเรื่องราวมันยังไม่ได้ฉีกจากเดิม ก็สู้เอา ดอนนี่ เยน กลับมาเล่นเป็ยิปมันภาคต่อดีกว่า ไม่จำเป็นต้องเอาพี่โป้ เอ้ยย จางจิ้น มาเล่นในบทใหม่ก็ได้ ซึ่งใจจริงผมชอบ จงเทียนฉี นะ แต่อยากให้เรื่องราวของเขาถูกเขียนขึ้นมาให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่านี้