ค้นหาหนัง

Munich

Munich
เรื่องย่อ : Munich

หลังจากการลอบสังหารนักกีฬาชาวอิสราเอลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่มิวนิกเมื่อปี 2515 ที่แบล็ค กันยายน นายกรัฐมนตรีโกลดา เมียร์ตกลงปฏิบัติการลับเพื่อตามล่าและสังหารทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทีมที่มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนรวมตัวกันในสวิตเซอร์แลนด์ นำโดย Avner ซึ่งเป็นช่างเทคนิคระดับล่างของ Mossad ซึ่งพ่อของเขาเป็นวีรบุรุษสงครามและภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ เป็นทีมที่ใช้ได้ แต่อาศัยผู้ให้ข้อมูลที่ได้รับค่าจ้าง พวกเขาติดตามและฆ่าหลายคนในยุโรปและเลบานอน พวกเขาต้องมองข้ามไหล่ของพวกเขาสำหรับ CIA, KGB, PLO และแหล่งข้อมูลของตนเอง เมื่อจำนวนร่างกายเพิ่มขึ้น - ด้วยผลกรรมตามหลังการแก้แค้น - คำถาม ความสงสัย และคืนนอนไม่หลับก็เช่นกัน ความภักดีเบลอ การเป็นชาวยิวหมายความว่าอย่างไร?

IMDB : tt0408306

คะแนน : 8



ขึ้นชื่อว่าหนังเกี่ยวกับการก่อการร้ายของตะวันตกก็น่าสนใจอยู่แล้ว และถูกนำมาตีแผ่สร้างเป็นหนังไม่รู้กี่เรื่อง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อิงจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มิวนิค นำมาสู่การแก้แค้นกันไปมาของสองประเทศ โต้กันไปมาเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น ดูจบแล้วก็หดหู่ครับ หนังให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ความโหดร้ายในหนังจากภาพคนสองเชื้อชาติไล่สังหารกัน ...ด้วยบรรยากาศของหนังที่ดูขมุกขมัว ไม่น่าไว้วางใจ หนังพยายามตั้งคำถามกับคนดูประมาณว่า การเข่นฆ่ากัน โต้กลับไปมาแบบนี้มันจะยุติได้จริงหรือ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่โตจนถึงที่ว่า มันจะไม่สิ้นสุดเพยงแค่เหตุการณ์ในหนังนี้

หนังมาในแนวจารกรรม ระทึกขวัญ ผสมกับดราม่า อีกหนึ่งหนังดีของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ผมมองข้ามไป เท่าที่สังเกตจากการตามงานของสปีลเบิร์ก คนที่ได้ชื่อว่า ‘พ่อมดแห่งฮอลลีวูด’ สปีลเบิร์กเป็นคนที่ทำฉากระทึกขวัญได้ลุ้นระทึกและน่าติดตามมาก ในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา สังเกตได้ว่ามันจะมีลูกล่อลูกชนให้คนดูระส่ำระส่ายก่อน เหมือนวางปูให้คนดูได้รับรู้ก่อนว่าตรงนี้มันจะมีอะไรยังไง อะไรจะเกิดขึ้น ก่อนที่จะใส่ความผิดพลาดแบบไม่ได้ตั้งใจเข้ามา ให้คนดูตื่นเต้นกันเล่นๆ

คนดูจะได้พบกับปฏิบัติสังหารเป้าหมาย ที่ทั้งทรหดและไม่น่าไว้วางใจ ภาพรุนแรงโหดร้าย รู้สึกเหมือนหนังเรื่องนี้จะถ่ายทำด้วยฟิล์มนะครับเพราะสังเกตภาพสั่นเครือนิดๆ มีเกรนหน่อยๆ ก็เข้าใจว่าเพื่อให้อารมณ์ที่สมจริง ...และหนังสปีลเบิร์กอีกหนึ่งเอกลักษณ์เลยคือ ในหนังจัดแสงได้ดีมากครับ ลองสังเกตดูกัน ...หนังอาจจะยาวถึง 160 นาที แต่คุ้มแน่นอนกับการชม เพราะมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ชวนลุ้นระทึกเรื่อยๆ บางช่วงพลังงานอาจดร็อปลง แต่ก็มีฉากเด็ดๆ ซีนที่ชวนลุ้นมาตลอด และช่วงท้ายๆ หลังจากจบภารกิจแล้ว หนังดูจะยืดยาดออกไปอีกสักนิด แต่ก็เชื่อได้เลยว่า คนดูจะได้เห็นสภาพจิตใจของคนที่รับหน้าที่ไปสังหารคนชาติอื่น ซึ่งมันให้ความหดหู่มากๆ เลยครับ

เฉกเช่นกับหนังก่อการร้ายที่สร้างมาจากเรื่องจริง อื่นๆ อีกมากมายครับ มันให้ความหดหู่ติดตัวไปกับคนดูแน่นอนหลังดูจบ และมิวนิค เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหนังดีของสปีลเบิร์ก มันได้ทั้งลุ้นระทึก ตื่นเต้น หรือแม้แต่แอคชั่นแบบจารกรรม และประเด็นในหนังที่กล่าวถึงทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งดีและฝั่งชาติผู้ก่อการร้าย ก็ดูน่าเศร้าและโหดร้าย ใช่ย่อย