ค้นหาหนัง

No Time to Die | 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

No Time to Die | 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ
เรื่องย่อ : No Time to Die | 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

เจมส์ บอนด์ ที่วางมือจากการเป็นนักสืบไปแล้วกำลังเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่อิตาลีกับ ดร. เมเดอลีน คนรักของเขา แต่ช่วงเวลาพักผ่อนนั้นก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพราะ เฟลิกซ์ เลเตอร์ เพื่อนเก่าจาก CIA มาขอให้เขาช่วยช่วยชีวิตนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไปทำอาวุธเชื้อโรคร้ายแรง เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปไปดูกันเลย.M.

IMDB : tt2382320

คะแนน : 8



No Time to Die เจมส์ บอนด์ ภาคที่ 25 บทสรุปสั่งลาของตำนานสายลับรหัส 007 ในแบบฉบับของ แดเนียล เคร็ก หลังจากรับบทนี้มาตลอด 15 ปี นับตั้งแต่ Casino Royale (2006), Quantum of Solace (2008), Skyfall (2012) และ Spectre (2015) 

จุดเริ่มต้นจักรวาล เจมส์ บอนด์ เป็นตัวละครจากปลายปากกาของนักเขียนชาวอังกฤษอย่าง เอียน เฟลมมิง ซึ่งปรากฏอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ และความทรงจำของผู้ชมมายาวนานถึง 59 ปีเต็ม ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เจมส์ บอนด์ คือตัวละครที่มีนักแสดงมากถึง 6 คน มาร่วมสร้างลมหายใจ และนิยามตัวละครนี้ใหม่ในแบบฉบับของตนเอง

เจมส์ บอนด์ เปิดตัวครั้งแรกในบทบาทการแสดงของ ฌอน คอนเนอรี (คนที่ 1) จากนั้นก็ได้เปลี่ยนตัวนักแสดง และได้ จอร์จ เลเซนบี (คนที่ 2) มารับช่วงต่อ ตามด้วย ฌอน คอนเนอรี กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานก็มีนักแสดงคนใหม่ชื่อว่า โรเจอร์ มัวร์ (คนที่ 3) มาสานต่อ แต่ก็ต้องมาเปลี่ยนตัวนักแสดงกันอีกครั้ง ซึ่งคนที่มาสวมบทบาทใหม่ก็คือ ทิโมธี ดาลตัน (คนที่ 4) ตามด้วย เพียร์ซ บรอสแนน (คนที่ 5)

จนมาถึงคนสุดท้ายซึ่งก็คือ แดเนียล เคร็ก (คนที่ 6) ที่กำลังจะปิดตำนานบทบาท เจมส์ บอนด์ พยัคฆ์ร้าย 007 ของเขาลงในภาคที่ 25 ซึ่งแม้ว่าในช่วงแรกที่เขาได้มารับบทบาทนี้ในภาคที่ 21 จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกไปในหลายรูปแบบ ทั้งกระแสไม่เห็นด้วยและทั้งคำชื่นชม แต่เมื่อเขาได้สวมบทบาท เจมส์ บอนด์ อยู่หลายขวบปี ตัวตนในแบบฉบับบอนด์ที่เขาสร้างขึ้นก็กลายเป็นหนึ่งภาพที่ทำให้แฟนหนังจดจำยอมรับ

และหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การบอกลาส่งท้ายของ แดเนียล เคร็ก ใน No Time to Die ช่างเหมาะสมแล้วกับการจะถูกบันทึกในฐานะตำนาน