ค้นหาหนัง

Ready Player One : เรดดี้ เพลเยอร์ วัน สงครามเกมคนอัจฉริยะ

Ready Player One : เรดดี้ เพลเยอร์ วัน สงครามเกมคนอัจฉริยะ
เรื่องย่อ : Ready Player One : เรดดี้ เพลเยอร์ วัน สงครามเกมคนอัจฉริยะ

ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการล่มสลาย แต่ผู้คนพบทางรอดชีวิตที่ดิ โอเอซิส ซึ่งเป็นจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ที่เราสามารถไปที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ เป็นใครก็ได้ ดิ โอเอซิสสร้างขึ้นโดย เจมส์ ฮัลลิเดย์ เมื่อฮัลลิเดย์เสียชีวิตลง เขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลและอำนาจในการควบคุมดิ โอเอซิสทั้งหมดให้กับคนแรกที่ได้กุญแจทั้ง 3 ดอก เพื่อเปิดประตูสู่ไข่อีสเตอร์ดิจิตอลที่เขาซ่อนไว้ในสถานที่ ความท้าทายของเขาทำให้เกิดเกมที่มีการแข่งขันขึ้นทั่วโลก แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปีกระดานคะแนนกลับยังว่างเปล่า จนกระทั่งฮีโร่หนุ่มม้ามืดอย่าง เวด ภายใต้ชื่ออวตารอย่าง พาร์ซิวัล เอาชนะการแข่งขันได้เป็นคนแรก เขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียง...และตกเป็นเป้าหมาย ผู้มีอำนาจที่โหดเหี้ยมอย่าง โนแลน ได้พิสูจน์ว่าเขาจะทำทุกทางเพื่อเอาชนะเวดและควบคุมดิ โอเอซิส จนการเดิมพันยิ่งใหญ่เกินจริง เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะได้เพียงลำพัง เวดต้องร่วมมือกับเพื่อนๆ ของเขาในนามเดอะ ไฮไฟว์ (เชอริแดน, โอลิเวีย คูก, ลีนา เวธ, ฟิลลิป เซา, วิน โมริซากิ) พวกเขาต้องร่วมมือกันในการล่าสมบัติผ่านโลกแห่งการค้นพบสุดมหัศจรรย์และอันตรายเพื่อปกป้องดิ โอเอซิส

IMDB : tt1677720

คะแนน : 6



ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รวบรวมเอาอายธรรม Pop Culture จากยุค 80-90 มาใส่ไว้ในเรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเห็นได้จากฉากต่างๆที่ปรากฎภายในเรื่อง ทั้งในอนิเมะ เกม หรือภาพยนตร์ เช่น  มอเตอร์ไซด์จากอนิเมะญี่ปุ่นเรื่อง Akira / หุ่นยนต์ยักษ์จาก The Iron Giant /  การไล่ล่าแบบภาพยนตร์เรื่อง Tron (1982) / ความแฟนตาซีแบบ  Lord of the Rings  / รถเก๋งย้อนเวลาจาก  Back to the Future หรือสุดยอดวายร้ายอย่าง เฟรดดี้ ครูเกอร์ จาก Nightmare on Elm Street เป็นต้น ซึ่งนี่ยังไม่รวมไปถึงรายชื่อเพลงแต่ละเพลงที่ผู้กำกับเลือกมาใส่ในแต่ละฉากที่มีเป็นสิบเพลงอีกด้วย

เต็มอิ่มกับ 140 นาทีของหนังที่จะพาเราไปผจญภัยและสร้างสรรสิ่งที่ทำให้เราคิดไม่ถึงอยู่ตลอดทาง และที่สุดของหนังนั้นหนังมีความเป็นเนิร์ดอย่างมาก และถึงแม้จะเนิร์ดมากเพียงใด หนังก็ได้นำเสนอแง่คิดดีๆได้จากหลายๆฉาก หลายๆตอน มันมีความกลมกล่อม มีพาร์ทสนุกสนาน มีพาร์ทผจญภัยให้คอยเอาใจช่วย มีพาร์ทซึ้งๆให้อิน มีพาร์ทหดหู มีปล่อยมุขให้ได้พักเบรกได้สนุกกัน มีฉากว้าวๆที่ทำให้เราได้ร้องอุทานออกมาดังๆ 555 และแน่นอน มีความทรงจำต่างๆจากสิ่งต่างๆที่เรียกว่า “Easter Egg” ที่ได้ใส่เข้ามาให้เราๆได้มีช่วงเวลาหวนลำลึกถึงบางสิ่งที่เคยอยู่กับเรามาตั้งแต่เด็กๆ (ถ้าเป็นคนยุค 80-90 จะยิ่งอินไปอีกระดับ)