ค้นหาหนัง

Romancing the Stone ล่ามรกตมหาภัย

Romancing the Stone ล่ามรกตมหาภัย
เรื่องย่อ : Romancing the Stone ล่ามรกตมหาภัย

Joan Wilder นักเขียนนวนิยายโรมานซ์เจ้าหนู ได้รับแผนที่ขุมทรัพย์ทางไปรษณีย์จากพี่เขยที่เพิ่งถูกฆ่าตาย ในขณะเดียวกัน เอเลน น้องสาวของเธอถูกลักพาตัวไปในโคลัมเบีย และอาชญากรสองคนที่รับผิดชอบเรียกร้องให้เธอเดินทางไปโคลอมเบียเพื่อแลกแผนที่ให้น้องสาวของเธอ โจนทำอย่างนั้น และหลงทางอย่างรวดเร็วในป่าหลังจากถูกโซโล ตำรวจโคลอมเบียผู้ชั่วร้ายและทุจริตซึ่งไม่ยอมหยุดเพื่อได้มาซึ่งแผนที่ ที่นั่น เธอได้พบกับแจ็ค โคลตัน ทหารแห่งโชคลาภผู้ไม่เคารพซึ่งยอมพาเธอกลับคืนสู่อารยธรรม พวกเขาร่วมกันเริ่มต้นการผจญภัยที่อาจส่งตรงจากนิยายของโจน

IMDB : tt0088011

คะแนน : 0



นี่คือหนังผจญภัยนี่แหละครับ คนคู่หนึ่งต้องเดินทางเข้าป่า ไปยังดินแดนกันดาร เจอผู้ร้าย ต้องเอาตัวรอดแล้วก็วิ่งคลุกโคลน ผลออกมาก็ถือว่าสนุกดีครับ ครบสูตรหนังผจญภัย แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือความโรแมนติก ที่แจ๊คกับโจแอนได้ปื๊งกันน่ะแหละ ซึ่งอารมณ์หนังมันไปกันได้นะครับ แล้วยังมีฮาอีกด้วย โดยเฉพาะบทราล์ฟของ Danny DeVito ที่เรียกเสียงฮาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ พี่แกทั้งบ้าทั้งต๊องได้ที่ดีจริงๆ

ผมว่ามันก็เข้าท่าดี หนังแนวนี้คู่รักคู่กัดแบบนี้มันน่าจะสนุกอยู่แล้วล่ะครับถ้าทำถึง และหนังก็ทำได้ด้วย อีกอย่างผมว่าความรักที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางเรื่องวุ่นวายนั้นมันเป็นอะไรที่ เพลิดเพลินไม่น้อย แม้ใน Speed พระเอกจะบอกว่ามันไม่ค่อยยั่งยืนก็เถอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามันรัญจวนอารมณ์ไปอีกแบบนึง แล้วพอดีที่ทั้ง Douglas และ Turner สามารถเข้าคู่กันได้ ความลื่นมันเลยปรื้ดๆ

จะว่าไปมัน ก็คล้ายๆ กับการรับน้องแบบว้ากอยู่เหมือนกัน (มันมาเกี่ยวกันได้ไงฟะ) นี่ในความคิดผมนะครับ ผมว่ามันก็มีส่วนเหมือนอยู่ ตรงที่ความรักความเข้าใจของคู่นี้มันดำเนินไปท่ามกลางเหตุการณ์บ้าบอสารพัด อาจจะเรื่องร้าย เรื่องดี เรื่องต้องตกจากที่สูงบ้างอะไรเงี้ย แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นชัดๆ มันคือ ทั้งคู่ได้แสดงความเป็นตัวเองออกมาเต็มๆ ครับ ซึ่งนี่แหละที่ผมว่ามันเหมือนการว้ากอยู่

นั่นคือ การว้ากนี่มันก็บีบเค้นความเป็นตัวตนของแต่ละคนออกมาได้เหมือนกัน (ไม่ทั้งหมดครับ แต่มันก็ต้องมีบ้างล่ะ) จากสถานการณ์กดดัน จากการได้ผ่านและฟันฝ่าอะไรมาด้วยกัน ก็ทำให้เกิดความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มันเกิดขึ้นตาม (สัมพันธ์กันเนื่องมาจากความคับขันและกดดัน) ซึ่งมันก็ได้ผลกับบางคนครับ ในการที่จะทำให้คนแน่นแฟ้น ได้รู้จักกันเร็วขึ้น (เป็นหลักสูตรสร้างความคุ้นเคยแบบเร่งรัดชนิดหนึ่งในความเห็นผมอ้ะนะคับ แต่ไม่อาจใช้ได้กับทุกคนหรอกนะ)

ส่วนเรื่องระบบว้ากดีไม่ดีผมก็ ไม่มีหน้าที่มาตัดสินครับ แล้วแต่ใครจะคิดแล้วกัน แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านระบบนี้มา ก็ยอมรับครับว่ามีไม่ชอบในหลายๆ อย่าง แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่ามันก็ได้อะไรมาไม่ใช่น้อย อย่างน้อยๆ ก็เพื่อนล่ะครับ จวบจนทุกวันนี้ผมกับพวกก็ยังมีเรื่องบ้าๆ สมัยรับน้องมาคุยกันอยู่บ่อยๆ ด้วยเรื่องเดิมๆ นี่แหละ แต่คุยทีไรมันก็จะเกิดความรู้สึกจี๊ดๆ บางประการขึ้นมาทันที

กลับมาเรื่องหนังนะครับ (ไปซะไกลเชียว แต่ผมนึกขึ้นมาได้พอดีครับเลยใส่ลงไปด้วย) นี่ก็เป็นผลงานกำกับของ Robert Zemeckis (แห่ง Back To The Future, Forrest Gump) ก็สนุกครับ ไม่ได้มีแค่ผจญภัยเท่านั้น ยังมีความฮาและความหวานใส่ลงมาด้วย ในปริมาณที่กำลังดีเลยล่ะ