ค้นหาหนัง

Runaway Jury วันพิพากษ์แค้น

Runaway Jury วันพิพากษ์แค้น
เรื่องย่อ : Runaway Jury วันพิพากษ์แค้น

ในนิวออร์ลีนส์มีการยิงเกิดขึ้นที่ บริษัท นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ในบรรดาคนตายคือยาโคบวู้ด มือปืนเป็นพ่อค้าที่ล้มเหลวซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีผู้เสียชีวิต 11 คนและบาดเจ็บอีกหลายรายในเหตุการณ์ อีกสองปีต่อมาทนายความ Wendell Rohr ซึ่งเป็นม่ายของจาค็อบ Celeste พา Vicksburg Firearms ขึ้นศาลเนื่องจากเหตุประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของ บริษัท ทำให้สามีของเธอเสียชีวิต ในระหว่างการคัดเลือกคณะลูกขุนที่ปรึกษาแรนคิ่นฟิทช์เรทติ้งและทีมงานของเขาได้สื่อสารข้อมูลพื้นฐานของคณะลูกขุนแต่ละคนผ่านการเฝ้าระวังทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำทนายฝ่ายจำเลย Durwood Cable ในห้องพิจารณาคดี ในสระว่ายน้ำของคณะลูกขุนนิโคลัส “นิค” อีสเตอร์พยายามที่จะขอตัวเองจากหน้าที่คณะลูกขุน ผู้พิพากษาเฟรดเดอริกฮาร์คินตัดสินใจที่จะให้บทเรียนแก่เขาในหน้าที่พลเมืองและฟิทช์บอกกับเคเบิลว่าผู้พิพากษาไม่ได้เลือกพวกเขาแล้วและเขาต้องเลือกนิคเป็นลูกขุน ลักษณะที่เป็นที่พอใจของนิคชนะเขาได้รับการยอมรับจากคณะลูกขุน แต่แฟรงค์ Herrera ทหารผ่านศึกทางทะเลใช้เวลาไม่ชอบเขาทันที

IMDB : tt0313542

คะแนน : 7



การต่อสู้ระหว่างโจทก์ (ภรรยาของสามีหนุ่มที่ถูกยิงตายโดยนักเล่นหุ้นมือใหม่ ซึ่งได้ซื้อปืนจากตลาดมืด) และจำเลย (บริษัทผลิตและจำหน่ายปืน) ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นงานหิน เนื่องจากไม่เคยมีคดีไหนที่บริษัทปืนเคยได้รับการตัดสินว่าผิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ขณะที่ฝ่ายจำเลยมีกลเม็ดหลัก (ที่มีบทบาทยิ่งกว่าทนาย) ที่ที่ปรึกษาลูกขุน (แรงกิน ฟิทช์ การแสดงที่ทรงพลังของ Gene Hackman) ฝ่ายโจทก์ก็มีทนายที่ขึ้นชื่อ นั่นก็คือ เวนเดลล์ โรห์ (ดัสติน ฮอฟฟ์แมน) ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายอธรรมกับธรรมะที่ชัดเจนสุดๆ แรงกิน ฟิทช์พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ และเงินที่เค้าได้รับจากบริษัทปืน ขณะที่ฝ่ายโรห์เอง กลับดู “คล้ายว่า” ทำให้กับความถูกต้องที่จะเกิดขึ้น (ไม่รู้ว่าบทเขียนไม่ดี หรือกำกับไม่ดี หรือการแสดงไม่ดี แต่สำหรับโรห์ ไม่ชัดเจนสำหรับเราค่ะว่า เขาทำเพื่อความถูกต้อง เพื่อครอบครัวที่สูญเสียครอบครัวนี้จริงๆ หรือ?)

ขณะเดียวกันตัวแปรที่สำคัญกลับกลายเป็นหนึ่งในบรรดาลูกขุน ที่ตอนแรกทำเสมือนว่า ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของลูกขุนเลย (แม้ในอเมริกาถือว่าเป็นหน้าที่ที่พลเมืองที่ดีต้องปฏิบัติ เมื่อมีหมายเรียก) นั่นก็คือ นิโคลัส อีสเตอร์ (ชื่อพระเอกตั้งได้เด็ดขาดมาก หุๆ) แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปสักพัก กลับกลายเป็นว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่เขาได้วางไว้เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของลูกขุนต่างหาก โดยหนังพยายามทำให้เราเชื่อว่าอีสเตอร์และมาร์ลีทำเช่นนี้ เพื่อที่จะทำการ “ขาย” ลูกขุนให้กับฝ่ายใดก็ได้ที่สามารถจ่ายเงินให้เขาได้ ก่อนที่จะหักตลบท้ายคนดูว่า จริงๆ แล้วสองคนนี้ทำเพื่ออะไร และเพื่อ ใคร

บทพูดอันมากมายอาจทำให้คนที่ชอบดูหนังตูมตามหลับได้หลังหนังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะเรานั่งดูดีวีดีเรื่องนี้ที่บ้านกับเพื่อนอีกคน ตอนแรกต้องเปลี่ยนจากเสียงภาษาอังกฤษเป็นไทยก่อน ตามคำเรียกร้องของคนไม่ถนัดอ่านซับฯ (เพราะขนาดคนอ่าน subtitle มืออาชีพอย่างเรา ยังอ่านแทบไม่ทันเลยน่ะ บทพูดเยอะมากจริงๆ) ไปๆ มาๆ เจ้าตัวที่ให้เปลี่ยนภาษาก็หลับไปเลย

เสร็จแล้วหลังจากหนังเริ่มเพิ่มความโหดเรื่อยๆ จากการทำทุกวิถีทางของนายฟิทช์ แล้วปมก็ค่อยๆ คลายเรื่อยๆ ทำให้หนังเข้มข้นมากขึ้นจนจบในที่สุด

อย่างไรก็ดีหนังยังขาดความน่าเชื่อถือในหลายๆ เรื่อง เช่น การโทร.แจ้งถล่มรังของนางเอก (เอ่อ..มันสืบทราบตอนไหน อย่างไรหรือ?) การไปตามทำร้ายนางเอก (หรือฆ่าแน่เนี่ย ทำไมใช้แค่มีดหละ?) ฯลฯ ซึ่งทำให้ความเข้มข้นของหนังเรื่องนี้ต้องลดลงไปอย่างน่าเสียดาย

สำหรับเราส่วนที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นการแสดงของ Gene Hackman ค่ะ แสดงได้ดีกว่าดัสตินซะอีก (สำหรับเราอะนะ) ทรงพลังมากๆ และฉายแววความชั่วร้ายออกมาได้อย่างน่าเชื่อจริงๆ ทำให้เรารู้สึกเลยว่า ผู้ชายคนนี้อันตรายและพร้อมที่จะทำได้ทุกอย่างจริงๆ สำหรับนักแสดงท่านอื่นๆ ก็ถือว่าในระดับมาตรฐานแหละค่ะ แต่แฮ็คแมนนี่ถือว่าโดดเด่นออกมามากๆ เลย

เป็นหนังอีกเรื่องที่น่าจะลองเช่ามาดูนะคะ สำหรับท่านใดที่ชอบภาพยนตร์แนวนี้ (แต่อย่างที่เตือนไว้ ถ้าใครไม่มีความอดทนสำหรับหนังที่มีบทพูดเยอะมากๆ แล้วอาจเบื่อได้ค่ะ)

คะแนนสำหรับหนังเรื่องนี้ (เป็นหนังเรื่องแรกที่จะให้คะแนนนะคะ และจะพยายามให้ต่อไปเรื่อยๆ โดยต้องขอบอกก่อนว่า วัดจากความรู้สึกตัวเองล้วนๆ เลยนะคะ) - ๗.๕ เต็มสิบค่ะ