IMDB : tt11245972
คะแนน : 6
เจ้าพ่อหนังสยองขวัญอย่าง ‘เวส คราเวน’ (Wes Craven) ภาคต่อนี้ เป็น ทีมงานใหม่ทั้งหมดอีกด้วยผู้กำกับทั้ง 4 ภาคจากไปแล้วเมื่อปี 2015 ในภาคนี้เลยได้คู่หูผู้กำกับ ‘แมตต์ เบ็ตติเนลลี-โอลพิน’ (Matt Bettinelli-Olpin และ ‘ไทเลอร์ กิลเลตต์’ (Tyler Gillett) ที่เคยกำกับ ‘Ready or Not’ (2019) มาร่วมงาน ส่วนคนเขียนบทหนังทั้ง 4 ภาค และเจ้าของคาแรกเตอร์ดั้งเดิมอย่าง ‘เควิน วิลเลียมสัน’ (Kevin Williamson) ก็ถอยมาเป็นที่ปรึกษางานสร้าง และแปะมือส่งให้ ‘เจมส์ แวนเดอร์บิลต์’ (James Vanderbilt) และ ‘กาย บูซิก’ (Guy Busick) ทีมผู้เขียนบทหนังจาก ‘Ready or Not’ มาเขียนบทให้เช่นเดียวกัน
เดิมที เวส คราเวน เจ้าพ่อหนังสยองขวัญอย่างนิ้วเขมือบและแดนสนธยา น่าจะตั้งใจทำหนังประชดประชันเสียดสีหนังสยองขวัญทุนต่ำสุดคลาสสิกทั้งหลายจนเกิดเป็น Scream ภาคแรกขึ้นในปี 1996 แต่ด้วยบทบาทอันคมคาย เนื้อเรื่องสนุก และจุดหักมุมเหนือความคาดหมาย ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในหนังสยองสุดคลาสสิกอีกเรื่องไม่แพ้บรรดารายชื่อหนังทั้งหลายที่ตัวละครในเรื่องนี้พูดถึง (เว้นเรื่อง สแตบ เป็นหนังสมมติที่ไม่มีอยู่จริง หนังเรื่องนี้มีอยู่แต่ในโลกของหนังเรื่องสครีมหรือหวีดสุดขีดนี้เท่านั้น) การเสียดสีหนังเรื่องอื่นๆ ของสครีม แม้จะเป็นหนังสยอง แต่ยังสร้างความรู้สึกตลกหรือตลกร้าย ได้ดีกว่าหนังที่จงใจเสียดสีหรือจงใจเอาหนังสยองมาเล่นตลกอย่าง Scary Movies เสียอีก
ใน ‘SCREAM’ ภาคที่ 5 นี้ ตัวหนังยังคงพาเรากลับไปสู่เมืองเล็ก ๆ แสนสงบสุขที่ชื่อว่าวูดส์โบโร (Woodsboro) ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยวัยรุ่นเจน Z แต่ไม่ว่าจะทันสมัยแค่ไหน ไอ้หน้าผีก็ยังกลับมาก่อเหตุอาละวาดอีกครั้ง หนึ่งในเหยื่อเคราะห์ร้ายก็คือ ‘ทารา’ (Jenna Ortega) น้องสาวของ ‘แซม’ (Mikey Madison) ที่หนีออกไปจากเมืองด้วยเหตุผลบางอย่าง จนเมื่อเธอกลับมา แก๊งเพื่อน ๆ ของทาราจึงเริ่มสงสัยกันเองว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร แซมเลยไปขอความช่วยเหลือจาก ‘ดิวอี ไรลีย์’ (David Arquette), ‘เกล เวเธอร์ส’ (Courteney Cox) และแม่บ้านเต็มเวลา อย่าง ‘ซิดนีย์ เพรสก็อต’ (Neve Campbell) เหล่าตัวพ่อตัวแม่ที่เคยกระชากหน้ากาก Ghostface มาแล้ว 4 ภาค เพื่อกลับมากระซวกไอ้หน้าผีอีกครั้งให้จงได้ ก่อนที่มันจะออกไปกระซวกชาวบ้านชาวเมืองไปมากกว่านี้