ค้นหาหนัง

Seoul Vibe | ซิ่งทะลุโซล

Seoul Vibe | ซิ่งทะลุโซล
เรื่องย่อ : Seoul Vibe | ซิ่งทะลุโซล

ในวันที่มีการจัดพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อนปีค.ศ. 1988 ประชาชนต่างก็มุ่งความสนใจไปกับการแข่งกีฬาโอลิมปิก จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับขบวนการลักลอบขนเงินอย่างผิดกฎหมายทำงานได้สะดวกขึ้น ในระหว่างนั้นอัยการอัน (โอจองเซ) ซึ่งกำลังสืบเรื่องคดีฟอกเงินผิดกฎหมายที่มีคนใหญ่คนโตระดับประเทศอยู่เบื้องหลัง ได้ยืนข้อเสนอให้กับกลุ่มนักซิ่ง "ซังกเยดงซูพรีมทีม" เพื่อตามล่ากลุ่มนักขนเงิน ทำให้พวกเขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแวดวงอาชญากรรม และต้องเผชิญกับเรื่องราวสุดระทึกที่ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้

IMDB : tt13611770

คะแนน : 0



ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนหนัง Fast & Furious ฉบับเกาหลี เพราะเนื้อเรื่องคล้ายกันคือ พระเอกเป็นพวกซิ่งรถ และมาทำงานให้ตำรวจ แต่ต่างกันตรงที่หนังเรื่องนี้มันไม่ได้เท่หรือบู๊แบบเดือดๆ เหมือน Fast แต่มันคือหนังฟามเวอร์ชั่นตลกโปกฮา แถมในหนังก็เป็นยุค 80 ทำให้รถที่ใช้นี่อย่างวินเทจเลย คือเป็นหนังที่เอาไว้ดูแก้เครียด เบาสมอง ในด้านของบทนั้น ส่วนตัวผมมองว่าทำได้ดีระดับนึงเลยนะ แม้ว่าหนังจะเน้นไปที่ความตลกและเฮฮา แต่ก็ยังมีบางช่วงที่แฝงอะไรบางอย่างไว้ ทั้งจุดยืนของอัยการฝั่งพระเอกที่แกดูขำๆ แต่ก็มีจุดยืนที่ชัดเจนมาก หรือตัวละครพระเอกที่แม้จะดูชิวๆ แต่ลึกๆ ก็ยังเป็นแค่วัยรุ่นที่คิดไม่ค่อยได้ ผมชอบฉากที่พระเอกคุยกับอัยการตอนช่วงท้ายมาก ที่พระเอกเลือกจะหนี เพราะทำไปก็เสี่ยงเปล่าๆ และเขาบอกว่าเขาสนแต่รถ ไม่ได้สนเรื่องการเมืองบ้าบออะไรหรอก คือซีนนี้เป็นซีนที่ดึงอารมณ์พอสมควร จากตลกมาทั้งเรื่องมาจริงจังเฉย ซึ่งผมก็มองว่ามันทำให้หนังครบรสดี

ส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพและโปรดักชั่น ส่วนนี้คือขอชื่นชมมากๆ โดยเฉพาะงานภาพ ผมชอบมากๆ ถ่ายทำดีมาก ภาพสวยทุกซีน ทุกฉาก โทนสีภาพก็ดี มุมกล้องต่างๆ ก็ถือว่าดีเลย แต่ขอติเรื่อง CGI หน่อยที่อาจจะมีลอยๆ ไปบ้าง ซึ่งน้อยมากๆ โดยรวมส่วนใหญ่คือดีหมด ส่วนการโปรดักชั่นก็จัดเต็มเช่นกัน ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เพลงประกอบก็พอ การตัดต่อก็อยู่ในเกณฑ์ดี ทุกอย่างทำได้ดีเกือบหมด นอกจากนี้ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ดี แม้จะมีซีจีลอยไปบ้าง แต่สำหรับหนังแนวแอ็คชั่นคอมเมดี้ทำได้ขนาดนี้นี่คือเยี่มมากๆ แล้ว สรุปโดยรวมคือ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่พอดูได้เพลินๆ ทำออกมาดีในหลายๆ ทาง มีแค่เรื่องบทและการดำเนินเรื่องที่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่สุด คือมันอยู่ในสเกลที่ธรรมดามาก ถ้าทำบทให้ไปสุดกว่านี้คงน่าจดจำน่าดู อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้ทุกคนลองไปดูด้วยตัวเอง อย่าเชื่อจากสิ่งที่ผมรีวิว เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน