IMDB : tt0184894
คะแนน : 8
หลังจาก Rush Hour ภาคแรกดังสนั่นโกยเป็นร้อยล้านแล้ว เฉินหลง ก็กลายเป็นที่ต้องการตัวของฮอลลีวู้ดในบัดดลครับ ทีนี้ก็มีงานสารพัดยื่นเข้ามา และนี่คืองานต่อจาก Rush Hour นั่น
เฮียเฉิน กับบท จางเหวิน องค์รักษ์จากเมืองจีนที่เดินทางมายังอเมริกาเพื่อช่วยเหลือองค์หญิงเพ่ยเพ่ย (Lucy Liu) ที่โดนหลู่ฟาง (Roger Yuan) จับมาเรียกค่าไถ่ และที่นี่เองเขาได้เจอกับรอย โอ แบนนอน (Owen Wilson) โจรปล้นรถไฟมาดดี (แต่มักจะทีเหลว) แล้วทั้งคู่ก็จับมือกันเพื่อช่วยเหลือองค์หญิงในเวลาต่อมาครับ
หนังเหมือนจะตามรอยความสำเร็จของ Rush Hour นะครับ แล้วดูเหมือนจะเป็นการแก้ตัวของ BuenaVista ด้วย เพราะแรกเริ่มเดิมทีนั้น บทหนัง Rush Hour ได้ถูกเสนอไปยัง Disney ก่อนเพื่อน แต่ที่นั่นดันปฏิเสธครับ แล้วยังบอกอีกว่าทุนสร้าง 30 ล้านของ RH นั้นเยอเกินไปสำหรับหนังที่แสดงนำโดยดาราฮ่องกงที่ชื่อเสียงยังไม่ดังขนาดนั้น แล้วเป็นไงครับ RH โกยไป 140 กว่าล้าน (เฉพาะในอเมริกา) ทาง BuenaVista (หรือก็คือ Disney นั่นเอง) ก็รีบตามมาขอคืนดีกับเฮียเฉินเราแทบไม่ทัน แล้วผลก็ออกมาเป็นหนังเรื่องนี้นั่นเอง
พูดถึงตัวหนังก็ทำออกมาได้ดีครับ น่าติดตามและสนุกสนาน แม้จะยังไม่ลื่นไหลเท่า RH นะ ทว่าหนังก็ดูสนุกดีครับ ไม่ผิดหวังหรอกครับ อีกอย่างหนังยังแทรกแง่คิดเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้อย่างดีทีเดียว โดยเฉพาะที่จางเหวินพูดว่า “แม้พระอาทิตย์จะขึ้นจากแผ่นดินที่เรามา แต่มันมาตกที่นี่” ก็แปลว่า ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในจีนอีกแล้วครับ เขามาอยู่ที่นี่ อเมริกาซึ่งมันเป็นอีกวัฒนธรรมที่เขาต้องยอมรับมันแล้ว แต่ผมก็คิดในอีกแง่จากคำพูดนี้นะครับว่า วัฒนธรรมแม้จะต่างกันแต่มันก็อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันอยู่ดีนั่นแหละ
พี่เฉินก็เล่นได้ฮาและได้แสดงความสามารถหลากหลายขึ้นกว่าใน Rush Hour ครับ อย่างฉากใช้เชือกผูกกับเกือกม้าเป็นอาวุธนั่นถือว่าโชว์ฟอร์มเลยครับ ราวไปถึงฉากบู๊ก็ออกจะจริงจังกว่าใน RH มากพอสมควร ตัวหนังจะว่าไปมันก็จริงจังด้วยนั่นแหละครับ มีความเป็นหนังคาวบอยตะวันตกอยู่ในที แต่เป็นไปในโทนฮาๆ มากกว่าจะเป็นหนังตะวันตกแบบเต็มตัว
หนังก็กัดเชิงคารวะหนังตะวันตกหลายเรื่องนะครับ เช่นชื่อจางเหวินนั่นก็เป็นคำแผลงมาจาก John Wayne หรือ ชื่อของเจ้าหน้าที่ตัวร้ายคู่แค้นของรอยที่ชื่อ เนธาน แวน คลีฟ (ที่ Xander Berkeley แสดง) ก็เอานามสกุลมาจาก Lee Van Cleef ดาราหนังคาวบอยเช่นกัน
Owen Wilson ก็กวนบาทาถึงใจครับ ฉากฮาเยอะพอตัว แม้พี่แกจะไม่บ้าเท่า Chris Tucker ก็ตาม (ซึ่งก็คงจะหาคนบ้าเท่าพี่แกได้ยากนะครับ 555) แต่ก็บ้าแบบต๊องๆ อย่างตอนที่เขาต้องดวลปืนกับเนธานแล้วในหัวก็คิดเรื่องบ้าๆ เป็นคุ้งเป็นแควนั่นก็บอกถึงความต๊องได้เยอะแล้วล่ะครับ
ส่วนดาราหญิงอย่าง Lucy Liu ก็ไม่ได้เด่นมากนัก แค่วางท่านิ่งๆ แต่คนที่ได้ใจและขโมยความเด่นกลับเป็น Brandon Merrill สาวอินเดียนแดงที่น่ารักโคตรๆ และยังแกร่งอีกด้วย ผมว่าเธอขโมยซีนได้ในหลายวาระทีเดียว แต่ก็แอบเสียดายครับที่เธอเล่นหนังเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว
สรุปว่าสนุกสนานไม่ผิดหวังครับผม ถือว่าเป็นงานกำกับที่เวิร์กที่สุดแล้วของ Tom Dey ส่วนดนตรีก็ดีเช่นเดียวกันครับฝีมือของ Randy Edelman เป็นท่วงทำนองที่ผสานตะวันตกเข้ากับตะวันตกได้อย่างน่าสนใจครับ