ค้นหาหนัง

Shrek | เชร็ค

Shrek | เชร็ค
เรื่องย่อ : Shrek | เชร็ค

เชร็ค ยักษ์สีเขียวตัวใหญ่ที่รักความสันโดษ เพราะรูปลักษณ์ของตัวเอง จึงคิดว่าทุกคนรอบข้างจะรังเกียจและเกรงกลัวเขา เขาจึงตัดสินใจไม่สุงสิงกับใคร แต่แล้ววันหนี่งโชคชะตาก็พาให้เขาออกผจญภัย ไปพร้อมกับ ดองกี้ เจ้าลาพูดมาก เพื่อไปทำการช่วยเหลือ เจ้าหญิงฟีโอน่า โอรสคนเดียวของเจ้าเมือง ที่ถูกขังอยู่บนปราสาทหอคอยสูง ซึ่งมีมังกรร้ายเฝ้าอยู่ที่นั่น เพื่อรอให้ผู้กล้าเข้ามาช่วย

IMDB : tt0126029

คะแนน : 8



อนิเมชั่นอีกเรื่องที่เหมือนจะทำมาให้เด็กดู แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่า เพราะหัวใจสำคัญของ Shrek ก็คือการจิกกัด เสียดสี ขยี้เรื่องราวให้เทพนิยายที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ให้กลายเป็นความบันเทิงเรียกเสียงหัวเราะออกมาได้มาก จากตัวละครและเรื่องราวที่เรารู้จัก อย่างเช่น พินิคคิโอ สโนไวท์ หนูน้อยหมวกแดง และอื่นๆ อีกมากมาย ก็เอามาสร้างความพลิกผันได้อย่างน่าสนใจ จนแทบไม่มีอะไรเหมือนอย่างเทพนิยายที่เรารู้จักกันอีกต่อไป แต่หนังก็มีเหตุผลของมัน ที่ทำหนังออกมาเช่นนี้ เพื่อเป็นการสร้างเสริมประเด็นของเรื่องให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ซึ่งประเด็นของเรื่องราวนี้ ก็คือในส่วนของการตัดสินคนจากแค่เพียงภายนอก โดยที่ไม่คิดจะทำความรู้จักพวกเขาเสียก่อน ไม่ต่างจากในเรื่องเทพนิยาย ที่มักมีตัวเอกที่หล่อ สวย จนสร้างค่านิยมบางอย่างไปแล้ว แต่ Shrek คือการเอาเรื่องราวพวกนี้มาร้อยเรียงใหม่ ทั้งในของการสร้างข้อคิดดีๆ และในอีกส่วนนึง ก็เอาไว้สร้างสรรค์มุขตลกออกมาได้อย่างโดดเด่น และเรียกเสียฮาได้สุดๆ นอกจากในเรื่องเทพนิยายแล้ว ตัวหนังก็ยังทำการล้อเลียนภาพยนตร์ หรือ Pop Culture ต่างๆ ได้อย่างสนุกจริงๆ (อย่างฉากที่ เจ้าหญิงฟีโอน่า ออกลีลาประหนึ่ง The Matrix ก็ชวนลั่นเหลือเกิน)

ด้วยทีมพากษ์ตัวละครหลักอย่าง Mike Myers, Eddie Murphy และ Cameron Diaz ที่เข้าขากันเป็นอย่างดี การยิงมุขต่างๆ จึงเข้าเป้าได้หลายดอก โดยเฉพาะกับ Eddie Murphy ที่เหมาะกับบทเจ้าลาพูดมากเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าการหยิบมาดูตอนนี้ อาจจะต้องยอมรับว่าภาพใน Shrek อาจจะสวยเท่าอนิเมชั่นยุคนี้ไม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้นที่อาจในภาพมาแบบทื่อๆ กว่า แต่ในแง่ความบันเทิงนั้นต้องยอมรับเลยว่าเป็นความแปลกใหม่อย่างยิ่งในวงการอนิเมชั่นที่สามารถทำหนังที่สามารถจิกกัด เทพนิยาย และล้อเลียนหนังเรื่องอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน โดยที่ไม่เสียโครงเรื่องตัวเอง แถมยังได้ข้อคิดจากประโยคโดนๆ กลับมามากมายด้วย จนหนังได้รางวัล Best Animated Feature จาก Oscar มาครอง รวมถึงยังได้เข้าชิงด้านบทด้วย