ค้นหาหนัง

Spider-Man | ไอ้แมงมุม ภาค 1

Spider-Man | ไอ้แมงมุม ภาค 1
เรื่องย่อ : Spider-Man | ไอ้แมงมุม ภาค 1

ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับป้าและลุง วันหนึ่งเขาได้ไปทัศนศึกษาที่ศูนย์วิจัยด้านพันธุศาสตร์กับโรงเรียน เขาโดนแมงมุมดัดแปลงพันธุกรรมที่หลุดออกมากัด เมื่อพิษเข้าสู่ร่างในเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพบกับเรื่องประหลาดของตัวเอง และเขาก็มีเหตุที่ต้องไปหยุดความคุ้มคลั่งของพ่อเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของบริษัทด้านวิทยาศาสตร์ เกิดอะไรขึ้น ไปรับชมเลย

IMDB : tt0145487

คะแนน : 8



Spider-Man หรือ ไอ้แมงมุม หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่แฟนๆ ของการ์ตูนตัวนี้รอมาแสนนาน และเชื่อว่าใครที่เป็นแฟนไอ้แมงมุมอยู่แล้ว จะต้องไม่ผิดหวัง เพราะหนังจับเสน่ห์ของการ์ตูนมาร์เมล คอมมิก ไว้ได้ครบถ้วน และคนที่ไม่ใช่แฟนตัวจริงก็สนุกกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ผมเคยอ่านบ้างตอนเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้ติดตามอะไรมากมาย เพราะชอบเรื่องราวแบบไอ้มดแดง หรือชอบตัวละครแบบวูล์ฟวารีนมากกว่า แต่ก็ดูแล้วสนุกดีครับ

หนังบอกเล่าเรื่องราวที่คล้ายๆ เทพนิยาย เล่าผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอก ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (โทบี้ แม็คไกวร์) เด็กหนุ่มกำพร้าที่อาศัยอยู่กับลุงและป้า ซึ่งก่อนจะได้พลังพิเศษแบบแมงมุมมา เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดา บ้าเรียน ขี้อาย ใส่แว่นตา เข้าสังคมไม่เก่ง และอยากเอาชนะใจสาวคนที่แอบรัก แมรี่ เจน (คริสเทน ดันสต์) ที่ทั้งสวย โด่งดัง และเนื้อหอม และเมื่อปีเตอร์ได้พลังพิเศษมา เขาก็ไม่ต่างจากคนธรรมดา ที่อาจคิดเพียงใช้มันไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

แต่ด้วยการอบรมสั่งสอนที่ดีของลุงและป้า ที่อยากให้เขาเป็นคนดี เหมือนที่ลุงเขาบอกว่า “With great power comes great responsibility.” และการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัว ซึ่งเขาน่าจะยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้นได้ เขาจึงเปลี่ยนนำมันไปใช้ต่อกรกับเหล่าร้าย และปราบอาชญากร

ที่บอกว่าคล้ายๆ เทพนิยายคือ นึกถึงเรื่องราวของหนุ่มผู้ต่ำต้อย ไปรักหญิงสูงศักดิ์ แล้ววันหนึ่งได้พรวิเศษ (ในที่นี้คือโดนแมงมุมอาบรังสีกัด) จนตัวเขามีพลังวิเศษ แล้วเอาชนะใจหญิงสาวได้ เนื้อเรื่องพื้นๆ แบบนี้ แต่เอามาปรับแต่งเป็นเทพนิยายยุคใหม่ ใส่รายละเอียดและมิติของตัวละครลงไปในบท ให้เป็นเรื่องราวการผจญภัยของไอ้แมงมุม

ด้วยเรื่องราวที่อาจไม่ซับซ้อนและ ‘ดูเหมือน‘ เป็นหนังตลาด แต่เพราะการเขียนบทที่ให้รายละเอียด และที่มาที่ไปของตัวละครได้ดี กอปรกับการแสดงที่ดูน่าเชื่อของนักแสดง ทำให้หนังเรื่องนี้มีมิติขึ้นมา ทั้งนี้อาจเพราะการกำกับด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่า หลังจากBatman ซึ่งกำกับโดย ทิม เบอร์ตัน เป็นต้นมา หนังซูเปอร์ฮีโร่หลายเรื่องที่สร้างตาม (แต่ไม่ทุกเรื่อง) มีการเลือกผู้กำกับหนังแนวจริงจังมากำกับ (เช่นให้อังลีกำกับ Hulk หรือให้ ไบรอัน ซิงเกอร์ กำกับ X-Men) แทนที่จะเลือกผู้กำกับหนังบู๊ตลาดทั่วไปมากำกับ เพราะรู้ว่าผู้กำกับเหล่านี้จะทำให้หนังดูน่าสนใจขึ้นได้