ค้นหาหนัง

Street Fighter: The Legend of Chun-Li

Street Fighter: The Legend of Chun-Li
เรื่องย่อ : Street Fighter: The Legend of Chun-Li

ท่ามกลางสังเวียนการต่อสู้หมัดมวยที่ไร้กติกา ชุนลี.(คริสติน ครู้ก).นักสู้หญิงฝีมืฉกาจ เดินทางมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อ จนเธอได้มาพบกับยอดปรมาจารย์กังฟู เก็น.(โรบิน ชู).ที่ ฝึกเธอเพื่อให้ก้าวไปอีกขั้นแห่งการเป็นยอดฝีมือที่ทุกคนต้องการครั่นคร้าม พร้อมเข้าร่วมกับนายตำรวจหนุ่มฝีมือเยี่ยมอย่าง ชาร์ลี แนช.(คริส ไคลน์).เพื่อยับนั้งการกระทำขององค์กรลึกลับที่ออกก่อเหตุอาชญากรรมสร้าง ความเดือดร้อนไปทั่วเมืองโดยมีผู้นำอำมหิตอย่าง ไบซัน.(นีล แมคโดโนห์).และ.เหล่าลูกสมุนอันร้ายกาจมากมาย ก่อนที่ทั่วทุกแห่งทุกหนจะกลายเป็นนรกแห่งความเดือดร้อน

IMDB : tt0891592

คะแนน : 4



ผมจำได้ว่าผมเคยเผา Street Fighter เวอร์ชั่นพี่ Jean-Claude Van Damme ซะจนแทบเป็นตอตะโกไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ใครจะนึกล่ะครับว่าประวัติศาสตร์มันจะกลับมาซ้ำรอยอีก…

ครับ แล้วเขาก็เอา Street Fighter มาทำใหม่อีกครั้ง งานนี้จับเอาเรื่องของชุนลีมาเป็นแกนครับ เล่าย้อนตำนานไปว่าชุนลี (Kristin Kreuk) นั้น ตอนเด้กอยู่กับพ่อ แล้วก็แฮ้ปปี้ดีจนกระทั่งวันหนึ่งมีคนมาจับพ่อของเธอไป ซึ่งเธอก็จำฝังใจเรื่อยมาจนโตน่ะครับ ทีนี้พอเธอโตเป็นสาวก็ได้เวลาสืบหาร่องรอยของพ่อ เพื่อทวงความเป็นธรรม อันนำเธอไปเผชิญหน้ากับวายร้ายอย่างไบซัน (หรือ เวก้าน่ะนะครับ รับบทโดย Neal McDonough) ที่มีแผนชั่วคิดครององค์กรอาชญากรรมที่ชื่อชาดาลู แล้วก็ยังมีแผนร้ายกับประเทศไทยอีก เธอเลยต้องลุยเดี่ยวจัดการโค่นอำนาจมืดของมันลงให้จงได้

อืมม์… จริงๆ โครงเรื่องมันเข้าท่านะครับ คือพล็อตน่ะแม้จะง่ายแต่ก็โอเค มีที่มาที่ไป อย่างชุนลีจะตามสืบเรื่องพ่อก็โอเคอ้ะ หรือเจ้าไบซันมันจะครองชาดาลูก็ยังจัดว่าโอเค แผนการครององค์กรกับแผนจะครองที่ดินในประเทศไทยก็นับว่าไม่เลวล่ะครับ ดูเป็นบทที่ง่ายแต่ก็ไม่เลอะเทอะ ผมยังคิดเลยว่าพล็อตแม้ว่ามันจะง่ายๆ แต่หากคุมให้อยู่ไม่เลื่อนเจื้อนไปไหน แล้วก็อัดคิวบู๊ลงไปให้สะใจ หนังก็น่าจะออกมาสนุกแบบดูได้เพลินๆ

… แต่ทว่า… ผมมี “แต่” แบบนี้ทีไรล่ะก็ มักจะมี Something Wrong เสมอล่ะนะครับ

เรื่องพล็อตเบาผมก็ทำใจล่วงหน้าแล้วล่ะครับ หนังจากเกมนี่เน้อะ (แต่จริงๆ ทำให้มันไม่เบาก็ได้นี่หน่า ไหงไม่ทำหว่า) เอาน่า อย่างน้อยก็ขอบู๊ให้มันสนุกสนานหน่อยแล้วกัน ปรากฏว่าไม่ค่อยเท่าไรครับ หนังเหมือนจะเน้นหนักไปที่การสืบหาปมของชุนลี ซึ่งการสืบหาปมก็ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด เพราะคนดูรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคนทำคือใคร ดังนั้นความน่าติดตามเรื่องปมก็ตัดไปครับ นอกจากนี้หนังก็เน้นหนักเรื่องดราม่าของชุนลีอีกนิด มีฉากนิ่งเศร้า แสดงอารมณ์ตามสมควร ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษอีกนั่นแหละ

ด้านการบู๊ ก็บู๊ไม่เยอะครับ จริงๆ ก็นึกๆ ว่ามันอาจจะน้อยแต่แน่นก็ได้ แต่ปรากฏว่าน้อยด้วย และไม่แน่นด้วย ไอ้ตอนซัดกับตัวลูกกระจ้อกจะไม่แน่นก็ไม่ว่าหรอกครับ แต่ตอนถล่มกับพวกจอมวายร้ายอย่าง เวก้า (หรือบัลร็อกในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นน่ะครับ พี่สวมหน้ากากน่ะครับ รับบทโดย Taboo) ก็ซัดกันยังไม่มันส์เลยครับ จบซะแล้ว ยิ่งตอนตีกับพี่ไบสันนี่ยิ่งจบง่ายใหญ่เลย ลูกเล่นแทบไม่มีครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมแอบมีความหวังเล็กๆ นะ เพราะตอนดูตัวอย่างเห็นมีฉากฝึกวิชายุทธ แล้วชุนลีก็ได้เรียนการปั้นพลังภายใน (คิโคเคน) จากอาจารย์เกน (Robin Shou) ด้วย ก็นึกๆ ว่ามันน่าจะมีการยิงพลังกันให้เป็นขวัญตาหน่อย และก็แอบหวังไปอีกว่างานนี้เราน่าจะได้เห็นพี่ไบซันแกใช้พลังออร่าแบบที่เราเห็นในเกม (คอเกม SF II ย่อมจำได้ครับ วิชาไซโคคลัชเชอร์ของแกนี่แหละน่ากลัวนักแล) ก็คิดเลยครับว่าตอนท้ายน่าจะมีการอัดพลังบู๊กันแบบเต็มเหนี่ยว… แต่ปรากฏว่า… ไม่มี

มันบู๊กันมือเปล่าเลยครับ ตอนท้ายขนาดบอสใหญ่ เจ้าบอสใหญ่อย่างไบซันก็ไม่ได้มีฤทธิ์เดชอะไรมาก ทั้งๆ ที่หนังได้มีการปูพื้นนะครับ ประมาณว่าไบซันได้ทำการทำลายจิตสำนึกตัวเอง เราก็นึกไปว่าการทำเช่นนั้นน่าจะทำให้แกมีพลังลึกลับอะไรทำนองนั้น แต่ที่ไหนได้… พิธีกรรมนั้นมีหน้าที่แค่ทำให้พี่แกเป็นคนชั่วโดยสิ้นเชิงเท่านั้นเองครับ… โธ่ พี่

ก็เสียดายหน่อยๆ ครับ เพราะไหนๆ ก็คิดจะปลุกชีพ Street Fighter แล้ว ก็น่าจะงัดเอาทีเด็ดทุกอย่างในเกมมาสานต่อ มาโชว์ให้คนดูตะลึงตา ให้แต่ละตัวละครงัดเอาท่าไม้ตายสมัยในเกมมาสร้างความมันส์ไปเลย ยิงพลัง ซัดกันอัดให้กระเด็น ชุนลียิงพลัง เตะรัวไป ไบซันก็ใช้ฝ่ามือออร่า ผสมไซโคคลัชเชอร์ ซัดกันให้กระหน่ำไปเลย ความน่าดูความสนุกจะได้พรั่งพรู แต่นี่ผลที่ได้กลับเป็นหนังแอ็กชันทั่วๆ ไป ที่มีตัวละครจากเกม Street Fighter มาร่วมแสดงเท่านั้นเอง

หน้าที่กำกับเป็นของ Andrzej Bartkowiak ซึ่งจะว่าไปงานชิ้นนี้ของพี่ท่านก็ออกแนวเดิมๆ เหมือนหนังที่เขาเคยทำมาน่ะครับ อย่าง Romeo Must Die, Exit Wounds และ Cradle 2 the Grave และไปๆ มาๆ ผมว่าเรื่อง Doom ที่พี่แกดัดแปลงจากเกมเหมือนกันและกำกับเหมือนกันยังโอเคกว่าตั้งพะเรอแน่ะครับ

อ้อ เกือบลืม หนังยังมีพล็อตรองอีกอัน นั่นคือหน่วยตำรวจสากลที่รับภารกิจมาตามสืบองค์กรชาดาลู นำโดย ชาร์ลี แนช (Chris Klein) กับ มายา (Moon Bloodgood) ซึ่งพล็อตส่วนนี้ก็เล่าแบบอย่างนั้นๆ น่ะครับ ไม่ได้เร้าใจอะไรเท่าไรเลย

ด้านดารานั้น จริงๆ ก็คัดมาได้ไม่เลวนะ อย่าง Kreuk น่ะผมก็ชอบมาตั้งแต่ Smallville แล้วครับ แต่ถ้าถามผมนะ ผมว่าถ้าเอาดาราที่มีเชื้อจีนๆ โดยตรงเลยน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่เป็นไรครับ Kreuk ก็เล่นได้ไม่เลว เหมือนเป็นลาน่า แลง เวอร์ชั่นบู๊หนักต่อยเตะเยอะ ส่วน McDonough ก็ไม่เลวกับบทร้ายอย่างไบซันนะครับ ขานี้เล่นบทผู้มีอิทธิพลขึ้น อย่างใน Walking Tall ก็ทีหนึ่งแล้ว ใช้ได้ๆ และ Shou อดีตพระเอก Mortal Kombat ทั้งสองภาค มาเป็น ปรมาจารย์เก็น ขานี้ก็ดูดีเหมาะกับบทอาจารย์ครับ จริงๆ เรื่องนักแสดงนี่ผมว่าผ่านนะ แต่มาอ่อนตรงบทกับบู๊นี่แหละ เสียดายแทนครับ

หนังมีการทิ้งเชื้อภาคต่อไว้ด้วย แต่ดูจากรายได้ที่วืดจนน่ากลัวก็คิดว่าโอกาสภาคต่อน่าจะปิดลงแล้วล่ะครับ ทุนสร้าง $50 ล้านครับ ได้คืนมาประมาณ $12 ล้านเท่านั้น จากทั่วโลกเลยนะครับ ต้องรอตอนออกแผ่นเอาถึงจะคืนทุนบ้าง หรือถ้าจะมีต่ออีกก็คงเป็นหนังแผ่นแล้วล่ะครับ

สรุปนะครับ ไม่ดูก็ไม่เสียดาย หรือถ้าจะดูก็อย่าคาดหวังครับ จะได้ไม่ช้ำใจจนเกินไป