IMDB : tt0365830
คะแนน : 10
Tenacious D in The Pick of Destiny เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เจบี (ทรอย เจนไทล์) วัย 10 ขวบ โชว์ลีลาร็อคให้ครอบครัวหัวโบราณเคร่งศาสนาฟัง ในเพลง 'Kickapoo' ที่เขาแต่งขึ้นด้วยเนื้อเพลงที่อาจโดนใจใครหลายคน พ่อของเจบี (มีท โลฟ) เชื่อว่าดนตรีร็อคคือผลงานของปีศาจ และปลดเข็มขัดออกมาฟาดเขาไม่ยั้ง ซ้ำยังฉีกโปสเตอร์ร็อคของเขาจนขาดกระจุย เจบีวิงวอนขอคำแนะนำจาก ไดโอ (รอนนี่ เจมส์ ไดโอ) ราชาเพลงร็อคพลังเสียงสนั่นโลก ซึ่งไดโอแนะนำว่าเขาเดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องทิ้งครอบครัวน่าอึดอัด แล้วเดินทางไปยังฮอลลีวู้ด เพื่อตามหาความลับแห่งร็อคในตัวเขา
หลังจากหนีออกจากบ้าน เจบีก็ใช้เวลาหลายปี เดินทางไปยังเมืองหลายเมืองที่ชื่อฮอลลีวู้ด ในที่สุด เจบี (แจ๊ค แบล๊ค) ก็มาถึงจุดหมายร็อคของเขา นั่นก็คือ ฮอลลีวู้ด แคลิฟอร์เนีย
ขณะเดินเล่นที่ชายหาดเวนิซ เจบีได้พบกับ เคจี (ไคล์ แกส) และสะดุดฝีมือการเล่นกีต้าร์เพลง Bourrrees in E Minor ของเขาเข้าอย่างจัง และแม้จะขอร่วมวงกับเคจีแล้วถูกปฏิเสธ แต่เขาก็ยังยืนร้องคลอตามจังหวะกีต้าร์ของเคจี สำหรับเจบี นี่คือความลงตัว แต่สำหรับเคจี เจ้าอ้วนอ่อนหัดคนนี้ กำลังทำลายบรรยากาศร็อค และไล่คนดูของเขา เมื่อ ลี (เจอาร์ รี้ด) พนักงานส่งพิซซ่าหน้าเอ๋อ เข้าใจผิดว่าพวกเขาคือศิลปินคู่ เคจีก็ทำท่าขยะแขยง
ขณะเดินกลับบ้านในคืนนั้น เคจีเห็นเจบีถูกกลุ่มพวกเลียนแบบหนังเรื่อง A Clockwork Orange รังแก เขาปรี่เข้าไปช่วย (หลังจากดูแล้วว่าไม่มีอันตราย) และพาเจบีไปที่บ้าน เจบีกระหายอยากเรียนวิชาร็อค และอยากเป็นส่วนหนึ่งของวง The Kyle Gass Project ของเคจี เขาจึงต้องผ่านบททดสอบ ที่ผู้มีประสบการณ์มากกว่าอย่างเคจีจัดขึ้น
กระทั่งวันหนึ่ง ความลับก็เปิดเผย เคจีไม่ใช่ร็อคเกอร์สุดเจ๋งอย่างที่โม้ไว้ เขาไม่มีวงของตัวเอง แถมยังเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ยังขอเงินแม่ใช้ แต่เมื่อหมอกควันผ่านพ้นไป มิตรภาพและวงร็อคสุดเจ๋งก็ถือกำเนิดขึ้น พ่อแม่ของเคจีตัดเบี้ยเลี้ยง เขาจึงไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง หรือแม้แต่ค่าอาหารการกิน ทั้งคู่เริ่มท้อแท้ ความหวังเดียวพอมองเห็น คือการประกวดชิงเงินรางวัลงาน Open Mic Night ที่ Al’s Bar
การแสดงครั้งแรกของพวกเขา ไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเท่าที่ควร พวกเขาจึงตัดสินใจว่า ถ้าอยากชนะการประกวด จะต้องแต่งเพลงชิ้นโบแดง และได้พบความจริงในเวลาต่อมาว่า สิ่งนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
และแล้วโชคชะตาก็เข้ามามีเอี่ยว เจบีและเคจีสังเกตว่า ร็อคเกอร์ชื่อดังแทบทุกคนบนปกนิตยสาร Rolling Stone ใช้ปิ๊กกีต้าร์อันเดียวกัน พวกเขาจึงปรี่ไปที่ศูนย์จำหน่ายอุปกรณ์กีต้าร์ เพื่อหาซื้อปิ๊กกีต้าร์แบบเดียวกัน เจ้าของร้านมีท่าทีประหลาดเมื่อทั้งคู่โชว์ปกหนังสือให้ดู
เจ้าของร้านอดีตมือกีต้าร์ พาพวกเขาไปยังห้องลับ และเล่าประวัติศาสตร์ร็อคให้เจบีและเคจีฟัง เรื่องราวนั้นเกี่ยวโยงถึงพ่อมด หมอผี มนตร์ดำ สาวพรหมจารี และซาตานเขี้ยวหัก จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องปิ๊กกีต้าร์วิเศษ อันเป็นความลับดำมืดของประวัติศาสตร์ร็อคให้ทั้งคู่ฟัง ตำนานนี้ย้อนกลับไปไกลถึงยุคมืด มันตกทอดผ่านเจ้าของหลายมือ ตั้งแต่โมสาร์ตถึงกลุ่มนักดนตรีพังค์, นิวเวฟ, เมทัล ในอังกฤษ ส่วนในอเมริกา มันมีส่วนในหน้าประวัติศาสตร์บลูส์และร็อคแอนด์โรล และตอนนี้มันถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ในพิพิธภัณฑ์ร็อคแอนด์โรล ซึ่งเป็นเหมือนป้อมปราการ ที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ...
ภาพยนตร์ดนตรีผจญภัยสุดหรรษา Tenacious D in The Pick of Destiny ติดตามเรื่องราวการผจญภัย เพื่อตามหาปิ๊กกีตาร์วิเศษของ เจบี ที่รับบทโดย แจ๊ค แบล๊ค (High Fidelity, Shallow Hal, The School of Rock, King Kong, Nacho Libre, The Holiday) และ เคจี ซึ่งรับบทโดย ไคล์ แกส (The Cable Guy, The Cradle Will Rock, Elf, Almost Famous, Shallow Hal) ที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นวงร็อคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
Tenacious D in The Pick of Destiny เขียนบทโดย แจ๊ค แบล๊ค, ไคล์ แกส กำกับและร่วมเขียนบทโดย เลียม ลินช์ อำนวยการสร้างโดย แจ๊ค แบล๊ค, ไคล์ แกส และ สจ๊วร์ต คอนเฟลด์ (Starsky and Hutch, Dodgeball: A True Underdog Story, Zoolander) อำนวยการสร้างบริหารโดย เบน สติลเลอร์, โทบี้ เอเมอร์ริช, ริชาร์ด เบรนเนอร์, เคล บอยเตอร์ และ จอร์เจีย แคนคาเดส
ระหว่างการเดินทางของเจบีและเคจี ผู้ชมจะได้เห็นดารารับเชิญมากมาย ที่เป็นพันธมิตรของ The D ไม่ว่าจะเป็น เฟร็ด อาร์มิเซ็น จาก Saturday Night Live และ เน็ด เบลลามี่ จาก Lords of Dogtown ในบทยามประจำพิพิธภัณฑ์ร็อค, ซินเธีย เอ็ททิงเกอร์ จาก Carnivale ในบท แม่ของเจบี, โคลิน แฮงส์ จาก King Kong ในบทพี่ชาย, เอมี่ โพห์เลอร์ จาก Saturday Night Live ในบทสาวเสิร์ฟ และนักเดี่ยวไมโครโฟน พอล เอฟ ธอมป์กินส์ ในบทเจ้าของร้าน Al’s Bar แต่ดารารับเชิญที่ผู้ชมต้องเซอร์ไพรซ์ก็คือ เบน สติลเลอร์ ในบทเจ้าของร้านขายกีต้าร์ และ ทิม ร็อบบินส์ ในบทชายแปลกหน้าขาเป๋ ที่บอกทางไปพิพิธภัณฑ์แก่ The D
Tenacious D in The Pick of Destiny กำกับภาพโดย โรเบิร์ท บริงค์แมน, ออกแบบงานสร้างโดย มาร์ติน วิสต์ (The Island, Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events, Phone Booth), ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย เดย์น่า พิงค์ และตัดต่อโดย เดวิด เรนนี่ แต่งดนตรีประกอบโดย จอห์น คิง และ แอนดรูว์ กรอส ตัวคิงนั้นดูแลและอัดเสียง 15 เพลงใหม่ของ The D ด้วย โดย 3 ใน 15 มีเพลง Kickapoo ซึ่งใช้ในฉากเปิดหนัง, Break in City และ Beelzeboss ที่ร่วมแต่งโดย The D และ เลียม ลินช์ นอกจากนี้ แฟนๆ ยังจะได้ยินเพลง History of The D จากพวกเขาอีกด้วย ส่วนค่ายเพลง Epic Records นั้นวางแผงอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2006