The Goldfinch : เดอะ โกล์ดฟินช์

The Goldfinch เป็นผลงานลำดับที่ 3 แต่เป็นเรื่องแรกของ ทาร์ตต์ ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ หลังจากที่โครงการสร้าง The Secret History ผลงานเปิดตัวที่สร้างชื่อให้กับเธอต้องล้มเลิกไป เนื่องจาก อลัน ปาคูลา (Alan Pakula) โปรดิวเซอร์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 1998

นอกจากข่าวการซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ นิยายเรื่องนี้ยังทำให้ถูกพูดถึงบน Page Six เมื่อนักเขียนที่ขึ้นชื่อว่าลึกลับ เก็บตัว และแทบจะมีข่าวอะไรให้เสพเลยอย่างเธอ ตัดสินใจหันหลังให้กับตัวแทนด้านวรรณ (Literary Agent) ชื่อดังอย่าง อแมนด้า เออร์เบิน (Amanda Urban) และ ICM ไปหา Aragi ทั้งที่ เออร์เบิน เพิ่งทำเงินให้เธอกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ให้กับวอร์เนอร์บราเธอส์ (Warner Bros.)

ส่วนสาเหตุที่ ทาร์ตต์ ยกเลิกสัญญากับขาใหญ่ในวงการที่ดูแลเธอมาตลอด 3 ทศวรรษนั้น ว่ากันว่ามาจากความไม่พอใจที่ เออร์เบิน ไม่สามารถเจรจาต่อรองกับสตูดิโอให้ ทาร์ตต์ ได้มีชื่อเป็นโปรดิวเซอร์และเขียนบทภาพยนตร์ตามที่เธอต้องการ

อย่างไรก็ตาม ICM ก็ยังยืนยันกับ Page Six ว่าทั้งคู่จากกันด้วยดีและยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้จะไม่ได้ร่วมงานกันแล้วก็ตาม

ธีโอดอร์ เด็คเกอร์ (Theodore Decker) เด็กชายวัย 13 ปี รอดชีวิตอย่างหวุดหวิดแต่ต้องเสียแม่ไปกับระเบิดก่อการร้ายที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับสังคมไฮโซ วงการศิลปะและการค้าของเก่า แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ธีโอดอร์ได้ฉวยเอาภาพนกโกลด์ฟินช์ที่ควรจะถูกทำลายไปกับระเบิดมาไว้กับตัว และมันก็ชักนำภยันอันตรายมาหาตัวเขาจนแทบเอาชีวิตไม่รอด