ค้นหาหนัง

The Hypnosis สั่งจิตสยอง

The Hypnosis สั่งจิตสยอง
เรื่องย่อ : The Hypnosis สั่งจิตสยอง

โดฮยอน นักศึกษาผู้เคยสูญเสียความทรงจำในวัยเด็กและ ฮยอนจุงทั้งสองชวนกันไปรับการรักษาจากการช่วยเหลือขอศาสตราจารย์ชเวเขาเริ่มเข้ารับการรักษาด้วยการสะกดจิต แต่หลังจากที่เข้ารับการสะกดจิตแล้ว เขาก็เริ่มเห็นภาพหลอนในความทรงจำที่เต็มไปด้วยความสงสัย เพื่อนๆ เองก็เริ่มทรมานจากภาพหลอนแล้วเจอเรื่องประหลาดๆ ไปทีละคน ๆ จุดประสงค์ของ ศาสตราจารย์ชอยใจการสะกดจิตพวกเขาคืออะไรกันแน่?

IMDB : tt14406178

คะแนน : 6



หนังเขย่าขวัญสะท้านจิตจากเกาหลีใต้ อย่าง "The Hypnosis สั่งจิตหลอน" ที่มีมาพร้อมกับปมปริศนาซ่อนเงื่อน บนพื้นฐานการวังวนแห่งการสะกดจิตและดำดิ่งไปสู่ห้วงลึกของความลับที่ดำหม่น หนังแนวจิตวิทยาสยองขวัญที่ต้องมีกึ๋นเท่านั้นถึงจะทำออกมาแล้วรอด แต่ในเรื่องนี้ถือว่าบิวท์อารมณ์และโทนหนังได้หลอนจัดจ้าน เพียงแต่ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ค่อยน่าจดจำ

The Hypnosis สั่งจิตหลอน เป็นเรื่องราวของ โดฮยอน นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้เคยสูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก หลังจากประสบอุบัติเหตุ และ ฮยอนจุง ไอดอลสาวที่ถูกบูลลี่มาตลอด ด้วยความที่มีอะไรคล้าย ๆ กัน ทั้งสองเลยชวนกันไปเข้ารับการสะกดจิต ที่ควบคุมโดย ศาสตราจารย์ชเว ผู้เชียวชาญเรื่องโรค PTSD แต่หลังจากการสะกดจิต กลับมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อโดฮยอนเห็นภาพหลอนปริศนา และมันกลายเป็นต้นตอเรื่องราวเลวร้าย เขาจึงต้องค้นหาความจริงของภาพหลอนในครั้งนี้ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญมันคือเรื่องราวแห่งความตาย และความทรงจำที่เขาเห็นแท้จริงแล้ว มันคือความทรงจำของใครกันแน่

ต้องยอมรับว่า The Hypnosis สั่งจิตหลอน เป็นหนังที่มีความพยายามสร้างบรรยากาศและโทนหนังให้ออกมาชวนหลอนสะพรึงได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังสามารถหลอนได้มากกว่านี้อีก แต่เมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยาเข้ามาเป็นโครงเรื่องหลักของเรื่องแล้ว แน่นอนว่าผู้ชมจะต้องใช้สติในการรับชมอย่างสูง เพราะต้องมาแยกแยะว่า ตรงไหนเป็นเรื่องจริง ตรงไหนเป็นจินตนาการ

หนังเรื่องนี้จุดอ่อนโดยหลักก็น่าจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่แทบจะไม่มีเสน่ห์เลย ในขณะที่บทหนังอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก แต่ก็ยังไม่ใช่บทหนังที่ดีอะไร เพราะหนังไม่สามารถสร้างความสดใหม่และดึงดูดความสนใจได้เท่าที่ควร การปูเรื่องของหนังที่ผ่านไป 40 นาที ก็ยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้ชมได้เท่าที่ควร ย่อมไม่ใช่สัญญาณที่ดีต่อหนังเลยโดยแท้ แต่กระนั้นในช่วงท้ายของหนังก็ถือว่ามีจังหวะที่ดีขึ้น ถึงจะเป็นจังหวะซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่เคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น แต่ก็ช่วยบิวท์อารมณ์ความสนุกได้ดีขึ้น