IMDB : tt0311429
คะแนน : 8
ตัวหนังอาจไม่ได้เป็นสุดยอดไร้ที่ติ แต่ดูสนุกเอามันส์ได้อย่างดีครับ และสำหรับคนชอบอ่านนิยายแบบผมแล้ว การได้เห็นตัวละครจากนิยายดังๆ มาผจญภัยร่วมกันนี่มันเป็นเหมือนความฝันน่ะครับ เอาจริงๆ คือแค่เห็นพวกเขามาเจอกันก็มันส์แล้ว ส่วนตัวหนังจะเป็นไงก็ว่ากันอีกที
ต้นตำรับของหนังเรื่องนี้คืองานคอมมิคที่สร้างสรรค์โดย Alan Moore และ Kevin O’Neill ครับ ส่วนฉบับหนังก็เล่าถึงเรื่องของ 7 ฮีโร่ในตำนานจากนิยายเรื่องต่างๆ อันประกอบไปด้วย อัลลัน ควอเตอร์เมน (Sean Connery) นักล่าสมบัติ จากนิยาย King Solomon’s Mines, กัปตันนีโม (Naseeruddin Shah) จาก 20,000 Leagues Under the Sea, มีนา ฮาร์เกอร์ (Peta Wilson) จาก Dracula, มนุษย์ล่องหน (Tony Curran), ดอเรียน เกรย์ (Stuart Townsend) จาก The Picture of Dorian Gray, ทอม ซอว์เยอร์ (Shane West) จากนิยายชื่อเดียวกับตัวเขานั่นแหละ และ ดร.แจ๊คเกิล กับ มิสเตอร์ไฮด์ (Jason Flemyng) ทั้ง 7 ถูกตามตัวมาตามล่าแฟนท่อม จอมวายร้ายที่หวังจะจุดชวนสงครามโลกให้เกิดขึ้น พวกเขาก็ต้องกำจัดมันด้วยพลังพิเศษที่พวกเขามี
หนังได้ Stephen Norrington จาก Blade มากำกับ แต่ได้ข่าวว่าเขามีปัญหากับ Connery ตลอดจนบางครั้งก็เถียงกันลั่นกองถ่าย ว่ากันว่ามีอยู่หนหนึ่งที่มีเรื่องกันแรงมากจน Norrington ท้าให้ Connery ต่อยเขาที่หน้าครับ แต่ Connery ก็เลือกที่จะเดินออกจากกองถ่ายไปแทน และจากประสบการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ Norrington ยุติบทบาทในฐานะผู้กำกับมาจนถึงทุกวันนี้
แม้นักวิจารณ์จะสับยับ แต่ผมชอบครับ เพราะได้เจอกับเหล่าตัวละครในตำนานมากมาย โดยเฉพาะตัวตนที่แท้จริงของแฟนท่อม วายร้ายของเรื่อง (ตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นคือตัวละครในนิยายเรื่องหนึ่งที่ผมโปรดที่สุดครับ จำได้ตอนรู้รอบแรกนี่อึ้งมากๆ เลย) ก็เป็นความสะใจส่วนตัวโดยแท้ครับ แล้วผมว่าการเอาตัวละครเหล่านี้มายำก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหลน่าพอใจทีเดียว
หนังเต็มไปด้วยลูกเล่นทั้งแอ็กชันไล่ล่า ฉากต่อสู้ และสารพัด CG อาจมีบางช่วงที่อืดๆ บ้าง แต่ก็น่าติดตามครับ มีฉากบู๊เพียบ ชวนลุ้นอยู่ตลอด ยิ่งฉากที่เวนิสถล่มนั่น ผมว่าทำออกมาได้เมามันส์ดีจริงๆ ครับ เรื่องของเหตุผลความเป็นไปได้ก็อาจต้องลืมๆ ไปซะ เพราะหนังแฟนตาซีเต็มสูบขนาดนี้ แต่ลูกเล่นหนังก็จัดว่าเยอะดีครับ แม้ช่วงท้ายอาจจะมันส์ยังไม่สุดก็ตาม (โดยส่วนตัวรู้สึกว่าตอนไล่ล่ากันที่เวนิสนั้นทำได้มันส์กว่าตอนท้ายครับ)
ส่วนหนึ่งมาจากความชอบส่วนตัวน่ะครับ ได้เห็นตัวละครจากนิยายมามีชีวิตโลดแล่นให้เห็นตรงหน้า ความชอบเลยไหลมาเทมา มันตอบโจทย์จินตนาการสมัยเด็กๆ น่ะครับ ตอนนั้นผมชอบคิดว่าถ้าเอาตัวละครจากนิยายหรือหนังแนวฮีโร่เรื่องต่างๆ มารวมกันมันจะดีแค่ไหนนะ และกับเรื่องนี้ สำหรับผมมันเหมือนฝันที่เป็นจริงครับ ซึ่งอันนี้ก็ยอมรับครับว่ามันเป็นความชอบแบบส่วนตัวมากๆ ไม่อิงหลักอิงการอะไรทั้งสิ้น (อิงอารมณ์ความชอบล้วนๆ) ดังนั้นอ่านแล้วก็ไม่ต้องเชื่อผมมากก็ได้น่ะนะครับ
จริงๆ หนังมีแผนจะทำภาคต่อครับ แต่เนื่องด้วยคำวิจารณ์ไม่ดี และรายได้ไม่พุ่ง (ทำไป $179 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ลงทุนไป $78 ล้าน และจริงๆ ถ้ารวมงบโฆษณาเข้าไปด้วย ก็น่าจะถือว่าติดตัวแดงอยู่พอสมควรครับ) แผนทำภาคต่อเลยถูกพับไป แต่จากที่ทราบมานั้น ภาคต่อ (ถ้ามี) เหล่าฮีโร่ The League จะต้องไปปะทะกับมนุษย์ดาวอังคารครับ (อันนี้ก็เอามาจากนิยาย War of the Worlds ของ H.G. Wells นั่นเอง) แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปต่อครับ
อีกอย่างก็คือ หนังเรื่องนี้เป็นผลงานหนังจอเงินเรื่องสุดท้ายของปู่ Sean Connery ครับ… ดูทีไรก็คิดถึงปู่เขาทุกทีเลยครับ
เอาเป็นว่าถ้าท่านอยากจะดูเอามันส์ล้วนๆ เพียวๆ ล่ะก็ ลองจัดเรื่องนี้ดูครับ หนังอาจไม่ได้สุดยอด ดีเยี่ยม หรือลงตัวไปเสียทั้งหมด แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์ความบันเทิงได้เวิร์กอยู่ครับ