ค้นหาหนัง

The Matrix เดอะ เมทริกซ์ : เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199

The Matrix เดอะ เมทริกซ์ : เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199
เรื่องย่อ : The Matrix เดอะ เมทริกซ์ : เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199

นีโอ (คีอานู รีฟส์) ใช้เวลาเกือบตลอดชีวิตของเขาเพื่อ ค้นหาคำตอบให้กับคำถาม ทีว่า Matrix คืออะไร, อะไรจะเกิดขึ้นถ้านอนแล้วไม่ตื่นจากฝัน,ความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความจริง" มันเหมือนเศษเล็ก ๆ ที่ตำอยู่ในใจเขาและทําให้เขาแทบเป็นบ้า นีโอเชื่อว่า มอร์เฟียส (ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น) บุคคลที่เขารู้จักจากเรื่องเล่าขานเป็นบุคคลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมนุษย์ที่อันตรายที่สุด ที่จะสามารถให้คำตอบกับเขาได้ นีโอ ได้รับการติดต่อจาก ทรินิตี้ (แคร์รี่-แอนน์ มอสส์) สาวสวยแปลกหน้า ซึ่งนำเขาไปสู่โลกอีกโลกหนึ่งโลกใต้พิภพที่ซึ่งเขาได้พบกับมอร์เฟียส ที่นั่นนีโอ , มอร์เฟียส และทรินิตี้ ต้องต่อสู้กับเอเจนท์พิเศษที่ฉลาด โหดร้าย และเต็มไปด้วยพิษสงในการต่อสู้ ที่หมายเอาชีวิตพวกเขา ทุก ๆ การ เคลื่อนไหว, ทุก ๆ วินาที และทุก ๆ ความคิด ทำให้มีโอได้เรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับเมทริคซ์ นับเป็นความจริงที่มีค่าต่อนีโอมากกว่าชีวิตของเขาเสียอีก

IMDB : tt0133093

คะแนน : 0



The Matrix เป็นหนังแอ็กชันไซไฟระดับตำนานที่จะไม่ถูกลืมไปได้ง่ายๆ เพราะของเขาครบเครื่องจริง

ด้านแอ็กชันก็ดูเท่ห์ ดูมันส์ ดูสด, Effect พอเหมาะ ช่วยเสริมหนังได้อย่างเยี่ยม, ดนตรีก็เร้าใจและให้อารมณ์กึ่มๆ (ประหนึ่งกึ่งหลับกึ่งตื่น) เข้ากับเนื้อหนัง

หรือจะดูเอาปรัญชาสาระก็มีให้ตีความกันตามสะดวกครับ จะตีความเชิงปล่อยวาง มองว่าโลกและรสสัมผัสเป็นเพียงมายา อย่าไปยึดติด หรือจะมองกลางๆ อย่างตระหนักรู้ว่าทุกสิ่งมีเหตุปัจจัย บ้างก็ไม่จริงอย่างที่เห็น บ้างก็ไม่เห็นอย่างที่จริง ฯลฯ

ดูแล้วอิ่มอร่อยครับ มันส์ สนุก เท่ห์ ชวนให้คิด ชวนให้ทบทวนโลกที่เราตื่นมาเจออยู่ทุกวัน

มาฟังเกร็ดสนุกๆ กันครับ

+ จุดเริ่มของ The Matrix คือพี่น้อง Wachowski (ผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้) นั่งคุยกันเพื่อหาไอเดียเอาไปเขียนการ์ตูมคอมมิคชุดใหม่ แต่คิดไปคิดมาก็ได้เป็นบทหนังครับ เลยเอาไปคุยกับ Joel Silver ที่ทั้งสองเคยเขียนบทหนังเรื่อง Assassins (1995) ให้ แต่ตอนนั้นบารมีทั้งสองยังไม่มาก โปรเจคท์เลยยังไม่ผ่านดี และพวกเขาก็อาจไม่ได้กำกับด้วย

เวลาต่อมาพวกเขาเลยกำกับหนังเรื่อง Bound ขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ฝีมือ ซึ่งหนังก็เข้าตา Silver และค่าย Warner Bros. ก็รับโปรเจคท์ The Matrix ไว้ แต่ยังไม่ไฟเขียวนะครับ เนื่องจากทุนสร้างเบื้องต้นของหนังน่ะปาเข้าไป $80 ล้านเหรียญ

ในที่สุด WB ก็เสนอให้พี่น้อง Wachowski รับทุนไปก่อน $10 ล้าน ลองทำผลงานออกมานำเสนอให้บริษัทประทับใจหน่อย แล้วพวกเขาก็ถ่ายทำฉากเปิดเรื่องออกมาครับ (ฉากที่ทรินิตี้ซัดกับพวกยามและเอเย่นต์ในตอนแรกสุด) พอเอามาให้ WB ดูปรากฏว่าทุกคนชอบ เลยไฟเขียวมอบทุนให้ทันที

โดยรวมแล้วพวกเขาใช้เวลา 5 ปีครึ่งกว่าโปรเจคท์จะถึงฝั่งฝัน และมีการเกลาบทไปถึง 14 รอบกว่าจะได้ออกมาเป็นอย่างที่เราเห็น

+ Johnny Depp คือตัวเลือกแรกที่พี่น้อง Wachowski อยากให้มาเป็นนีโอ แต่ WB อยากได้ Brad Pitt หรือ Val Kilmer มากกว่า ทีนี้พอติดต่อไป 2 คนนั้นก็บอกปัดครับ แล้วก็มีการทาบอีกหลายคน เช่น

Will Smith (รายนี้บอกปัดไปเล่น Wild Wild West แทน)

Nicolas Cage (รายนี้บอกปัดเพราะสัญญากับครอบครัวไว้ว่าจะรับงานให้น้อยลง)

David Duchovny (รายนี้ติดเล่น The X-Files ภาคโรงใหญ่)

นอกจากนี้ยังมีการทาบทาม Tom Cruise และ Leonardo DiCaprio ด้วย แต่พอไม่มีใครรับ WB ก็เริ่มจะยอมเลือก Depp ตามที่ผู้กำกับต้องการ แต่จู่ๆ WB ก็นึกถึง Keanu Reeves ขึ้นมา และบอกว่า Reeves น่าจะเหมาะกับคอนเซปท์ของหนังมากกว่า ซึ่งพี่น้อง Wachowski ก็เห็นด้วยในที่สุดครับ

+ Gary Oldman, โจวเหวินฟะ และ Samuel L. Jackson เคยถูกเล็งให้มาเป็นมอร์เฟียส และ Russell Crowe ก็เคยถูกติดต่อไป แต่เขาก็บอกปัดบทนี้ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่เก็ทว่าหนังเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร “ผมอ่านบทได้ไม่เกินหน้าที่ 42 ครับ ผมไม่เข้าใจบทจริงๆ”

+ Jean Reno ถูกทาบให้มาเป็นเอเยนต์สมิธ แต่เขาบอกปัดเพื่อไปเล่น Godzilla (ฉบับปี 1998) แทน

+ หลายฉากในหนัง (โดยเฉพาะฉากบนหลังคาตอนต้นเรื่อง) คือฉากเดียวกับที่ใช้ใน Dark City

+ ตอนแรกหยวนหวู่ปิงปฏิเสธจะทำคิวบู๊ให้หนังเรื่องนี้ เว้นแต่เขาจะได้สิทธิ์ขาดในการคุมคิวบู๊ทั้งหมด และต้องให้ดาราไปฝึกกับเขาแบบจริงจังเป็นเวลา 4 เดือน สรุปว่าพี่น้อง Wachowski ก็ตอบตกลง

+ แรกเริ่มเดิมทีเสื้อโค้ทของนีโอจะเป็นสีเทาเงินครับ

+ มีคนบันทึกไว้ว่า 45 นาทีแรกของหนัง นีโอพูด 80 ประโยค และ 44 ประโยคในนั้นคือประโยคคำถาม… โดยเฉลี่ยคือพี่แกถามทุกๆ 1 นาทีนั่นเอง (ผมว่าตอนดูรอบแรก คนดูก็คงถามไม่แพ้กัน)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมชอบที่สมิธกัดมนุษย์ไว้อย่างเจ็บแสบ (ตอนทรมานมอร์เฟียส) ที่บอกว่า มนุษย์ไม่ใช่สัตว์เลือดอุ่นหรอก แต่เป็นเหมือนไวรัสที่ผลาญทรัพยากรจนเกลี้ยงแล้วก็ย้ายถิ่นไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็ย้ายไปผลาญทรัพยากรอันใหม่ แทนที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น หรือเรียนรู้จากโลกเพื่อปรับตัวให้สร้างสรรค์มากขึ้น

พูดได้น่าคิดทีเดียว คุณสมิธ (พี่ Hugo Weaving ก็เล่นบทนี้ไว้ได้อย่างสุดยอดจริงๆ)

สรุปว่า The Matrix นั้น นอกจากจะดูเพื่อความมันส์และเทคนิคภาพดีๆ แล้ว ยังมีไว้ดูเพื่อตั้งคำถาม ดูเพื่อรู้จักโลก ดูเพื่อรู้จักคน ดูเพื่อรู้จักตน

ว่าแต่ในตอนนี้… ผมตื่นหรือหลับอยู่กันแน่หนอ