IMDB : tt0091091
คะแนน : 6
ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานร่วม 50 ปีของหงจินเป่าในวงการหนัง ผมยกให้ หินกินเหล็ก หรือ Millionaire's Express หนังในปี 1986 เป็นงานที่เป็นมาสเตอร์พีซที่สุดของเขาแล้ว(จากบรรดามาสเตอร์พีซอีกหลายๆ เรื่อง) เป็นงานรวมดาราแทบจะเรียกได้ว่าเกือบทั้งเกาะฮ่องกง หงจินเป่าทั้งสร้าง และนำแสดงเองโดยนำศิษย์น้องหยวนเปียวมาเข้าคู่ด้วยกัน หนังเรื่องนี้มีความเป็นหนังสไตล์ western ตะวันตกชัดเจน
หินกินเหล็กมีโครงเรื่องหลวมๆ เพื่อเปิดโอกาสให้สร้างมุกตลกแทรกเข้ามาทั้งเรื่อง เมื่อหงจินเป่าแสดงเป็นชิงฟงทินผู้ร้ายหนีคดีกลับมายังเมืองบ้านเกิดของเขา พร้อมนำกลุ่มผู้หญิงเพื่อหวังจะเปิดโรงแรมที่มีทั้งคาสิโน ห้องพักและคุณตัว ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางแผนระเบิดรางรถไฟที่จะทำให้ผู้โดยสารเศรษฐีที่เดินทางมาพร้อมรถไฟขบวนมิลเลี่ยนแนร์ เอ็กเพรสต้องแวะพักที่ชุมชนรกร้างแห่งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มโจรที่พยายามปล้นชิงแผนที่สมัยจิ๋นซีฮ่องเต้จากกลุ่มซามูไรลึกลับสามคน ขณะที่กลุ่มผู้โดยสาร และชาวเมืองก็เต็มไปด้วยตัวละครประเภท "ไม่ปกติ" อยู่เต็มไปหมด ส่วนหยวนเปียวเล่นเป็นหัวหน้าหน่วยดับเพลิงผู้พยายามจะจับกุมหงจินเป่าให้ได้แต่เมื่อพบกับกลุ่มโจรพวกเขาจึงต้องร่วมมือกัน
นี่คือหนังที่ทะเยอทะยานที่สุดของหงจินเป่าแล้ว โปรดักชั่นใหญ่ คิวบู๊จัดเต็ม นอกจากรวบรวมดาราเกือบทั้งเกาะฮ่องกงมาไว้ด้วยกันแล้วยังเป็นการผสานสไตล์หนังตะวันตกบวกรวมกับกังฟูตะวันออก เต็มไปด้วยฉากที่น่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างหยวนเปียวกับหงจินเป่า การต่อสู้ระหว่างหงจินเป่ากับซินเทีย รอธร็อค หยวนเปียวกับ ดิก เว่ย(นักแสดงไต้หวันที่มาหากินในฮ่องกง เป็นดาวร้ายที่ผมชอบมากๆ)ที่ถือได้ว่าเป็นฉากต่อสู้ไฮไลท์ที่สุดของเรื่อง นอกจากนั้นก็ยังมีหวังจังลีมารับบทในกลุ่มซามูไรก็แสดงท่วงทีการต่อสู้ที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะการเตะ ส่วนริชาร์ด นอร์ตัน ดาราฝรั่งขาประจำของหนังกังฟูก็มาร่วมแจมด้วย เรียกได้ว่าจะขาดก็เพียงแต่เฉินหลงเท่านั้น
หากจะมีนักแสดงคนหนึ่งที่เปล่งประกายท่ามกลางนักบู๊ทั่วเกาะฮ่องกงก็คงจะเป็นหยวนเปียว แม้จะไม่ใช่บทนำเต็มตัวแต่ เขาก็ทรงพลังและสร้างความรู้สึกตื่นตะลึงน่าเหลือเชื่อกับการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อยเตะการกระโดด เรียกได้ว่าหินกินเหล็กเป็นงานที่หงจินเป่าเปิดโอกาสให้หยวนเปียวโชว์ โดยเฉพาะฉากเท่ๆ อย่างการตีลังกาลงมาจากดาดฟ้าที่น่าหวาดเสียว การต่อสู้ที่รุนแรงกับดิก เว่ยชนิดที่ว่าเร็วจนน่าตกใจ หากใครผิดคิวสักหน่อยมีหวังเจ็บหนักแน่ๆ ถือได้ว่าเป็นฉากต่อสู้ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในหนังกังฟูเลยก็ว่าได้
อีกส่วนหนึ่งที่ทำได้ดีมากๆ คือการนำเสนอนักรบซามูไรของญี่ปุ่น 3 คนที่แสดงโดยยาซูอากิ คูราตะ (ชาวญี่ปุ่นที่มาดังมากในฮ่องกงกับหนังกังฟู), หวังจังลี และยูคาริ โอชิม่า (สาวญี่ปุ่นที่ฝึกคาราเต้มาตั้งแต่เด็ก โด่งดังในฮ่องกงยุค 80 ก่อนจะไปดังในฟิลิปปินส์ในยุค 90 ฉายาเฉินหลงหญิง) แม้กลุ่มซามูไรจะไม่ได้รับวางให้เป็นตัวร้ายหลักของเรื่องแต่ฉากการต่อสู้ของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมมากๆโดยเฉพาะการประกบคู่ต่อสู้กับริชาร์ด นอร์ตันและยาซูอากิ คูราตะ ที่มีทั้งความกระฉับกระเฉงรวดเร็ว รุนแรง มีอารมณ์ขัน ส่วนยูคาริก็มีฉากโชว์ที่น่าจดจำ ในขณะที่หวังจังลียังคงน่าทึ่งมากๆ กับการเตะของเขารวมไปถึงฉากสุดท้ายที่ชุลมุนไปหมด เรียกว่าหงจินเป่าจัดให้ทุกคนได้โชว์กันเต็มที่
อีกคนนึงที่เข้ามาเสริมคือนักล่าเงินรางวัลที่ตามจับหงจินเป่าแสดงโดยเคนนี บี เสียดายที่พอถึงช่วงฉากการต่อสู้แกหายไปจากเรื่องเลย
หยวนเปียวแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดทางด้านการแสดงฉากต่อสู้เสี่ยงตาย รูปลักษณ์ที่อาจจะไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่เขาดูแล้วเป็นคนที่มีความอบอุ่น บวกกับการทำท่าทางในฉากอันตรายที่เรียกได้ว่าทำได้ไง ดูแล้วอึ้งจริงๆ เขาเป็นเหมือนกับเฉินหลง หงจินเป่า โจวชิงฉือ หรือโจวเหวินฟะ คือท่ามกลางนักแสดงร้อยพันคน เขาคือพวกที่ไม่ว่ายังไงก็โดดเด่นจนรู้สึกได้
หวังอยู่มาปรากฏกายรับเชิญเล็กน้อยในบทอาจารย์หวงผู้ร่วมโดยสารขบวนรถไฟ ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายก่อนที่จะลาจากวงการหนังไปอย่างยาวนาน ส่วนดาราคนอื่นเขียนถึงไม่ไหว เยอะมากจริงๆ
หินกินเหล็กประสบความสำเร็จสูงมากในปี 1986 ทำเงินในฮ่องกงสูงถึงเกือบ 29 ล้านเหรียญ แต่ยังเป็นเพียงหนังทำเงินสูงสุดลำดับ 2 เท่านั้น เพราะปีนั้นยังมี A Better Tomorrow ที่ทำรายได้ไปเกือบ 34.7 ล้านเหรียญฮ่องกง ส่วนปีถัดมาหงจินเป่าทำ Eastern Condors หรือ ดิบ หนังยังดีและสนุกถือเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซอีกเรื่อง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ผมยังยกให้หินกินเหล็กคืออันดับหนึ่งของพี่หมูจริงๆ