The Replacements | ทีมอึดหัวใจสะโอด
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฤดูกาลแข่งขัน นัดตัดเชือกก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลทีม Washington Sentinels กลับประท้วงไม่ยอมลงเล่น เมื่อเข้าตาจน เอ็ดเวิร์ด โอ นีล (แจ็ค วอร์เด็น) เจ้าของทีม Sentinels จึงหาทางออกด้วยการดึงตัวโค้ชลายครามชื่อ จิมมี่ แม็คจินตี้ (ยีน แฮ็คแมน) มาเสาะหาผู้ลงเล่นแทน โดยต้องรวบรวมให้ได้ครบทีมภายในสัปดาห์เดียว การประท้วงไม่ยอมลงเล่นของนักกีฬาตัวจริงย่อมเป็น ฝันร้าย ของทั้งบรรดาแฟนๆ และเจ้าของทีม แต่สำหรับ เชน ฟัลโก้ (คีอานู รีฟส์) และพรรคพวกไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางแล้วต้องถือว่าเป็นโอกาสทองที่พวกเขารอคอยมาตลอดชีวิต แม้ว่า เชน จะทำงานขัดถูทำความสะอาดเรือที่ท่าเรือ แม็คจินตี้ กลับเห็นคุณลักษณะสำคัญที่นักกีฬามืออาชีพทั้งหลายบกพร่อง นั่นคือ เขาเล่นกีฬาด้วยใจรัก ไม่ได้ลงแข่งเพื่อสินจ้างรางวัล เช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ผ่านการเลือกเฟ้นให้ลงเล่นเป็นตัวแทน อาทิ คลิฟฟอร์ด แฟร้งคลิ้น (ออร์แลนโด้ โจนส์) ตัววิ่งผู้น่ารัก แต่ยังประสานกับผู้เล่นอื่นไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไร แดเนียล เบทแมน (จอน แฟฟโร) นายตำรวจอารมณ์ร้อน บรรดาผู้เล่นรองบ่อนเหล่านี้ไม่ได้เหมาะที่สุดที่จะเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลหรอก แต่ความมุ่งมั่น และความตั้งใจที่จะเอาชนะ ผสมผสานกับคุณสมบัติป่วนเชิงชวนหัวของพวกเขา ก่อให้เกิดเรื่องราวเฮฮาว่าด้วยผู้คนที่หาใครเปรียบลำบากกลุ่มนี้ขึ้นมาได้
IMDB : tt0191397
คะแนน : 9
หนังตลกบนสนามอเมริกันฟุตบอลครับ เรื่องของทีมฟุตบอลที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นทีมรวมนักเล่นระดับสำรอง แต่พวกเขาก็สู้สุดใจทำสุดชีวิตเพื่อชิงชัยมา โดยมี เชน ฟัลโก (Keanu Reeves) เป็นผู้นำ และจิมมี่ แม็กกินตี้ (Gene Hackman) เป็นโค้ช
เป็นหนังแนวกีฬาที่ดูสนุกเกินคาดหมายครับ ในที่นี้ไม่ได้แปลว่ามันสุดยอดมากมายนะครับ แต่มันถือได้ว่าดูเพลิน มีมุขตลกในระดับที่พอคลายเครียด มีดาราดีๆ ร่วมแสดงกันค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะ Reeves, Hackman, Orlando Jones, Rhys Ifans และ Jon Favreau ผู้กำกับ Iron Man 2 ภาคแรกไปร่วมด้วย (พี่แกนี่ก็ตัวขโมยฮาอีกคนประจำเรื่องครับ) และที่ลืมไม่ได้คือนางเอกที่หน้าตาสวย น่ารัก แต่ก็ไม่ดังสักทีอย่าง Brooke Langton ที่แม้จะไม่ถึงกับโดดเด่นแต่ก็เล่นคู่กับ Reeves ได้แบบน่าพอใจ
ถ้าอยากดูหนังแนวแข่งกีฬาแบบไม่เครียด พร้อมสูตรสำเร็จประเภททีมรองบ่อนร่วมแรงแข็งขันจนสร้างปาฏิหาริย์ได้ เรื่องนี้ถือว่าครบสูตรแบบนั้นเลยครับ ดูสนุกไม่เลว แต่ก็อย่างที่บอกน่ะครับว่าไม่ได้สนุกมากมหาศาลจนห้ามพลาดขนาดนั้น ดูแบบไม่คาดหวังแหละดีสุดแล้วครับ แล้วความสนุกมันจะไหลมาเอง
อย่างไรก็ดีทีเด็ดประการหนึ่งของหนังก็คือการเอาเพลง I Will Survive มาใช้งานได้แบบเหมาะเหม็งจริงๆ ฉากที่ว่านี่ดูแล้วแฮปปี้ดีแท้ จนถือได้ว่าเพลงๆ นี้สร้างไฮไลท์ให้หนังได้เยอะอยู่เหมือนกันครับ